Research indicates that lack of cul

Research indicates that lack of cultural competence is one of the main factors
contributing to the growing number of health disparities in the U.S., a key
concern the government seeks to address by the end of this decade.
In 2000, the U.S. Department of Health and Human Services presented the
groundwork for Healthy People 2010, which is firmly dedicated to the principle
that every person in every community across the nation deserves equal access
to comprehensive, culturally competent, and community-based health care
systems.
Culturally congruent care has been defined as “those…supportive, facilitative, or
enabling acts or decisions that are tailor-made to fit with individual, group, or
institutional cultural values, beliefs, and lifeways, in order to provide or support
meaningful, beneficial, and satisfying health care or well-being services.”
Competence describes behaviors that reflect appropriate application of
knowledge and attitudes. A care provider’s cultural competence requires
continual direction and adaptation to changing situations and contexts. Akin
to the principles behind cultural competence is patient-centered care which
promotes an understanding of the patient as an individual, and how they
personally experience illness.
To achieve the Healthy People 2010 goal, continuing education in cultural
competence is needed to enhance the knowledge, attitudes, and skills of
Registered Nurses (RNs) for effective practice with diverse older populations.
A Changing Population Requires a Change in Care
Lack of cultural competence among RNs limits the potential to provide highquality
care for the growing number of people with diverse backgrounds and
health care needs.
It is estimated that, by 2050, African Americans, Hispanics, Asians/Pacific
Islanders, and American Indians will account for 47 percent of the American
population. It is also estimated that the proportion of elderly Caucasians will
decrease from 84 percent in 2000 to 64 percent in 2050, while the proportion
of African Americans will double and the proportion of Hispanics will triple
over that same time period (Himes, 2001).
With increases in these traditionally underserved populations, the American
nursing workforce is being challenged to meet new demands for access to quality
health care. Knowledge of cultural customs enables health care providers to offer
better care and help avoid misunderstandings. Most importantly, this knowledge

