4. Label it เกมนี้เหมาะกับนักเรียนใ

4. Label it
เกมนี้เหมาะกับนักเรียนใหม่ทุกระดับอายุที่ต้องได้รับการฝึกฝนหรือสอนคำศัพท์ง่ายๆ หากนักเรียนสามารถแยกแยะเสียงของพยัญชนะแต่ละตัวได้ นักเรียนก็สามารถเล่นเกมนี้ได้แล้ว
จุดประสงค์
1. เพื่อทบทวนคำศัพท์ที่เรียนไปแล้ว
2. เพื่อให้นักเรียนสะกดคำศัพท์ได้ถูกต้อง
3. เพื่อให้นักเรียนออกเสียงและรู้ความหมายคำศัพท์
4. เพื่อฝึกทักษะการฟัง
อุปกรณ์
1. บัตรคำ
2. เทปกาว
3. ป้ายชื่อ
วิธีเล่น
1. ใช้วิธีเขียนชื่อของสิ่งของทุกอย่างในห้องเรียนลงบนกระดาษ
2. ติดกระดาษไว้ที่ของสิ่งนั้น เพื่อทำให้นักเรียนคุ้นเคยกับชื่อเหล่านั้น
3. ให้นักเรียนพูดตามขณะเก็บสิ่งของเหล่านั้นขึ้นมาแต่ละชิ้น
4. ต่อมาดึงป้ายชื่อออก และให้นักเรียนพูดชื่อสิ่งของเหล่านั้นทีละอย่าง
5. นำป้ายไปแปะไว้ให้ถูกด้วย
6. ให้นักเรียนเอาป้ายชื่อไปแปะที่ของชิ้นไหนก็ได้ที่นักเรียนต้องการ
7. ทำกิจกรรมนี้ซ้ำสองสามครั้ง พอนักเรียนสามารถแปะป้ายลงบนสิ่งของได้ถูกต้องหมดโดยที่ครูไม่ต้องคอยตรวจแล้ว ครูสามารถใช้กิจกรรมนี้กับคำศัพท์เกี่ยวกับคำนามที่สามารถแปะรูปลงไปได้ เช่น types of food, body parts, parts of a room in a house, animals เป็นต้น
ตารางที่ 4 ข้อดีและข้อเสียของเกม Label it
ข้อดีของเกม ข้อเสียของเกม
7. ได้ฝึกทักษะการสะกดคำ
8. ได้ฝึกทักษะการฟัง และฝึกสมาธิ
9. ทำให้จดจำคำศัพท์ได้ดี
10. สนุกสนานตื่นเต้น
11. ใช้อุปกรณ์น้อย และราคาไม่แพง
12. นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วม 6. ใช้เวลาค่อนข้างมาก
7. หากผู้ใดไม่แม่นคำศัพท์จะเสียเปรียบ
8. ถ้าผู้ใดไม่มีใจจดจ่ออย่างตลอดเวลา จะพลาดคำศัพท์จากการฟัง
9. เน้นเฉพาะคำศัพท์ไม่ได้เน้นทักษะการนำศัพท์มาใช้ในประโยค
10. นักเรียนไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย




