โอโซนเป็นก๊าซหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก โดยในชั้น stratosphere โอโซนจะทาหน้าที่เป็นเสมือนเกราะที่คอยปกป้องสิ่งมีชีวิตในโลกจากรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ แต่สาหรับโอโซนที่อยู่ในชั้น troposphere ซึ่งเป็นชั้นบรรยากาศที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ โอโซนในชั้นนี้กลับเป็นสารมลพิษทางอากาศชนิดหนึ่งซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต จากการสารวจพบว่าความเข้มข้นของโอโซนมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น 2 - 5 เท่า ในช่วงเวลา 40 ปี (Derwent และคณะ, 2002) โดยก๊าซโอโซนที่เกิดขึ้นในชั้น troposphere ไม่ได้ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือยานพาหนะโดยตรง แต่ก๊าซโอโซนจะเกิดขึ้นจากการทาปฏิกิริยาเคมีที่ผลักดันด้วยแสงระหว่างก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) กับไอระเหยของสารประกอบอินทรีย์ (Pina และ Moraes, 2010) ในประเทศไทยกาหนดค่ามาตรฐานของปริมาณโอโซนในบรรยากาศไม่เกิน 100 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb) ในช่วงระยะเวลาเฉลี่ย 1 ชั่วโมง ซึ่งจากรายงานคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษในปี 2553 พบปริมาณโอโซนเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยเช่น กรุงเทพและปริมณฑล เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา ราชบุรี ระยอง ลาปาง ชลบุรี แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ และเชียงราย โดยปริมาณโอโซนที่ตรวจวัดได้มากที่สุดมีความเข้มข้นมากถึง 184 ppb (วิจารย์ และ เจนจบ, 2553) โอโซนจัดเป็นก๊าซที่เป็นพิษต่อพืชในด้านต่างๆ เช่น ด้านกายวิภาคทาให้ palisade mesophyll และ spongy mesophyll ของต้น green ash และ black berry บางลง (Bennett และคณะ, 1992) ด้านเกษตรกรรมพบว่าผลผลิตของส้มและเลมอนที่ปลูกในบริเวณเมติเตอเรเนียนในปี 2003-2005 ลดลงประมาณ 10% (Delgado-Saborit และ