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิจัยบ่งชี้ว่า ขาดความสามารถทางวัฒนธรรมเป็นปัจจัยหลักหนึ่ง
สนับสนุนจำนวนที่เพิ่มขึ้นของความแตกต่างของสุขภาพในสหรัฐอเมริกา คีย์
กังวลที่รัฐบาลพยายามจะอยู่ช่วงปลายของทศวรรษนี้
ใน 2000 สหรัฐอเมริกากรมของสุขภาพและมนุษยชนบริการแสดง
ส่วนสุขภาพคนปี 2553 ที่มั่นทุ่มเทหลัก
ที่ทุกคนในทุกชุมชนทั่วประเทศสมควรเข้า
การดูแลสุขภาพครอบคลุม วัฒนธรรมอำนาจ และชุมชน
ระบบการ
ได้รับการดูแลแผงวัฒนธรรม "ผู้...สนับสนุน facilitative หรือ
เปิดใช้งานการกระทำหรือการตัดสินใจที่จะตัดให้พอดีกับแต่ละ กลุ่ม หรือ
ค่าสถาบันวัฒนธรรม ความเชื่อ และ lifeways เพื่อให้มี หรือสนับสนุน
ดูแลสุขภาพ และมีความหมาย ประโยชน์ ความพึงพอใจหรือบริการสุขภาพ "
ความสามารถอธิบายพฤติกรรมที่แสดงถึงแอพลิเคชันที่เหมาะสมของ
ความรู้และทัศนคติ ความสามารถทางวัฒนธรรมของผู้ดูแลต้อง
ทิศทางอย่างต่อเนื่องและปรับเปลี่ยนสถานการณ์และบริบทการ เอคิน
หลักเบื้องหลังความสามารถวัฒนธรรมการผู้ป่วยแปลกดูแลซึ่ง
ส่งเสริมความเข้าใจของผู้ป่วยเป็นบุคคล และพวกเขา
ตัวประสบการณ์การเจ็บป่วย
เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 2010 คนสุขภาพ การศึกษาต่อเนื่องในวัฒนธรรม
ความสามารถที่จำเป็นสำหรับการเสริมสร้างความรู้ ทัศนคติ และทักษะ
ทะเบียนพยาบาล (RNs) สำหรับการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพกับหลากหลายอายุประชากร
ประชากรเปลี่ยนต้องมีการเปลี่ยนแปลงในการดูแล
ขาดความสามารถทางวัฒนธรรมระหว่าง RNs จำกัดศักยภาพให้กำกับ
ดูแลเติบโตจำนวนคนที่มีภูมิหลัง และ
ดูแลสุขภาพต้องการ
คาดการ 2050 แอฟริกันอเมริกัน เอเชียแปซิฟิก Hispanics
ชาว และอินเดียอเมริกันจะบัญชีร้อยละ 47 ของอเมริกันที่
ประชากร นอกจากนี้คาดว่า สัดส่วนของผู้สูงอายุ Caucasians จะ
ลดลงจากร้อยละ 84 ในปี 2000 ร้อยละ 64 ใน 2050 ในขณะที่สัดส่วน
ของชาวอเมริกันแอฟริกัน จะใหญ่และสัดส่วนของ Hispanics จะสาม
ผ่านรอบระยะเวลาเดียวกัน (Himes, 2001) .
กับการเพิ่มขึ้นในประชากรเหล่านี้ดั้งเดิม underserved อเมริกันที่
เป็นการท้าทายบุคลากรพยาบาลเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่สำหรับการเข้าถึงคุณภาพ
ดูแลสุขภาพ ความรู้ด้านประเพณีวัฒนธรรมช่วยให้ผู้ให้บริการสุขภาพให้
ดูแลดี และหลีกเลี่ยงการเกิดความเข้าใจผิด ความรู้นี้สำคัญที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิจัยชี้ให้เห็นว่าการขาดความสามารถทางวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่
เอื้อต่อการเติบโตของจำนวนแตกต่างด้านสุขภาพในสหรัฐอเมริกาที่สำคัญ
ความกังวลที่รัฐบาลพยายามที่จะอยู่ในช่วงปลายของทศวรรษนี้
ในปี 2000 สหรัฐอเมริกากรมอนามัยและมนุษย์ บริการที่นำเสนอ
รากฐานสำหรับสุขภาพคน 2010 ซึ่งจะทุ่มเทมั่นในหลักการที่
ว่าบุคคลในชุมชนทั่วประเทศทุกคนสมควรได้รับการเข้าถึงที่เท่าเทียมกัน
ที่จะครอบคลุมความรู้ความสามารถทางวัฒนธรรมและการดูแลสุขภาพชุมชนตาม
ระบบ
วัฒนธรรมการดูแลสอดคล้องกันที่ได้รับการกำหนดให้เป็น " ที่ ... สนับสนุน facilitative หรือ
ทำให้การกระทำหรือการตัดสินใจที่จะสั่งตัดให้พอดีกับบุคคลกลุ่มหรือ
สถาบันวัฒนธรรมค่านิยมความเชื่อและ lifeways เพื่อที่จะให้การสนับสนุนหรือ
มีความหมายประโยชน์และความพึงพอใจในการดูแลสุขภาพหรือดี เป็นบริการ. "
ความสามารถอธิบายพฤติกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ที่เหมาะสมของ
ความรู้และทัศนคติ ความสามารถทางวัฒนธรรมของผู้ให้บริการดูแลต้องมี
ทิศทางที่ต่อเนื่องและการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและบริบท คล้าย
กับหลักการที่อยู่เบื้องหลังความสามารถทางวัฒนธรรมคือการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางที่
ส่งเสริมความเข้าใจของผู้ป่วยเป็นรายบุคคลและวิธีการที่พวกเขา
เองประสบปัญหาการเจ็บป่วย
เพื่อให้บรรลุสุขภาพคน 2010 เป้าหมายของการศึกษาต่อเนื่องในวัฒนธรรม
ความสามารถที่จำเป็นในการเสริมสร้างความรู้ ทัศนคติและทักษะของ
พยาบาลวิชาชีพ (RNs) เพื่อการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพที่มีประชากรที่มีอายุมากกว่าที่มีความหลากหลายของ
ประชากรการเปลี่ยนแปลงต้องเปลี่ยนในการดูแล
การขาดความสามารถทางวัฒนธรรมในหมู่ RNs จำกัด ศักยภาพในการให้ highquality
ดูแลสำหรับจำนวนที่เพิ่มขึ้นของคนที่มีภูมิหลังที่หลากหลายและ
สุขภาพ การดูแลความต้องการของ
มันเป็นที่คาดว่าภายในปี 2050 ชาวอเมริกันแอฟริกันเชื้อสายเอเชีย / แปซิฟิก
ชาวเกาะและชาวอเมริกันอินเดียนจะคิดเป็น 47 เปอร์เซ็นต์ของอเมริกัน
ประชากร นอกจากนี้ยังคาดว่าสัดส่วนของผู้สูงอายุผิวขาวจะ
ลดลงจากร้อยละ 84 ในปี 2000 ร้อยละ 64 ในปี 2050 ในขณะที่สัดส่วน
ของชาวอเมริกันแอฟริกันจะเป็นสองเท่าและสัดส่วนของละตินอเมริกาจะสาม
ในช่วงที่เวลาเดียวกัน (Himes, 2001)
ด้วย การเพิ่มขึ้นของประชากรที่ด้อยประเพณีเหล่านี้อเมริกัน
แรงงานพยาบาลจะถูกท้าทายเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่สำหรับการเข้าถึงคุณภาพ
การดูแลสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรมที่ช่วยให้ผู้ให้บริการการดูแลสุขภาพเพื่อให้
การดูแลที่ดีขึ้นและช่วยหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด สิ่งสำคัญที่สุดคือความรู้นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากการวิจัยพบว่า การขาดของความสามารถทางศิลปะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก
มีผลต่อตัวเลขการเติบโตของสุขภาพความแตกต่างในสหรัฐอเมริกา , คีย์
กังวลรัฐบาลพยายามที่อยู่ในตอนท้ายของทศวรรษนี้ .
ใน 2000 , สหรัฐอเมริกากรมสุขภาพและบริการมนุษย์เสนอ
ไม่มีภาพ 2010 ซึ่ง เป็นโดยเฉพาะหลักการ
อย่างแน่นหนาว่าทุกคน ทุกชุมชนทั่วประเทศได้เข้าถึงเท่ากับ
ครอบคลุมความสามารถ วัฒนธรรม และระบบการดูแลสุขภาพชุมชน
.
วัฒนธรรมความดูแลได้กำหนดเป็น " . . . . . . . สนับสนุน ทำลาย หรือทำให้การกระทำหรือการตัดสินใจ
ที่สั่งตัดให้พอดีกับแต่ละบุคคล กลุ่ม หรือ
สถาบันวัฒนธรรมค่านิยม ความเชื่อ และ lifeways ,เพื่อให้หรือสนับสนุน
ความหมาย ประโยชน์ และความพึงพอใจในบริการการดูแลสุขภาพ หรือความเป็นอยู่ พฤติกรรมที่สะท้อนถึงความสามารถอธิบาย "

