sive tendencies, the leap from aggr

sive tendencies, the leap from aggressive men to agressive states is problematic, as many international relations scholars have pointed out. do men's aggressive tendencies really get channeled into international war, thus leading to the possibility of domestic peace between wars? the high homicide rate in the united states makes one skeptical of this possibility, whereas switzerland, a country with one of the lowest homicide rates in the world, is rarely an international aggressor. if most men,particularly young men, have violent tendencies, as fukuyama claims, why is it that some states are so much more peaceful than others? statesmen do not choose war lightly. nor is war generally decided at the ballot box where, according to fukuyama, significant numbers of women are voting for peace. it has often been older men who send young men often war to fight fort what they see as legitimate national interests. would american policymakers in the 1960s of today's vietnam veterans be staisfied with the explanation that america fought in vietnam as an outlet for the aggressive tendencies

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

sive แนวโน้มก้าวกระโดดจากคนก้าวร้าวก้าวร้าวรัฐเป็นปัญหาที่นักวิชาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจำนวนมากได้ชี้ให้เห็น ไม่แนวโน้มก้าวร้าวผู้ชายจริงๆจูนเข้าสู่สงครามระหว่างประเทศจึงนำไปสู่​​ความเป็นไปได้ของความสงบสุขในประเทศระหว่างสงครามหรือไม่ อัตราการฆาตกรรมสูงในประเทศสหรัฐอเมริกาทำให้หนึ่งเชื่อในความเป็นไปได้นี้ในขณะที่วิตเซอร์แลนด์ประเทศที่มีหนึ่งในอัตราต่ำสุดของการฆาตกรรมในโลกที่แทบจะไม่เคยรุกรานประเทศ ถ้าคนส่วนใหญ่ชายหนุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีแนวโน้มความรุนแรงเช่นเดียวกับการเรียกร้องของฟุกุยามาทำไมมันว่าบางรัฐมีความสงบสุขมากขึ้นกว่าคนอื่น รัฐบุรุษไม่เลือกสงครามเบา สงครามหรือการตัดสินใจโดยทั่วไปในกล่องลงคะแนนที่ตามที่ฟุกุยามาตัวเลขที่สำคัญของผู้หญิงจะลงคะแนนให้ความสงบสุข จะได้รับมักจะเป็นผู้สูงอายุชายที่ส่งชายหนุ่มที่มักจะทำสงครามต่อสู้กับป้อมสิ่งที่พวกเขาเห็นผลประโยชน์ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ จะกำหนดนโยบายอเมริกันในปี 1960 ของวันนี้ทหารผ่านศึกเวียดนามจะ staisfied ด้วยคำอธิบายที่อเมริกาต่อสู้ในเวียดนามเป็นทางออกสำหรับแนวโน้มก้าวร้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แนวโน้ม sive กระโดดจากคนก้าวร้าวไปอเมริกาก้าวร้าวเป็นปัญหา สัมพันธ์นักวิชาการจำนวนมากได้ชี้ให้เห็น ทำแนวโน้มก้าวร้าวของผู้ชายจริง ๆ รับจอเป็นสงครามระหว่างประเทศ จึง นำไปสู่ความสงบสุขภายในประเทศระหว่างสงคราม อัตราการฆาตกรรมสูงในสหรัฐอเมริกาแบบแคลงใจของโอกาสนี้ ในขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศ ด้วยราคาถูกฆาตกรรมต่ำที่สุดในโลก จะไม่ค่อยมีผู้รุกรานต่างประเทศ ถ้าคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนุ่ม มีแนวโน้มรุนแรง เป็นฟุคุยาม่าร้อง ทำไมเป็นอเมริกาบางสงบมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ มากไม่เลือกสงครามเบา ไม่มีสงครามโดยทั่วไปตัดสินในการหีบ ตามฟุคุยาม่า ตัวเลขสำคัญของผู้หญิงลงคะแนนเสียงเพื่อสันติภาพ มักจะได้คนเก่าส่งชายหนุ่มมักจะสงครามต่อสู้ป้อมสิ่งที่พวกเขาเห็นเป็นผลประโยชน์แห่งชาติถูกต้องตามกฎหมาย ผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐอเมริกาในปี 1960 ของทหารผ่านศึกเวียดนามในวันนี้จะเป็น staisfied ด้วยคำอธิบายที่อเมริกาในเวียดนามเป็นเต้าเสียบสำหรับแนวโน้มก้าวร้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนวโน้มที่ sive ก้าวกระโดดออกจากคนรุกไปยังรัฐ agressive เป็นเรื่องที่ยังมีปัญหาเป็นนักวิชาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจำนวนมากชี้ให้เห็นว่าออกมาทำแนวโน้มของคนจริงๆห่างไกลจะได้รับเข้าสู่สงครามระหว่างประเทศจึงนำไปสู่ความเป็นไปได้ของความสงบในประเทศระหว่างสงคราม อัตราฆาตกรรมสูงในสหรัฐอเมริกาที่ทำให้เป็นหนึ่งในความเป็นไปได้สงสัยนี้ในขณะที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ประเทศที่พร้อมด้วยหนึ่งในอัตราต่ำสุดในโลกที่เป็นสิ่งที่แทบจะไม่เกิดขึ้นผู้รุกรานระหว่างประเทศหากคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนหนุ่มมีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้นเป็นฟรานซิสกล่าวอ้างก็คือว่าทำไมบางรัฐเป็นมากกว่านั้นเงียบสงบมากกว่าที่อื่นๆ รัฐบุรุษไม่ได้เลือกทำสงครามเบาๆและไม่มีสงครามโดยทั่วไปแล้วมีมติในช่องลงคะแนนซึ่งตามที่ฟรานซิสมีตัวเลขของผู้หญิงได้รับการลงคะแนนเสียงเพื่อ สันติภาพ ด้วยมันได้รับคนรุ่นเก่าที่ส่งหนุ่มคนมักทำสงครามในการต่อสู้กับการ Fort สิ่งที่พวกเขาเห็นเป็นอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้เสีย ภายใน ประเทศ.ชาวอเมริกันจะกดดันในที่ 1960 s ในวันนี้ของประเทศเวียดนาม Veterans เป็น staisfied ด้วยคำอธิบายว่าอเมริการ่วมรบในสงครามเวียดนามเป็นที่เต้าเสียบสำหรับก้าวร้าวแนวโน้ม