The dodo inhabited the tropical for

The dodo inhabited the tropical forests on the tiny island of Mauritius that is situated in the Indian Ocean. Like the neighbouring island of Madagascar, Mauritius broke away from the African continent when the land first split, causing it's wildlife to be extremely unique and the dodo is no exception.

The dodo had a large body, stubby wings, a small, curved tail, short legs, and a large beak. The feathers of the dodo were grey, black and white in colour and the large curved beak of the dodo is one of it's most distinctive features.

The dodo is a large sized bird that adapted to a life without large ground-dwelling predators, which led to the dodo to behave quite unusually for a bird. Despite having wings, the dodo was unable to fly as they were quite too small and weak to support the rounded body of the dodo. The dodo was also known to have been fearless of the European invaders which ultimately led to the demise of the species.

The dodo ate ripe fruit that fell to the ground, eating the fruit of the Tambalacoque tree (which is often called the dodo tree). This long-living tree is now in danger of extinction since it depended on the dodo for its own reproduction; its seed can only germinate (sprout) after going through the digestive system of the dodo (the seed has a very thick coating).

In it's native forests on the island of Mauritius, the dodo had no natural predators until humans landed at the end of the 16th century. But it wasn't just the humans that hunted this friendly and docile bird, the dodo along with their nests where hunted by the animals that humans brought with them including dogs, cats and monkeys.

Due to a lack of natural predators, the dodo evolved to making it's nest on the ground where the female dodo would lay a single egg. The incubation period of the dodo egg is estimated to be between 4 and 6 weeks, when the dodo chick would hatch and be reared by it's mother before becoming independent as it grew older.