5. Whisper Game
จุดประสงค์
1. เพื่อทบทวนคำศัพท์ที่เรียนมาแล้ว
2. เพื่อให้นักเรียนสะกดคำศัพท์และออกเสียงได้ถูกต้อง
3. เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการฟัง
อุปกรณ์
1. บัตรคำ
2. กระดาษ
3. ปากกา
วิธีการเล่น
1. แบ่งผู้เล่นออกเป็น 5 แถว ๆ ละ 7 คน ที่เหลือเป็นกรรมการ
2. ให้นักเรียนนั่งเป็นแถวตอน 5 แถว ห่างกันพอสมควร
3. คนที่อยู่ข้างหลังสุดของแต่ละแถวออกมาหาครู และครูยื่นบัตรคำศัพท์ให้แต่ละคนดู ไม่เหมือนกัน คือ 5 คน 5 คำ เสร็จแล้วเข้าไปประจำที่
4. ครูให้สัญญาเริ่ม คนที่ได้ดูบัตรคำหรือผู้ที่นั่งหลังสุดจะต้องกระซิบเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้าถัดไปโดยสะกดคำศัพท์ตัวนั้น พร้อมทั้งออกเสียงคำ แล้วกระซิบต่อไปยังคนที่ 2 คนที่ 3 กระซิบไปเรื่อย ๆ จนครบ 7 คน โดยไม่เห็นบัตรคำเช่น j – u – i – c – e : juice คนที่ 7 อยู่ข้างหน้าสุด ออกมาเขียนคำศัพท์ในกระดาษที่ครูแจกให้ พร้อมกับความหมาย
5. ทีมใดเขียนสะกดถูกต้อง ออกเสียงและบอกความหมายถูกต้องและเร็วที่สุด ทีมนั้นได้ 1คะแนน
6. เริ่มแข่งขันรอบต่อไป คนที่ดูบัตรคำและเป็นคนกระซิบแรกในรอบก่อนจะมานั่งหน้าสุดและให้คนนั่งหลังสุดของแต่ละแถวออกมาหาครู เพื่อดูบัตรคำ และกระซิบบอกเพื่อต่อ ๆ กันไป ทำเช่นเดียวกับครั้งแรกจนครบทุกคน
7. ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจคำศัพท์ และนับคะแนน ทีมใดถูกต้องและได้คะแนนมากที่สุดทีมนั้นเป็นผู้ชนะ
กติกาการเล่น
นักเรียนจะต้องกระซิบนักเรียนที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น เมื่อกระซิบผ่านไปแล้ว ห้ามหันหลังมาถามกัน


ตารางที่ 5 ข้อดีและข้อเสียของเกม Whisper
ข้อดีของเกม ข้อเสียของเกม
1. นักเรียนได้ฝึกทักษะทั้งหลายอย่าง ฟังพูด เขียน
2. ได้ทบทวนความหมายคำศัพท์
3. ใช้อุปกรณ์ไม่มาก และไม่แพง
4. อุปกรณ์หาได้ง่าย
5. นักเรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย 1. นักเรียนมีส่วนร่วมไม่ครบทุกคน (ถ้า
2. นักเรียนมีจำนวน 40 คนขึ้นไป)
3. ใช้เนื้อที่มาก
4. ใช้เวลาค่อนข้างมาก
5. ไม่ได้ฝึกนำคำศัพท์มาใช้ในประโยค
6. นักเรียนมีโอกาสผิดกติกาการเล่นโดยแอบหันกลับมาถามเพื่อน

6. Spelling game
จุดประสงค์
1. เพื่อให้นักเรียนออกเสียง รู้ความหมาย และสะกดคำศัพท์ได้ถูกต้อง
2. เพื่อให้นักเรียนนำคำศัพท์มาใช้ในประโยคได้โดยการแต่งประโยค
อุปกรณ์
1. บัตรอักษร 4 ชุด
2. ภาพสัตว์


วิธีการเล่น
1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 ทีม คือ ทีม A , B , C และ D แล้วแจกบัตรตัวอักษรให้ทีมละ 1 ชุด
2. ครูโชว์ภาพสัตว์ พร้อมกับตั้งคำถาม What’s this? แล้วให้แต่ละทีมช่วยกันหาบัตรอักษรมาต่อกันเพื่อให้ได้คำศัพท์ตามภาพนั้น
3. ทีมใดหาตัวอักษรของคำศัพท์ตามรูปภาพนั้นครบ ก็ให้สมาชิกในกลุ่มถือบัตรตัวอักษรออกมายืน
4. ทีมใดที่เรียงตัวอักษรได้ถูกต้อง และเร็วที่สุดเป็นผู้ชนะ
5. คำศัพท์แต่ละคำที่ครูกำหนดให้ นักเรียนจะออกมาถือบัตรเรียงกัน ดังนี้

