Initial analysis was descriptive an

Initial analysis was descriptive and exploratory in nature to establish the prevalence of sleep disturbances and sleep quality in this inpatient alcohol treatment sample. Data were normally distributed, thus enabling parametric testing. Descriptive statistics were expressed as means and standard deviations for continuous variables and frequencies and percentages for categorical variables. The prevalence of sleep disturbances as measured by the PSQI was calculated for days 2 and 28. A McNemar test was used to compare sleep disturbance prevalence at the 2 time points. Paired t tests were performed to compare the PSQI total score, sleep duration, and sleep latency components. The prevalence of excessive daytime sleepiness was calculated at days 5 and 26. The prevalence was compared using a McNemar test. Patients’ self-reported sleep duration and actigraphy-recorded sleep duration were compared using a paired t test. A P value of less than .05 indicated statistical significance. All data analyses were performed using IBM SPSS 20.0.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เริ่มต้นการวิเคราะห์เชิงพรรณนาและสอบสวนในธรรมชาติที่จะสร้างความชุกของการรบกวนการนอนหลับและคุณภาพการนอนหลับในกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยในการรักษาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้ ข้อมูลกระจายตามปกติจึงทำให้การทดสอบคณิตศาสตร์ สถิติเชิงพรรณนาถูกแสดงเป็นวิธีการและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของตัวแปรอย่างต่อเนื่องและความถี่และร้อยละสำหรับตัวแปรเด็ดขาด ความชุกของการรบกวนการนอนหลับเป็นวัดโดย PSQI ที่คำนวณได้ในวันที่ 2 และ 28 การทดสอบ McNemar ถูกใช้ในการเปรียบเทียบความชุกรบกวนการนอนหลับที่จุดเวลา 2 จับคู่การทดสอบทีได้ดำเนินการเพื่อเปรียบเทียบ PSQI คะแนนรวมระยะเวลาการนอนหลับและการนอนหลับส่วนประกอบแฝง ความชุกของการง่วงนอนตอนกลางวันมากเกินไปที่คำนวณได้ในวันที่ 5 และ 26 ชุกเปรียบเทียบโดยใช้การทดสอบ McNemar ผู้ป่วยระยะเวลาการนอนหลับที่ตนเองรายงานและ actigraphy ที่บันทึกไว้ในช่วงระยะเวลาการนอนหลับที่ถูกเมื่อเทียบกับการใช้การทดสอบค่าทีจับคู่ ค่า AP น้อยกว่า 05 แสดงให้เห็นนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งหมดการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ดำเนินการโดยใช้ IBM SPSS 20.0

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิเคราะห์เชิงพรรณนาและเชิงสำรวจ
เริ่มต้นในธรรมชาติเพื่อสร้างความรบกวนการนอนหลับและนอนที่มีคุณภาพในการรักษาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่กลุ่มตัวอย่าง ข้อมูลมีการกระจายปกติจึงทำให้การทดสอบพาราเมตริก . สถิติเชิงพรรณนา คือแสดงเป็นค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับตัวแปรต่อเนื่อง และ ความถี่ และร้อยละ สำหรับตัวแปรเด็ดขาดความชุกของการรบกวนการนอนเป็นวัดโดย psqi คำนวณวัน 2 และ 28 ทดสอบ McNemar ใช้เปรียบเทียบความชุกรบกวนการนอนหลับ ในจุดที่ 2 เวลา paired t-test ทดสอบเปรียบเทียบ psqi คะแนนรวมระยะเวลานอน และนอน ส่วนประกอบแฝงอยู่ ความชุกของภาวะง่วงนอนเวลากลางวันคำนวณวันที่ 5 และ 26การศึกษาเปรียบเทียบการใช้ McNemar Test . ผู้ป่วย self-reported นอนระยะเวลาและแอคติกราฟฟีบันทึกระยะเวลานอนเปรียบเทียบโดยใช้ Paired t-test ในการทดสอบ P มีค่าน้อยกว่า . 05 พบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ข้อมูลทั้งหมดวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS ( 20.0 .