The dodo was probably thriving on the tiny, safe-haven of Mauritius before it was taken over by European settlers who hunted and ate the dodo, exploiting it's naturally fearless nature. The animals brought along to the island often ransacked the dodo's vulnerable nests, leading to the extinction of the entire species in just over 80 years of human contact.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เซลอาศัยอยู่ป่าเขตร้อนในเล็ก ๆ เกาะมอริเชียสที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เช่นในประเทศเกาะมาดากัสการ์ สาธารณรัฐมอริเชียสขาดจากทวีปแอฟริกาเมื่อที่ดินก่อน แยก สาเหตุของสัตว์ป่าจะไม่ซ้ำกันมาก และก็เซลเซลที่มีร่างกายใหญ่ กุดปีก หางเล็ก โค้ง ขาสั้น และจะงอยปากขนาดใหญ่ ขนของเซลมีสีเทา สีดำ และสีขาวในสี และจะงอยปากโค้งใหญ่ของเซลมีคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งเซลเป็นนกขนาดใหญ่ที่ดัดแปลงเพื่อชีวิตไม่มีขนาดใหญ่พื้นดินที่อยู่อาศัยล่า ซึ่งนำไปสู่เซลทำงานค่อนข้างปกติสำหรับนก แม้จะมีปีก เซลไม่สามารถจะบินวนเวียนอยู่เพื่อสนับสนุนตัวมนของเซลอ่อนแอ และเล็กมากเกินไป เซลยังไม่รู้จักได้กล้าหาญของผู้รุกรานยุโรปที่สุด ลูกของสายพันธุ์เซลกินผลไม้สุกที่ตกพื้น กินผลไม้ต้น Tambalacoque (ซึ่งมักเรียกว่าต้นโดโด้) แผนภูมินี้ยาวชีวิตเป็นอันตรายในการสูญพันธุ์เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับเซลสำหรับการสืบพันธุ์ของตัวเอง เมล็ดของมันสามารถเฉพาะ germinate (งอก) หลังจากผ่านระบบทางเดินอาหารของโดโด้ (เมล็ดมีเคลือบหนามาก)ในเรื่องเจ้าป่าบนเกาะมอริเชียส เซลที่มีล่าไม่ธรรมชาติจนกว่ามนุษย์ที่ดินท้ายของศตวรรษ 16 แต่มันไม่ได้เพียงมนุษย์ที่ล่าสัตว์หรือค้านกนี้เป็นมิตร และ docile เซลกับรังของพวกเขาล่าสัตว์หรือค้า โดยสัตว์ที่มนุษย์นำมากับพวกเขารวมทั้งสุนัข แมว และลิงไม่ธรรมชาติล่า อาร์ที่พัฒนาจะทำให้รังของมันบนพื้นดินที่เซลหญิงจะวางไข่เดี่ยว ระยะฟักตัวของไข่อาร์ประมาณอยู่ระหว่าง 4 และ 6 สัปดาห์ เมื่อเจี๊ยบอาร์จะออกจากไข่ และผลิตภัณฑ์ตามแม่ของมันก่อนที่จะเป็นอิสระเป็นโตเก่าเซลถูกคงเจริญรุ่งเรืองในเล็ก ๆ ตู้เซฟสวรรค์ของมอริเชียสก่อนจะถูกถ่าย โดยตั้งถิ่นฐานยุโรป ที่ล่าสัตว์หรือค้ากินเซล เรื่องธรรมชาติธรรมชาติกล้าหาญ exploiting สัตว์ที่นำไปที่เกาะมัก ransacked รังเสี่ยงของเซล นำไปสู่การสูญพันธุ์ของสายพันธุ์ทั้งในติดต่อมนุษย์มากกว่า 80 ปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นกโดโดที่อาศัยอยู่ในป่าเขตร้อนบนเกาะเล็ก ๆ ของมอริเชียสที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เช่นเดียวกับเกาะใกล้เคียงของมาดากัสการ์มอริเชียสผละออกจากทวีปแอฟริกาเมื่อที่ดินแยกแรกที่ทำให้มันเป็นสัตว์ป่าจะไม่ซ้ำกันมากและนกโดโดจะไม่มีข้อยกเว้น. นกโดโดมีร่างกายใหญ่ปีกมีขนแข็งขนาดเล็กหางโค้ง ขาสั้นและจะงอยปากที่มีขนาดใหญ่ ขนของนกโดโดมีสีเทา, สีดำและสีขาวและจะงอยปากโค้งขนาดใหญ่ของนกโดโดเป็นหนึ่งในเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุด. นกโดโดเป็นนกขนาดใหญ่ที่ปรับให้เข้ากับชีวิตโดยปราศจากนักล่าขนาดใหญ่พื้นดินที่อยู่อาศัยซึ่งนำ เพื่อนกโดโดที่จะประพฤติค่อนข้างผิดปกติสำหรับนก แม้จะมีปีกนกโดโดก็ไม่สามารถที่จะบินไปตามที่พวกเขาค่อนข้างเล็กเกินไปและอ่อนแอให้การสนับสนุนร่างกายโค้งมนของนกโดโด นกโดโดเป็นที่รู้จักกันยังจะได้รับความกล้าหาญของผู้รุกรานยุโรปซึ่งในที่สุดก็นำไปสู่การตายของสายพันธุ์. นกโดโดกินผลไม้สุกที่ล้มลงกับพื้น, กินผลไม้ของต้นไม้ Tambalacoque (ซึ่งมักจะเรียกว่าต้นไม้นกโดโด) . นี้ต้นไม้ที่อาศัยอยู่นานตอนนี้อยู่ในอันตรายใกล้สูญพันธุ์เพราะมันขึ้นอยู่กับนกโดโดสำหรับการทำสำเนาของตัวเอง; เมล็ดสามารถงอก (ต้นกล้า) หลังจากนั้นจะผ่านระบบย่อยอาหารของนกโดโด (เมล็ดมีการเคลือบหนามาก). มันเป็นป่าพื้นเมืองบนเกาะมอริเชียส, นกโดโดมีนักล่าตามธรรมชาติจนมนุษย์ที่ดินที่ส่วนท้ายของ ศตวรรษที่ 16 แต่มันก็ไม่ได้เป็นเพียงมนุษย์ที่ล่านกที่เป็นมิตรและเชื่องนกโดโดพร้อมกับรังของพวกเขาที่ตามล่าโดยสัตว์ที่มนุษย์มากับพวกเขารวมทั้งสุนัขแมวและลิง. เนื่องจากขาดศัตรูตามธรรมชาติของนกโดโดพัฒนา ที่จะทำให้มันทำรังอยู่บนพื้นดินที่นกโดโดหญิงจะวางไข่เดี่ยว ระยะฟักตัวของไข่นกโดโดคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 4 และ 6 สัปดาห์เมื่อเจี๊ยบนกโดโดจะฟักและได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ของมันก่อนที่จะกลายเป็นอิสระในขณะที่มันโตขึ้น. นกโดโดอาจจะเจริญรุ่งเรืองในขนาดเล็กที่ปลอดภัยของ มอริเชียสก่อนที่จะถูกนำขึ้นโดยตั้งถิ่นฐานชาวยุโรปที่ตามล่าและกินนกโดโด, การใช้ประโยชน์จากมันธรรมชาติกล้าหาญธรรมชาติ สัตว์ที่นำไปยังเกาะมักจะรื้อค้นรังนกโดโดของความเสี่ยงที่นำไปสู่การสูญพันธุ์ของสายพันธุ์ทั้งในเวลาเพียงกว่า 80 ปีของการติดต่อกับมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดโดที่อาศัยอยู่ในป่าเขตร้อนบนเกาะเล็ก ๆของมอริเชียสซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ชอบเกาะใกล้เคียงของมาดากัสการ์ มอริเชียส แตกออกไปจากทวีปแอฟริกา เมื่อแผ่นดินก่อนแยก ทำให้มันเป็นอย่างมากและสัตว์ป่ากันไม่มีปัญหา ไม่มีข้อยกเว้น