6. ให้ทีมแพ้ทุกคนสะกดคำศัพท์ และอ่านออกเสียงคำว่า crocodile ที่ผู้ชนะถืออยู่ 2ครั้ง
7. ให้แต่ละทีมนำคำศัพท์ที่เล่นวันนี้ แต่งประโยค 1 ประโยค ซึ่งคำศัพท์แต่ละกลุ่มไม่ซ้ำกัน
8. แต่ละกลุ่มเขียนประโยคที่แต่งบนกระดาน พร้อมกับอ่านออกเสียงพร้อม ๆ กัน ทีละกลุ่ม
I see crocodiles at Crocodile Farm.
ตารางที่ 6 ข้อดีและข้อเสียของเกม spelling bee
ข้อดีของเกม ข้อเสียของเกม
1. เป็นการทบทวนคำศัพท์ที่เรียน
2. ฝึกทักษะการสะกดคำ และออกเสียงคำศัพท์
3. ฝึกทักษะการเขียน
4. สามารถนำคำศัพท์มาใช้ในประโยคได้
5. มีภาพประกอบช่วยให้เข้าใจความหมายคำศัพท์ได้ง่าย
6. อุปกรณ์หาได้ง่าย และราคาไม่แพง
7. นักเรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย 1. ใช้อุปกรณ์คือบัตรตัวอักษรค่อนข้างมาก
2. ใช้เวลาค่อนข้างนาน
3. นักเรียนมีส่วนร่วมไม่ครบทุกคน

