The global energy map is being redr

The global energy map is being redrawn amid, in
particular, a rise in oil and gas production in the United
States, reports of new finds of mineral resources in
various regions (for example, East Africa and the
Mediterranean), as well as advances in extraction
technology. The recent surge in the shale oil and gas
production in the United States – the largest world
oil consumer – is probably the single most gamechanging
trend, with implications extending beyond
national borders and having a strong bearing on
tanker trade. The International Energy Agency expects
the United States to become a net exporter of natural
gas by 2020 and to overtake Saudi Arabia as the
largest global oil producer by the same year, before
becoming nearly self-sufficient in energy by 2035
(International Energy Agency, 2012). Looking ahead,
this may result in a new world energy map, with fewer
crude volumes traded internationally, more refined
products exported from the United States, and China
and India potentially emerging as large importers of
crude oil and exporters of refined petroleum products.
Demand by type of petroleum product will also evolve,
with middle distillates such as diesel used in transport
growing rapidly (Lloyd’s List, 2012a).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แผนที่พลังงานทั่วโลกออกใหม่ท่ามกลาง ใน
เฉพาะ การเพิ่มขึ้นในการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ
อเมริกา รายงานการค้นหาใหม่ของทรัพยากรแร่ใน
ภูมิภาคต่าง ๆ (เช่น แอฟริกาตะวันออกและ
เมดิเตอร์เรเนียน), เช่นเป็นความก้าวหน้าในการสกัด
เทคโนโลยี กระแสล่าสุดในดินดานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ผลิตในสหรัฐอเมริกา – โลกที่ใหญ่ที่สุด
ผู้บริโภคน้ำมัน – อาจเป็นครั้งเดียว gamechanging ส่วนใหญ่
แนวโน้ม มีผลขยายเกิน
พรมแดนประเทศและมีแบริ่งที่แข็งแกร่งใน
ค้าบรรทุก คาดว่าสำนักงานพลังงานสากล
สหรัฐอเมริกาเป็น ผู้ส่งออกสุทธิของธรรมชาติ
แก๊ส 2563 และแซงประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นการ
ผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดภายในปีเดียวกัน ก่อน
เป็นบางเกือบในพลังงาน 2578
(นานาสำนักงานพลังงาน 2012) มองข้างหน้า,
เกิดใหม่พลังงานแผนที่โลก มีน้อย
ปริมาณน้ำมันดิบซื้อขายระหว่างประเทศ กลั่นมาก
ผลิตภัณฑ์ส่งออกจากสหรัฐอเมริกา และจีน
และอินเดียที่อาจเกิดขึ้นเป็นผู้นำเข้าขนาดใหญ่
น้ำมันดิบและส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่นได้
นอกจากนี้จะพัฒนาความต้องการตามชนิดของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม,
กับ distillates กลางเช่นน้ำมันดีเซลที่ใช้ในการขนส่ง
เติบโตอย่างรวดเร็ว (รายการของลอยด์ 2012a)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แผนที่พลังงานของโลกจะถูกทำลายลงใน
โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของการผลิตน้ำมันในประเทศสหรัฐอเมริกา และแก๊ส
รายงานใหม่พบทรัพยากรแร่ใน
ภูมิภาคต่างๆ ( ตัวอย่างเช่น แอฟริกาตะวันออกและ
เมดิเตอร์เรเนียน ) เช่นเดียวกับความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการสกัด

กระชากล่าสุดในหินดินดานน้ำมันและก๊าซผลิตในสหรัฐอเมริกา–

ที่ใหญ่ที่สุดในโลก- ผู้บริโภคน้ำมันอาจเป็นเดียวมากที่สุด gamechanging
แนวโน้มที่มีความหมายขยายเกิน
พรมแดนแห่งชาติและมีเรืองที่แข็งแรง
การค้าน้ำมัน องค์การพลังงานระหว่างประเทศคาดว่า
สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ส่งออกสุทธิของธรรมชาติ
แก๊สโดยปี 2020 และจะแซงซาอุดีอาระเบียเป็น
ที่ใหญ่ที่สุดในโลกน้ำมันผู้ผลิต โดยในปีเดียวกัน ก่อนที่
เป็นเกือบพอเพียงในพลังงานโดย 2035
( International Energy Agency , 2012 ) มองไปข้างหน้า ,
นี้อาจส่งผลในแผนที่โลกพลังงานใหม่ที่มีน้อยลง
ดิบปริมาณการซื้อขายในระดับสากล , กลั่น
ผลิตภัณฑ์ส่งออกจากสหรัฐอเมริกา และ จีน และอินเดีย เกิดใหม่เป็นขนาดใหญ่

เข้าของน้ำมันดิบ และผู้ส่งออกของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่น
อาจความต้องการ โดยประเภทของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจะคาย
กับกลั่นกลาง เช่น ดีเซล ที่ใช้ในการขนส่ง
เติบโตอย่างรวดเร็ว ( ลอยด์รายการ 2012a )