ไม่มีปัญหามีร่างกายขนาดใหญ่ ปีกเล็กๆ โค้ง หาง ขาสั้น ปากใหญ่ขนนกของโดโด้เป็นสีเทา , สีดำและสีขาวสีและขนาดใหญ่จะงอยปากโค้งของโดโด้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดเลย

กำลังทำหน้าที่เป็นนกขนาดใหญ่ที่ปรับให้เข้ากับชีวิตที่ไม่มีขนาดใหญ่พื้นดินที่อยู่อาศัยนักล่า ซึ่งนำไปสู่โดโด้ทำตัวค่อนข้างผิดปกติสำหรับนก แม้มีปีกโดโดไม่สามารถบินตามพวกเขาค่อนข้างเล็กเกินไปและอ่อนแอ เพื่อสนับสนุนร่างกลมของ Dodo โดโดเป็นที่รู้จักกันจะได้รับการกล้าหาญของยุโรปผู้รุกรานซึ่งในที่สุดนำไปสู่การตายของสปีชีส์ .

โดโด้กินผลไม้สุกที่หล่นลงพื้น กินผลไม้ของต้นไม้ tambalacoque ( ซึ่งมักจะถูกเรียกว่าต้นโดโด้ )ต้นไม้แห่งชีวิตนี้ยาวกำลังตกอยู่ในอันตรายต่อการสูญพันธุ์เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับ Dodo สำหรับการสืบพันธุ์ของมันเอง เมล็ดพันธุ์ของมันสามารถงอก ( หน่อ ) หลังจากผ่านระบบย่อยอาหารของโดโด้ ( เมล็ด มีเคลือบหนามาก )

ไว้ในป่าพื้นเมืองบนเกาะมอริเชียส โดโด้มี ไม่ล่าธรรมชาติ จนกระทั่งมนุษย์ลงในปลายศตวรรษที่ 16แต่มันไม่ได้เป็นเพียงแค่มนุษย์ที่ล่าเป็นมิตรและเชื่องนก โดโด้ พร้อมกับรังที่ถูกตามล่าโดยสัตว์ที่มนุษย์นำมากับพวกเขา ได้แก่ สุนัข แมว และลิง

เนื่องจากขาดผู้ล่าตามธรรมชาติ โดโด้ พัฒนาให้มันทำรังบนพื้นดินที่โดโด หญิง ก็ วางไข่เดี่ยว4 ระยะของ Dodo ไข่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 4 และ 6 สัปดาห์ เมื่อสูญสิ้นเจี๊ยบจะฟักและเลี้ยงโดยแม่ก่อนที่จะเป็นอิสระเมื่อมันโตขึ้น

ไม่มีปัญหาอาจจะเฟื่องฟูในเล็ก ๆ , ที่หลบภัยของมอริเชียส ก่อนที่จะถูกนำขึ้นโดยยุโรปและตั้งถิ่นฐานที่ตามล่า กินโดโด , การใช้ประโยชน์จากมันเป็นธรรมชาติไม่ธรรมชาติสัตว์พาไปเกาะมักจะค้นของดูดู้ เสี่ยง รัง ที่นำไปสู่การสูญพันธุ์ของสปีชีส์ทั้งหมดของการติดต่อของมนุษย์เพียงกว่า 80 ปี