อ้างอิงจาก สำเนา ศรีประมงค์ (2547 : 52)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. ป้ายชื่อนั้น เกมนี้เหมาะกับนักเรียนใหม่ทุกระดับอายุที่ต้องได้รับการฝึกฝนหรือสอนคำศัพท์ง่าย ๆ หากนักเรียนสามารถแยกแยะเสียงของพยัญชนะแต่ละตัวได้นักเรียนก็สามารถเล่นเกมนี้ได้แล้ว จุดประสงค์1. เพื่อทบทวนคำศัพท์ที่เรียนไปแล้ว2. เพื่อให้นักเรียนสะกดคำศัพท์ได้ถูกต้อง3. เพื่อให้นักเรียนออกเสียงและรู้ความหมายคำศัพท์4. เพื่อฝึกทักษะการฟังอุปกรณ์1. บัตรคำ2. เทปกาว3. ป้ายชื่อวิธีเล่น1. ใช้วิธีเขียนชื่อของสิ่งของทุกอย่างในห้องเรียนลงบนกระดาษ2. ติดกระดาษไว้ที่ของสิ่งนั้นเพื่อทำให้นักเรียนคุ้นเคยกับชื่อเหล่านั้น 3. ให้นักเรียนพูดตามขณะเก็บสิ่งของเหล่านั้นขึ้นมาแต่ละชิ้น 4. ต่อมาดึงป้ายชื่อออกและให้นักเรียนพูดชื่อสิ่งของเหล่านั้นทีละอย่าง5. นำป้ายไปแปะไว้ให้ถูกด้วย 6. ให้นักเรียนเอาป้ายชื่อไปแปะที่ของชิ้นไหนก็ได้ที่นักเรียนต้องการ 7. ทำกิจกรรมนี้ซ้ำสองสามครั้งพอนักเรียนสามารถแปะป้ายลงบนสิ่งของได้ถูกต้องหมดโดยที่ครูไม่ต้องคอยตรวจแล้วครูสามารถใช้กิจกรรมนี้กับคำศัพท์เกี่ยวกับคำนามที่สามารถแปะรูปลงไปได้เช่นชนิดของอาหาร อวัยวะ ส่วนของห้องพักในบ้าน เป็นต้นสัตว์ กำหนดชื่อข้อดีและข้อเสียของเกมตารางที่ 4ข้อดีของเกมข้อเสียของเกม7. ได้ฝึกทักษะการสะกดคำ8. ได้ฝึกทักษะการฟังและฝึกสมาธิ9. ทำให้จดจำคำศัพท์ได้ดี10. สนุกสนานตื่นเต้น11. ใช้อุปกรณ์น้อยและราคาไม่แพง12. นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วม 6 ใช้เวลาค่อนข้างมาก7. หากผู้ใดไม่แม่นคำศัพท์จะเสียเปรียบ8. ถ้าผู้ใดไม่มีใจจดจ่ออย่างตลอดเวลาจะพลาดคำศัพท์จากการฟัง9. เน้นเฉพาะคำศัพท์ไม่ได้เน้นทักษะการนำศัพท์มาใช้ในประโยค10. นักเรียนไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย5. เกม whisperจุดประสงค์1. เพื่อทบทวนคำศัพท์ที่เรียนมาแล้ว2. เพื่อให้นักเรียนสะกดคำศัพท์และออกเสียงได้ถูกต้อง3. เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการฟังอุปกรณ์1. บัตรคำ2. กระดาษ3. ปากกาวิธีการเล่น1. แบ่งผู้เล่นออกเป็น 5 แถวๆ ล่ะ 7 คนที่เหลือเป็นกรรมการ2. ให้นักเรียนนั่งเป็นแถวตอน 5 แถวห่างกันพอสมควร3. คนที่อยู่ข้างหลังสุดของแต่ละแถวออกมาหาครูและครูยื่นบัตรคำศัพท์ให้แต่ละคนดูไม่เหมือนกันคือ 5 คน 5 คำเสร็จแล้วเข้าไปประจำที่4. ครูให้สัญญาเริ่มคนที่ได้ดูบัตรคำหรือผู้ที่นั่งหลังสุดจะต้องกระซิบเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้าถัดไปโดยสะกดคำศัพท์ตัวนั้นพร้อมทั้งออกเสียงคำแล้วกระซิบต่อไปยังคนที่ 2 คนที่ 3 กระซิบไปเรื่อยๆ จนครบ 7 คนโดยไม่เห็นบัตรคำเช่น j-u-i-c-e: น้ำคนที่ 7 อยู่ข้างหน้าสุดออกมาเขียนคำศัพท์ในกระดาษที่ครูแจกให้พร้อมกับความหมาย5. ทีมใดเขียนสะกดถูกต้องออกเสียงและบอกความหมายถูกต้องและเร็วที่สุดทีมนั้นได้ 1คะแนน6. เริ่มแข่งขันรอบต่อไปคนที่ดูบัตรคำและเป็นคนกระซิบแรกในรอบก่อนจะมานั่งหน้าสุดและให้คนนั่งหลังสุดของแต่ละแถวออกมาหาครูเพื่อดูบัตรคำและกระซิบบอกเพื่อต่อๆ กันไปทำเช่นเดียวกับครั้งแรกจนครบทุกคน7. ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจคำศัพท์และนับคะแนนทีมใดถูกต้องและได้คะแนนมากที่สุดทีมนั้นเป็นผู้ชนะกติกาการเล่นนักเรียนจะต้องกระซิบนักเรียนที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้นเมื่อกระซิบผ่านไปแล้วห้ามหันหลังมาถามกัน Whisper 5 ข้อดีและข้อเสียของเกมตารางที่ข้อดีของเกมข้อเสียของเกม1. นักเรียนได้ฝึกทักษะทั้งหลายอย่างฟังพูดเขียน2. ได้ทบทวนความหมายคำศัพท์3. ใช้อุปกรณ์ไม่มากและไม่แพง4. อุปกรณ์หาได้ง่าย5. นักเรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย 1 นักเรียนมีส่วนร่วมไม่ครบทุกคน (ถ้า2. นักเรียนมีจำนวน 40 คนขึ้นไป) 3. ใช้เนื้อที่มาก4. ใช้เวลาค่อนข้างมาก5. ไม่ได้ฝึกนำคำศัพท์มาใช้ในประโยค6. นักเรียนมีโอกาสผิดกติกาการเล่นโดยแอบหันกลับมาถามเพื่อน6. เกมการสะกดจุดประสงค์1. เพื่อให้นักเรียนออกเสียงรู้ความหมายและสะกดคำศัพท์ได้ถูกต้อง2. เพื่อให้นักเรียนนำคำศัพท์มาใช้ในประโยคได้โดยการแต่งประโยคอุปกรณ์1. บัตรอักษร 4 ชุด2. ภาพสัตว์วิธีการเล่น1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 ทีมคือทีม A, B, C และ D แล้วแจกบัตรตัวอักษรให้ทีมละ 1 ชุด2. ครูโชว์ภาพสัตว์พร้อมกับตั้งคำถามนี่คืออะไร แล้วให้แต่ละทีมช่วยกันหาบัตรอักษรมาต่อกันเพื่อให้ได้คำศัพท์ตามภาพนั้น3. ทีมใดหาตัวอักษรของคำศัพท์ตามรูปภาพนั้นครบก็ให้สมาชิกในกลุ่มถือบัตรตัวอักษรออกมายืน4. ทีมใดที่เรียงตัวอักษรได้ถูกต้องและเร็วที่สุดเป็นผู้ชนะ5. คำศัพท์แต่ละคำที่ครูกำหนดให้นักเรียนจะออกมาถือบัตรเรียงกันดังนี้ 6. จระเข้ให้ทีมแพ้ทุกคนสะกดคำศัพท์และอ่านออกเสียงคำว่าที่ผู้ชนะถืออยู่ 2ครั้ง7. ให้แต่ละทีมนำคำศัพท์ที่เล่นวันนี้แต่งประโยค 1 ประโยคซึ่งคำศัพท์แต่ละกลุ่มไม่ซ้ำกัน8. แต่ละกลุ่มเขียนประโยคที่แต่งบนกระดานพร้อมกับอ่านออกเสียงพร้อมๆ กันทีละกลุ่มเห็นจระเข้ที่ฟาร์มจระเข้การแข่งขันสะกดคำ 6 ข้อดีและข้อเสียของเกมตารางที่ข้อดีของเกมข้อเสียของเกม1. เป็นการทบทวนคำศัพท์ที่เรียน2. ฝึกทักษะการสะกดคำและออกเสียงคำศัพท์3. ฝึกทักษะการเขียน4. สามารถนำคำศัพท์มาใช้ในประโยคได้5. มีภาพประกอบช่วยให้เข้าใจความหมายคำศัพท์ได้ง่าย6. อุปกรณ์หาได้ง่ายและราคาไม่แพง7. นักเรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย 1 ใช้อุปกรณ์คือบัตรตัวอักษรค่อนข้างมาก2. ใช้เวลาค่อนข้างนาน3. นักเรียนมีส่วนร่วมไม่ครบทุกคนอ้างอิงจากสำเนาศรีประมงค์ (2547:52)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. ฉลาก เพื่อทบทวนคำศัพท์ที่เรียนไปแล้ว2 เพื่อฝึกทักษะการฟังอุปกรณ์1 บัตรคำ2 เทปกาว3 ป้ายชื่อวิธีเล่น1 ติดกระดาษไว้ที่ของสิ่งนั้น ต่อมาดึงป้ายชื่อออก นำป้ายไปแปะไว้ให้ถูกด้วย6 ทำกิจกรรมนี้ซ้ำสองสามครั้ง เช่นชนิดของอาหาร, ส่วนของร่างกายบางส่วนของห้องพักในบ้านของสัตว์เป็นต้นตารางที่ 4 ข้อดีและข้อเสียของเกมป้ายมันข้อดีของเกมข้อเสียของเกม7 ได้ฝึกทักษะการสะกดคำ8 ได้ฝึกทักษะการฟังและฝึกสมาธิ9 ทำให้จดจำคำศัพท์ได้ดี10 