ใบสมัครที่เหมาะสมของความรู้และทัศนคติ ความสามารถการดูแลของผู้ให้บริการต้องใช้อย่างต่อเนื่องและการปรับตัวทางวัฒนธรรม
ทิศทางเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์และบริบท . อคิน
เพื่อหลักการเบื้องหลังความสามารถบูรณาการที่ส่งเสริมวัฒนธรรมการดูแล
ความเข้าใจของผู้ป่วยเป็นบุคคลและวิธีการที่พวกเขา

ประสบการณ์ส่วนตัว การเจ็บป่วย เพื่อให้บรรลุสุขภาพคน 2010 เป้าหมายในการศึกษาต่อความสามารถทางศิลปะ
เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเสริมสร้างความรู้ ทัศนคติ และทักษะของ
พยาบาลวิชาชีพ ( RNs ) เพื่อการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพกับเก่าหลากหลาย ประชากร การเปลี่ยนแปลงประชากรต้องเปลี่ยน

ขาดความสามารถในการดูแลทางวัฒนธรรมระหว่าง rn จำกัดศักยภาพในการให้การดูแลย่าน
สำหรับตัวเลขการเติบโตของผู้คนที่มีภูมิหลังที่หลากหลายและความต้องการการดูแลด้านสุขภาพ
.
มันคือประมาณว่า โดย 2050 , แอฟริกาอเมริกัน ละตินอเมริกา , เอเชีย / แปซิฟิก
ชาวเกาะอเมริกันอินเดียจะบัญชีสำหรับร้อยละ 47 ของประชากรอเมริกัน

นอกจากนี้ยังประเมินว่า สัดส่วนของผู้สูงอายุจะลดลง จากผิวขาว
84 เปอร์เซ็นต์ใน 2000 64 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 ขณะที่สัดส่วน
ของแอฟริกาอเมริกันจะเป็นสองเท่าสามเท่า และสัดส่วนของ Hispanics จะผ่านรอบระยะเวลาเดียวกัน

( ไฮม์ส , 2001 )กับการเพิ่มขึ้นในประชากรด้อยโอกาสเหล่านี้แบบดั้งเดิม , พยาบาลอเมริกัน
ถูกท้าทายเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่สำหรับการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ

ความรู้เกี่ยวกับประเพณี วัฒนธรรมช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเพื่อให้
ดูแลดีขึ้น และช่วยหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด ที่สำคัญที่สุด ความรู้นี้