This paper discusses the biomechani

This paper discusses the biomechanics of running and emphasizes three-dimensional joint kinematics and kinetics. To summarize the major points: (1) the major power generator--the ankle--generates three and two times the power of the knee and hip, respectively; (2) the large eccentric action of the ankle plantar flexors illustrates the ankle's secondary role as an absorber of the vertical velocity during absorption; (3) the hip is a secondary power generator, with generation occurring during absorption, initial swing, and terminal swing; and (4) the knee--the primary power absorber--has three periods of absorption that occur during absorption, initial swing, and terminal swing in phasing opposite that of the hip. The knee muscles absorb almost three times the power of the hip and ankle. Comparisons between running and walking data emphasize the higher peak forces found in running, and these may play a significant role in injury. In this day of high-performance athletics, it is important for physicians who treat sports injuries to increase their knowledge of the mechanisms behind injuries. This requires an understanding of the mechanics of locomotion, which will allow more accurate diagnosis and ultimately better treatment of injuries.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เอกสารนี้กล่าวถึงชีวกลศาสตร์ของรัน และเน้นสามมิติร่วม kinematics และจลนพลศาสตร์ การสรุปประเด็นสำคัญ: (1) เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่สำคัญ - ข้อเท้า - สร้างสาม และสองครั้งของเข่าและสะโพก ตามลำดับ (2) การกระทำนอกรีตขนาดใหญ่ของ flexors plantar ก๊อกข้อเท้าแสดงบทบาทรองของข้อเท้าเป็นเป็นวิบากของความเร็วในแนวตั้งระหว่างดูดซึม (3 ป)จะเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง รุ่นที่เกิดขึ้นในระหว่างการดูดซึม เริ่มต้น แบบ โยก แกว่งเทอร์มินัล และ (4) เข่า - วิบากไฟฟ้าหลัก - มีสามรอบระยะเวลาของการดูดซึมที่เกิดขึ้นระหว่างการดูดซึม เริ่มต้น แบบ โยกแกว่งเทอร์มินัลในเพื่อข้ามของสะโพก กล้ามเนื้อเข่าดูดเกือบสามครั้งอำนาจของสะโพกและข้อเท้า เปรียบเทียบระหว่างการทำงาน และเดินข้อมูลเน้นสูงสุดสูงกว่าพบกองกำลังในการทำงาน และเหล่านี้อาจมีบทบาทสำคัญในการบาดเจ็บ ในวันนี้กรีฑาประสิทธิภาพสูง มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแพทย์ที่รักษาบาดเจ็บกีฬาเพื่อเพิ่มความรู้กลไกหลังบาดเจ็บ นี้ต้องใช้ความเข้าใจของกลศาสตร์ locomotion ซึ่งจะให้การวินิจฉัยแม่นยำมากขึ้น และในที่สุด ดีกว่ารักษาบาดเจ็บ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทความนี้กล่าวถึงชีวกลศาสตร์ของการทำงานและเน้นสามมิติกลศาสตร์การเคลื่อนไหวร่วมกันและจลนศาสตร์ เพื่อสรุปประเด็นที่สำคัญดังนี้ (1) เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานที่สำคัญ - ข้อเท้า - สร้างสามและครั้งที่สองอำนาจของเข่าและสะโพกตามลำดับ; (2) การกระทำที่ผิดปกติมาก flexors ฝ่าเท้าข้อเท้าแสดงให้เห็นถึงบทบาทรองของข้อเท้าเป็นโช้คของความเร็วในแนวตั้งในระหว่างการดูดซึม; (3) สะโพกเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานรองกับรุ่นที่เกิดขึ้นในระหว่างการดูดซึมแกว่งเริ่มต้นและแกว่งขั้ว; และ (4) เข่า - ดูดพลังงานหลัก - มีสามช่วงเวลาของการดูดซึมที่เกิดขึ้นระหว่างการดูดซึมแกว่งเริ่มต้นและแกว่งในขั้วตรงข้ามที่วางขั้นตอนของสะโพก กล้ามเนื้อเข่าดูดซับเกือบสามเท่าพลังของสะโพกและข้อเท้า เปรียบเทียบระหว่างการทำงานและข้อมูลการเดินเน้นที่พบกองกำลังที่สูงขึ้นสูงสุดในการทำงานและสิ่งเหล่านี้อาจมีบทบาทสำคัญในการได้รับบาดเจ็บ ในวันนี้ของการแข่งขันกีฬาที่มีประสิทธิภาพสูงก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับแพทย์ที่รักษาอาการบาดเจ็บกีฬาเพื่อเพิ่มความรู้ของกลไกที่อยู่เบื้องหลังการบาดเจ็บ นี้ต้องใช้ความเข้าใจในกลไกของการเคลื่อนไหวซึ่งจะช่วยให้การวินิจฉัยที่ถูกต้องมากขึ้นและการรักษาที่ดีกว่าในท้ายที่สุดของการบาดเจ็บ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทความนี้กล่าวถึงชีวกลศาสตร์ของการวิ่ง และเน้นแบบสามมิติและร่วมทำ สรุปประเด็นหลัก ได้แก่ ( 1 ) สาขาไฟฟ้า -- ข้อเท้า -- สร้างสามและครั้งที่สองพลังของเข่าและสะโพกตามลำดับ( 2 ) การกระทำประหลาดขนาดใหญ่ของข้อเท้า ฝ่าเท้า ข้อเท้า flexors แสดงให้เห็นถึงบทบาททุติยภูมิเป็นโช้คของความเร็วในแนวตั้งระหว่างการดูดซึม ; ( 3 ) สะโพกเป็นรองไฟฟ้า , กับรุ่นที่เกิดขึ้นในระหว่างการเริ่มต้น , สวิง สวิง และเทอร์มินัล และ ( 4 ) ข้อเข่า - ดูดกลืนพลังงานหลัก -- มี 3 ช่วงของการดูดซึมที่เกิดขึ้นในการดูดซึมสวิงครั้งแรกและขั้วตรงข้ามที่แกว่งในปัญหาของสะโพก กล้ามเนื้อเข่าดูดเกือบสามครั้ง พลังของสะโพกและข้อเท้า การเปรียบเทียบระหว่างวิ่งและเดินข้อมูลเน้นสูงกว่ายอดกองกำลังที่พบในการวิ่งและเหล่านี้อาจมีบทบาทสำคัญในการบาดเจ็บ ในวันนี้ของนักกีฬาที่มีสมรรถนะสูงมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแพทย์ที่ดูแลอาการบาดเจ็บกีฬาเพิ่มความรู้ของกลไกหลังการบาดเจ็บ นี้ต้องมีความเข้าใจในกลไกของการเคลื่อนไหว ซึ่งจะช่วยให้วินิจฉัยโรคที่ถูกต้องและรักษาดีที่สุด

ของการบาดเจ็บ