สนุกสนานตื่นเต้น11 ใช้อุปกรณ์น้อยและราคาไม่แพง12 นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วม 6. ใช้เวลาค่อนข้างมาก7 ถ้าผู้ใดไม่มีใจจดจ่ออย่างตลอดเวลาจะพลาดคำศัพท์จากการฟัง9 นักเรียนไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย5 กระซิบเกมจุดประสงค์1 เพื่อทบทวนคำศัพท์ที่เรียนมาแล้ว2 บัตรคำ2 กระดาษ3 ปากกาวิธีการเล่น1 แบ่งผู้เล่นออกเป็น 5 แถว ๆ ละ 7 คนที่เหลือเป็นกรรมการ2 ให้นักเรียนนั่งเป็นแถวตอน 5 แถวห่างกันพอสมควร3 และครูยื่นบัตรคำศัพท์ให้แต่ละคนดูไม่เหมือนกันคือ 5 คน 5 คำเสร็จแล้วเข้าไปประจำที่4 ครูให้สัญญาเริ่ม พร้อมทั้งออกเสียงคำแล้วกระซิบต่อไปยังคนที่ 2 คนที่ 3 กระซิบไปเรื่อย ๆ จนครบ 7 คนโดยไม่เห็นบัตรคำเช่น J - ยู - ฉัน - c - E: น้ำผลไม้ 7 คนที่อยู่ข้างหน้าสุด พร้อมกับความหมาย5 ทีมใดเขียนสะกดถูกต้อง ทีมนั้นได้ 1 คะแนน6 เริ่มแข่งขันรอบต่อไป เพื่อดูบัตรคำและกระซิบบอกเพื่อต่อ ๆ กันไปทำเช่นเดียวกับครั้งแรกจนครบทุกคนที่ 7 ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจคำศัพท์และนับคะแนน เมื่อกระซิบผ่านไปแล้วห้ามหันหน้ามาถามกันตารางที่ 5 ข้อดีและข้อเสียของเกมกระซิบข้อดีของเกมข้อเสียของเกม1 นักเรียนได้ฝึกทักษะทั้งหลายอย่างฟังพูดเขียน2 ได้ทบทวนความหมายคำศัพท์3 ใช้อุปกรณ์ไม่มากและไม่แพง4 อุปกรณ์หาได้ง่าย5 นักเรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย 1. นักเรียนมีส่วนร่วมไม่ครบทุกคน (ถ้า2. นักเรียนมีจำนวน 40 คนขึ้นไป) 3 ใช้เนื้อที่มาก4 ใช้เวลาค่อนข้างมาก5 ไม่ได้ฝึกนำคำศัพท์มาใช้ในประโยค6 เกมสะกดจุดประสงค์1 เพื่อให้นักเรียนออกเสียงรู้ความหมายและสะกดคำศัพท์ได้ถูกต้อง2 บัตรอักษร 4 ชุดที่ 2 ภาพสัตว์วิธีการเล่น1 ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 ทีมคือทีม A, B, C และ D แล้วแจกบัตรตัวอักษรให้ทีมละ 1 ชุด2 ครูโชว์ภาพสัตว์พร้อมกับตั้งคำถามสิ่งนี้คืออะไร ทีมใดที่เรียงตัวอักษรได้ถูกต้องและเร็วที่สุดเป็นผู้ชนะ5 คำศัพท์แต่ละคำที่ครูกำหนดให้นักเรียนจะออกมาถือบัตรเรียงกันดังนี้6 ให้ทีมแพ้ทุกคนสะกดคำศัพท์และอ่านออกเสียงคำว่าจระเข้ที่ผู้ชนะถืออยู่ 2 ครั้งที่ 7 ให้แต่ละทีมนำคำศัพท์ที่เล่นวันนี้แต่งประโยค 1 ประโยคซึ่งคำศัพท์แต่ละกลุ่มไม่ซ้ำกัน8 พร้อมกับอ่านออกเสียงพร้อม ๆ กันทีละกลุ่มที่ฉันเห็นจระเข้ที่ฟาร์มจระเข้. ตารางที่ 6 ข้อดีและข้อเสียของเกมการสะกดคำผึ้งข้อดีของเกมข้อเสียของเกม1 เป็นการทบทวนคำศัพท์ที่เรียน2 ฝึกทักษะการสะกดคำและออกเสียงคำศัพท์3 ฝึกทักษะการเขียน4 สามารถนำคำศัพท์มาใช้ในประโยคได้5 อุปกรณ์หาได้ง่ายและราคาไม่แพง7 นักเรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย 1 ใช้เวลาค่อนข้างนาน3 สำเนาศรีประมงค์ (2547: 52)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . ป้ายมัน
เกมนี้เหมาะกับนักเรียนใหม่ทุกระดับอายุที่ต้องได้รับการฝึกฝนหรือสอนคำศัพท์ง่ายๆหากนักเรียนสามารถแยกแยะเสียงของพยัญชนะแต่ละตัวได้จุดประสงค์นักเรียนก็สามารถเล่นเกมนี้ได้แล้ว

