(1) In Hindu belief, everything is

(1) In Hindu belief, everything is part of Brahman. This kind of belief can be termed pantheism (= identifying God with the universe), meaning that all forms of divinity are ultimately one.

(“Monism,” the system of thought that means no distinction between matter and mind, also applies in most cases in Hinduism. We will discuss this more in coming days).

(5) Mokṣa (Moksha), or release from the cycle of samsāra or rebirth, is another core aspect of Hindu philosophy. This concept is also central to other Indic religions, such as Jainism and Buddhism.

When one has moved beyond perceptions of self and other (hence ego), then one no longer generates karma (conscious action). This enables mokṣa.

Thus, as told in the Bṛhad-āranyaka Upaniṣad, actions based in desire cause rebirth (by way of karma), but actions that are without desire do not generate karma, hence they support our liberation from samsāra

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

(1) ในความเชื่อของศาสนาฮินดู จึงเป็นส่วนหนึ่งของ Brahman ความเชื่อชนิดนี้สามารถถูกเรียกว่าสรรพเทวนิยม (=พระระบุกับจักรวาล), ความหมาย ทุกรูปแบบของ divinity สุดหนึ่ง("Monism ระบบความคิดซึ่งหมายความว่า ไม่มีความแตกต่างระหว่างสสารและจิตใจ นอกจากนี้ยังใช้ในกรณีส่วนใหญ่ในศาสนาฮินดูนั้น เราจะหารือเพิ่มเติมนี้ในวันข้างหน้า)(5) Mokṣa (มอคชา), หรือออกจากวงจรการเกิดใหม่ หรือ samsāra เป็นด้านหลักของปรัชญาฮินดู แนวคิดนี้ยังเป็นศูนย์กลางศาสนาอื่น ๆ ดิก ศาสนาเชนและศาสนาพุทธเมื่อหนึ่งได้ย้ายนอกเหนือจากภาพลักษณ์ของตนเองและอื่น ๆ (ดังนั้นอาตมา), จาก นั้นหนึ่งไม่สร้างกรรม (การกระทำสติ) ทำให้ mokṣaดังนั้น ตามที่บอกใน Upaniṣad Bṛhad āranyaka การกระทำที่อยู่ในความปรารถนาเกิดใหม่สาเหตุสร้างกรรม), แต่การดำเนินการที่ไม่ มีความปรารถนาไม่สร้างกรรม ดังนั้น พวกเขาสนับสนุนการปลดปล่อยเราจาก samsāra

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

(1) ในความเชื่อของชาวฮินดูทุกอย่างเป็นส่วนหนึ่งของพราหมณ์ ชนิดของความเชื่อนี้สามารถเรียกว่าพระเจ้า (= ระบุพระเจ้ากับจักรวาล) ซึ่งหมายความว่าทุกรูปแบบของความศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในที่สุด. ("Monism" ระบบของความคิดที่หมายถึงความแตกต่างระหว่างเรื่องและจิตใจไม่มียังใช้ในกรณีส่วนใหญ่ ในศาสนาฮินดู. เราจะหารือเรื่องนี้ในวันที่มา). (5) Moksa (หลุดพ้น) หรือปล่อยจากวงจรของสังสารวัฏหรือการเกิดใหม่เป็นด้านหลักของปรัชญาฮินดูอีก แนวคิดนี้ยังเป็นศูนย์กลางของศาสนาภาษาสันสกฤตอื่น ๆ เช่นศาสนาเชนและพุทธศาสนา. เมื่อหนึ่งได้ย้ายที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ของตนเองและผู้อื่น (เพราะฉะนั้นอาตมา) จากนั้นหนึ่งไม่สร้างกรรม (การกระทำสติ) ซึ่งจะช่วยให้ Moksa. ดังนั้นที่บอกในBṛhad-ARANYAKA Upanisad กระทำตามในการทำให้เกิดความปรารถนาที่เกิดใหม่ (โดยวิธีของกรรม) แต่การกระทำที่จะไม่มีความปรารถนาที่จะไม่สร้างกรรมด้วยเหตุนี้พวกเขาสนับสนุนการปลดปล่อยเราจากสังสารวัฏ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

( 1 ) ตามความเชื่อของฮินดู ทุกอย่างเป็นส่วนหนึ่งของพราหมณ์ . ชนิดของความเชื่อที่สามารถเรียกว่าผัสสะ ( = ระบุพระเจ้ากับจักรวาล ) ซึ่งหมายความว่าทุกรูปแบบของเทพบุตรสุดหนึ่ง

" ( เอกนิยม , " ระบบความคิดที่ไม่มีความแตกต่างระหว่างวัตถุและจิตใจ นอกจากนี้ยังใช้ในกรณีส่วนใหญ่ในศาสนาฮินดู เราจะหารือเพิ่มเติมในวันที่มา )

( 5 ) มกṣ ( โมกษะ )หรือปลดปล่อยจากวงจรของแซมอุบาสก รา หรือ การเกิดใหม่ คือ ด้านหลักอีกอย่างของปรัชญาฮินดู แนวคิดนี้ยังเป็นศูนย์กลางศาสนาอินเดียอื่น ๆเช่น ศาสนาเชน และ ศาสนาพุทธ

เมื่อได้ย้ายเกินการรับรู้ของตนเองและคนอื่น ( เพราะอัตตา ) จากนั้นหนึ่งไม่สร้างกรรม ( สติกระทำ ) นี้จะช่วยให้มกṣ .

ดังนั้นตามที่บอกในอะยะ มีอุบาสก - ranyaka upani ṣ ADการกระทำตามความปรารถนาเป็นสาเหตุการเกิดใหม่ ( โดยวิธีกรรม ) แต่การกระทำที่ปราศจากความไม่สร้างกรรม ดังนั้น พวกเขาสนับสนุนการปลดปล่อยเราจาก Sams อุบาสก รา