The yield of exopolysaccharide (EPS

The yield of exopolysaccharide (EPS) produced by Streptococcus thermophilus 05-34 reached up to
250 mg/L under the optimal fermentation condition, which was 4.2-fold higher than that produced under
the non-optimal fermentation condition. Structure analysis showed that EPS produced under the optimal
fermentation condition was composed of galactose and glucose in a molar ratio of 1.0:0.8. This EPS was
with a molecular mass of 4.7
105 Da, which was increased by 9 times compared with that in the
non-optimal fermentation condition, while monosaccharide composition did not change. Furthermore,
real-time quantitative PCR showed that the transcription level of epsC, which is responsible for chainlength
determination, was up-regulated by 2.7-fold, suggesting that the increased molecular mass of
EPS was resulted from improving polymerization degree of monosaccharide. These findings
demonstrated that the optimized fermentation condition can improve EPS molecular mass, and may consequently
modify the rheological properties of EPS.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลผลิตของ exopolysaccharide (EPS) ผลิต โดยอุณหภูมิ thermophilus 05-34 ถึงถึง250 mg/L ภายใต้เงื่อนไขหมักที่ดีที่สุด ที่มี 4.2-fold สูงกว่าที่ผลิตภายใต้เงื่อนไขการหมักไม่เหมาะสม วิเคราะห์โครงสร้างที่แสดงให้เห็นว่า EPS ผลิตภายใต้ดีที่สุดเงื่อนไขการหมักถูกประกอบกาแล็กโทสและกลูโคสในอัตราส่วนสบของ 1.0:0.8 EPS นี้มีมีมวลโมเลกุลของ 4.7 105 ดา ที่ถูกเพิ่มขึ้น 9 เท่าเมื่อเทียบกับในหมักไม่เหมาะสมเงื่อนไข ในขณะที่องค์ประกอบ monosaccharide ไม่เปลี่ยน นอกจากนี้PCR จริงเชิงปริมาณพบว่าระดับ transcription ของ epsC ซึ่งรับผิดชอบ chainlengthกำหนด ถูกกำหนดค่าโดย 2.7-fold แนะนำที่มวลโมเลกุลเพิ่มขึ้นของEPS เป็นผลมาจากการปรับปรุงระดับ polymerization monosaccharide ผลการวิจัยเหล่านี้แสดงว่า สภาพการหมักให้เหมาะช่วยให้มวลโมเลกุลของ EPS และอาจดังปรับเปลี่ยนคุณสมบัติ rheological ของ EPS

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัตราผลตอบแทนของการสร้าง Exopolysaccharide (EPS) ที่ผลิตโดย Streptococcus thermophilus 05-34 สูงถึง
250 มิลลิกรัม / ลิตรภายใต้สภาวะการหมักที่เหมาะสมซึ่งเป็น 4.2
เท่าสูงกว่าที่ผลิตภายใต้สภาพการหมักที่ไม่เหมาะสม การวิเคราะห์โครงสร้างพบว่ากำไรต่อหุ้นผลิตภายใต้ที่ดีที่สุดในสภาพการหมักประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคสและกาแลคโตในอัตราส่วน 1.0: 0.8
นี่เป็นกำไรต่อหุ้นที่มีมวลโมเลกุล 4.7?
ดา 105 ซึ่งได้รับการเพิ่มขึ้น 9
เท่าเมื่อเทียบกับว่าในสภาพการหมักที่ไม่เหมาะสมในขณะที่องค์ประกอบโมโนแซ็กคาไรด์ไม่ได้เปลี่ยน นอกจากนี้แบบ real-time PCR เชิงปริมาณพบว่าระดับของการถอดความ EPSC ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับ chainlength มุ่งมั่นเพิ่มขึ้นควบคุม 2.7 เท่าแสดงให้เห็นว่ามวลโมเลกุลที่เพิ่มขึ้นของกำไรต่อหุ้นเป็นผลมาจากการปรับปรุงการศึกษาระดับปริญญาของพอลิเมอโมโนแซ็กคาไรด์ การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าสภาพการหมักที่ดีที่สุดสามารถปรับปรุงมวลโมเลกุลกำไรต่อหุ้นจึงอาจปรับเปลี่ยนคุณสมบัติการไหลของกำไรต่อหุ้น