1เพื่อทบทวนคำศัพท์ที่เรียนไปแล้ว
2 เพื่อให้นักเรียนสะกดคำศัพท์ได้ถูกต้อง
3 เพื่อให้นักเรียนออกเสียงและรู้ความหมายคำศัพท์
4 อุปกรณ์เพื่อฝึกทักษะการฟัง

1 บัตรคำ
2 เทปกาว
3 วิธีเล่นป้ายชื่อ

1ใช้วิธีเขียนชื่อของสิ่งของทุกอย่างในห้องเรียนลงบนกระดาษ
2 ติดกระดาษไว้ที่ของสิ่งนั้นเพื่อทำให้นักเรียนคุ้นเคยกับชื่อเหล่านั้น
3 ให้นักเรียนพูดตามขณะเก็บสิ่งของเหล่านั้นขึ้นมาแต่ละชิ้น
4ต่อมาดึงป้ายชื่อออกและให้นักเรียนพูดชื่อสิ่งของเหล่านั้นทีละอย่าง
5 นำป้ายไปแปะไว้ให้ถูกด้วย
6 ให้นักเรียนเอาป้ายชื่อไปแปะที่ของชิ้นไหนก็ได้ที่นักเรียนต้องการ
7ทำกิจกรรมนี้ซ้ำสองสามครั้งพอนักเรียนสามารถแปะป้ายลงบนสิ่งของได้ถูกต้องหมดโดยที่ครูไม่ต้องคอยตรวจแล้วครูสามารถใช้กิจกรรมนี้กับคำศัพท์เกี่ยวกับคำนามที่สามารถแปะรูปลงไปได้เช่นประเภทของอาหาร , ส่วนของร่างกาย ,ส่วนของห้องในบ้าน สัตว์เป็นต้น
ตารางที่ 4 ข้อดีและข้อเสียของเกมป้ายมันข้อดีของเกมข้อเสียของเกม

7 ได้ฝึกทักษะการสะกดคำ
8 ได้ฝึกทักษะการฟังและฝึกสมาธิ
9 ทำให้จดจำคำศัพท์ได้ดี
10 สนุกสนานตื่นเต้น
11ใช้อุปกรณ์น้อยและราคาไม่แพง
12 นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วม 6 ใช้เวลาค่อนข้างมาก
7 หากผู้ใดไม่แม่นคำศัพท์จะเสียเปรียบ
8 ถ้าผู้ใดไม่มีใจจดจ่ออย่างตลอดเวลาจะพลาดคำศัพท์จากการฟัง
9เน้นเฉพาะคำศัพท์ไม่ได้เน้นทักษะการนำศัพท์มาใช้ในประโยค
10 นักเรียนไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย




5 เกมกระซิบจุดประสงค์

1 เพื่อทบทวนคำศัพท์ที่เรียนมาแล้ว
2 เพื่อให้นักเรียนสะกดคำศัพท์และออกเสียงได้ถูกต้อง
3อุปกรณ์เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการฟัง

1 บัตรคำ
2 กระดาษ
3 วิธีการเล่นปากกา

1 แบ่งผู้เล่นออกเป็น 5 แถวจะละ 7 คนที่เหลือเป็นกรรมการ
2 ให้นักเรียนนั่งเป็นแถวตอน 5 แถวห่างกันพอสมควร
3คนที่อยู่ข้างหลังสุดของแต่ละแถวออกมาหาครูและครูยื่นบัตรคำศัพท์ให้แต่ละคนดูไม่เหมือนกันความคน 5 5 คำเสร็จแล้วเข้าไปประจำที่
4ครูให้สัญญาเริ่มคนที่ได้ดูบัตรคำหรือผู้ที่นั่งหลังสุดจะต้องกระซิบเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้าถัดไปโดยสะกดคำศัพท์ตัวนั้นพร้อมทั้งออกเสียงคำแล้วกระซิบต่อไปยังคนที่ 2 คนที่ 3 กระซิบไปเรื่อยจะจนครบ 7 คนJ ) U ( c ) E : และฉันน้ำผลไม้คนที่ 7 อยู่ข้างหน้าสุดออกมาเขียนคำศัพท์ในกระดาษที่ครูแจกให้พร้อมกับความหมาย
5 ทีมใดเขียนสะกดถูกต้องออกเสียงและบอกความหมายถูกต้องและเร็วที่สุดทีมนั้นได้ 1 คะแนน
6เริ่มแข่งขันรอบต่อไปคนที่ดูบัตรคำและเป็นคนกระซิบแรกในรอบก่อนจะมานั่งหน้าสุดและให้คนนั่งหลังสุดของแต่ละแถวออกมาหาครูเพื่อดูบัตรคำและกระซิบบอกเพื่อต่อจะกันไปทำเช่นเดียวกับครั้งแรกจนครบทุกคน
7ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจคำศัพท์และนับคะแนนทีมใดถูกต้องและได้คะแนนมากที่สุดทีมนั้นเป็นผู้ชนะนักเรียนจะต้องกระซิบนักเรียนที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้นเมื่อกระซิบผ่านไปแล้วห้ามหันหลังมาถามกัน


กติกาการเล่น

ตารางที่ 5 ข้อดีและข้อเสียของเกมกระซิบข้อดีของเกมข้อเสียของเกม

1 นักเรียนได้ฝึกทักษะทั้งหลายอย่างฟังพูดเขียน
2 ได้ทบทวนความหมายคำศัพท์
3 ใช้อุปกรณ์ไม่มากและไม่แพง
4 อุปกรณ์หาได้ง่าย
5นักเรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย 1 นักเรียนมีส่วนร่วมไม่ครบทุกคน ( ถ้า
2 นักเรียนมีจำนวน 40 คนขึ้นไป )
3 ใช้เนื้อที่มาก
4 ใช้เวลาค่อนข้างมาก
5 ไม่ได้ฝึกนำคำศัพท์มาใช้ในประโยค
6นักเรียนมีโอกาสผิดกติกาการเล่นโดยแอบหันกลับมาถามเพื่อน

6 เกมการสะกดจุดประสงค์

1 เพื่อให้นักเรียนออกเสียงรู้ความหมายและสะกดคำศัพท์ได้ถูกต้อง
2 เพื่อให้นักเรียนนำคำศัพท์มาใช้ในประโยคได้โดยการแต่งประโยค
อุปกรณ์
1 บัตรอักษร 4 ชุด
2 ภาพสัตว์


วิธีการเล่น
1 ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 ทีมความทีม A , B , C และ D แล้วแจกบัตรตัวอักษรให้ทีมละ 1 ชุด
2 ครูโชว์ภาพสัตว์พร้อมกับตั้งคำถามนี่คืออะไร ?แล้วให้แต่ละทีมช่วยกันหาบัตรอักษรมาต่อกันเพื่อให้ได้คำศัพท์ตามภาพนั้น
3 ทีมใดหาตัวอักษรของคำศัพท์ตามรูปภาพนั้นครบก็ให้สมาชิกในกลุ่มถือบัตรตัวอักษรออกมายืน
4ทีมใดที่เรียงตัวอักษรได้ถูกต้องและเร็วที่สุดเป็นผู้ชนะ
5 คำศัพท์แต่ละคำที่ครูกำหนดให้นักเรียนจะออกมาถือบัตรเรียงกันดังนี้

6 ให้ทีมแพ้ทุกคนสะกดคำศัพท์และอ่านออกเสียงคำว่าจระเข้ที่ผู้ชนะถืออยู่ 2 ครั้ง
7ให้แต่ละทีมนำคำศัพท์ที่เล่นวันนี้แต่งประโยค 1 ประโยคซึ่งคำศัพท์แต่ละกลุ่มไม่ซ้ำกัน
8 แต่ละกลุ่มเขียนประโยคที่แต่งบนกระดานพร้อมกับอ่านออกเสียงพร้อมไม่มี ' ทีละกลุ่ม
ผมเห็นจระเข้ที่ฟาร์มจระเข้
ตารางที่ 6 ข้อดีและข้อเสียของเกมสะกดข้อดีของเกมข้อเสียของเกม

1 เป็นการทบทวนคำศัพท์ที่เรียน
2 ฝึกทักษะการสะกดคำและออกเสียงคำศัพท์
3 ฝึกทักษะการเขียน
4 สามารถนำคำศัพท์มาใช้ในประโยคได้
5มีภาพประกอบช่วยให้เข้าใจความหมายคำศัพท์ได้ง่าย
6 อุปกรณ์หาได้ง่ายและราคาไม่แพง
7 นักเรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย 1 ใช้อุปกรณ์คือบัตรตัวอักษรค่อนข้างมาก
2 ใช้เวลาค่อนข้างนาน
3 นักเรียนมีส่วนร่วมไม่ครบทุกคน

อ้างอิงจากสำเนาศรีประมงค์ ( 2547 : 52 )