process of thinking and doing as ed

process of thinking and doing as education. Dewey
suggested a method of constructive problem-solving.
Dewey’s method is centered around an inquiry in context
unfolding a problem or difficulty, which then motivates for
further analyses and exploration. New insights are the
foundation for an explanation of that inquiry, and are
followed by a plan of action to solve the problem
according to the explanation.
The following criteria are needed to realise this method:
• challenges situated in real-life environment of the
learner;
• action – interaction of thinking and action plus interaction
and sharing of knowledge between learner and teacher;
• application – solving the problem and applying the
insights, reflecting and understanding through applying
ideas.
In conclusion, Dewey’s perspective on learning and
education is centered around a real-life inquiry, which has
to be analysed in its complexity. The inquiry acts like
“a magnet for content”, it motivates further analysis of
content and input of several disciplines in order to explain
and solve that complex inquiry as a whole“ (Dewey
1931). In that, the Dewey approach meets the main
aspects of constructivist learning. It involves the student
throughout the learning process, suggests to balance
instruction and construction, and more or less allows
experience in real-life situations. Although Dewey
described his method theoretically, the complexity and
abstractness of these recommendations is the crux of the
matter for teachers to actually implement them into
schools. His recommendations are not enough to get over
the difficulties of teaching complex phenomena in a
holistic constructivist manner. That might be why
education today is still focused on breaking down complex
phenomena into smaller, isolated subjects. This is because
they are easier to implement and distribute to students in
the first place. This is why we compared Dewey’s method
to Design Thinking, as we believe that Design Thinking can
give concrete recommendations for distributing a complex
phenomena without abstracting too much, but still being
digestible for the student and implementable for the
teacher.
Concrete approach: Design Thinking in education
Design thinking understood as a meta-disciplinary
methodology loosens the link to design as a profession.
Even though Design Thinking was explored and
developed in connection with professional designers at
first, strategies have been identified that are relevant to
all disciplines and professions (Lindberg et al., 2009:4,
emphasis as per original).
Thinking like a designer involves different kinds of abilities
and competences in different fields of knowledge:
conceiving, planning and making products (Buchanan
1999). Those are cognitive processes manifested in
design action. Designers are used to deal with complex
problems, and by generating diverse high-scoring
solutions, analysing and evaluating them in order to
gradually improve them (Dorst 2006). This is what
students should be enabled for and what the so-called key
competences are all about: dealing with complex real-life
problems by analysing and evaluating them in order to act
solution-oriented and responsible. Design Thinking realises
what is recommended theoretically in constructivist theory.
Especially learning through experience and complex
problem solving among other aspects are met in Design
Thinking and can be employed at all age groups, e.g.
extensive experiences at the K12 program at the d.school
in Stanford, USA. Design Thinking is a constructivist
learning design, because of its qualities in training certain
skills, which are predispositions for a constructive way of
learning: motivation for exploration, openness for new
ideas, creative thinking and other metacognitive
competences (Noweski 2012). In a Design Thinking
context as described in the phases below, such
predispositions are met to ensure 21st century skills
development. Students are motivated for exploration, trust
is build up between student and teacher to give
confidence for self-exploration, and team competences
are fostered to express ones opinion and share
knowledge. A formalised process guides the teacher
towards constructivist learning. Design Thinking can be
realised in short sessions integrated in a highly specialised
A Level biology class, as in interdisciplinary full project
weeks.
Pioneering this approach, the Nueva School in California
states that Design Thinking is taught, applied, and explored
in three strands:
“Some projects aim to take students through the entire
design-thinking process. These experiences include a
‘Secret Service project’, (kindergarten), ‘Cooperative
Games’ project (second grade), year-long Design
Engineering classes, (grades 4–5), and the ‘Solar House
Project’ (grade 6). Integrated projects require students
to use aspects of the design-thinking process as tools to
solve real problems presented in homeroom or subject
classes. These include STEM projects like ‘Electrical
Switches’ (second grade), ‘Catapults’ (fifth grade),
‘Roller Coaster’ (sixth grade), and ‘Cell Membranes’
(eighth grade). They can also include social problemsolving activities like the ‘Service Learning Fair’ (third
grade), and the ‘Social Issues Project’ (fifth grade), and
art projects like the ‘Electronic Arts’, and ‘Digital

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระบวนการคิด และทำเป็นการศึกษา Deweyแนะนำวิธีการสร้างสรรค์แก้ปัญหาวิธีการของ Dewey แปลกถามในบริบทแฉปัญหาหรือความยากลำบาก ที่แล้วแรงบันดาลใจสำหรับเพิ่มเติมวิเคราะห์และสำรวจ มีความเข้าใจใหม่มูลนิธิสำหรับคำอธิบายของการสอบถาม และมีตามแผนการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาตามคำอธิบาย เกณฑ์ต่อไปนี้จำเป็นต้องตระหนักถึงวิธีนี้:•ความท้าทายในสภาพแวดล้อมของชีวิตจริงของการผู้เรียน•ดำเนินการ – โต้ตอบ ของความคิด และการดำเนินการโต้ตอบและการแบ่งปันความรู้ระหว่างผู้เรียนและครู•ประยุกต์ – แก้ปัญหา และใช้การความเข้าใจ สะท้อนให้เห็นถึง ความเข้าใจ โดยใช้ความคิดเห็นในสรุป มุมมองของ Dewey ในเรียนรู้ และสอบถามชีวิต ที่น่าศึกษาการจะ analysed ในความซับซ้อนของ สอบถามการทำหน้าที่เช่น "แม่เหล็กสำหรับเนื้อหา" ได้แรงบันดาลใจเพิ่มเติมวิเคราะห์เนื้อหาและป้อนข้อมูลของสาขาต่าง ๆ เพื่ออธิบายและแก้ไขการสอบถามที่ซับซ้อนทั้งหมด" (Dewey1931) ที่ วิธี Dewey ตรงตามหลักลักษณะของการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์นิยม เกี่ยวข้องกับนักเรียนตลอดกระบวนการเรียนรู้ แนะนำให้ดุลคำแนะนำและก่อสร้าง และน้อยประสบการณ์ในสถานการณ์ชีวิตจริง แม้ว่า Deweyอธิบายวิธีการของเขาตามหลักวิชา ความซับซ้อน และabstractness ของคำแนะนำเหล่านี้เป็นประเด็นเรื่องสำหรับครูเพื่อจะ นำเข้าโรงเรียน คำแนะนำของเขาไม่เพียงพอที่จะได้รับมากกว่าปัญหาการสอนปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนในการลักษณะแบบสร้างสรรค์นิยมแบบองค์รวม อาจจะมีเหตุผลการศึกษาวันนี้ยังเน้นแบ่งคอมเพล็กซ์ปรากฏการณ์เป็นเรื่องเล็ก แยก ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาจะง่ายต่อการใช้ และแจกจ่ายแก่นักเรียนสถานแรก นี่คือเหตุผลที่เราเปรียบเทียบวิธีการของ Deweyการออกแบบคิด เป็นเราเชื่อว่าที่สามารถคิดออกแบบให้คำแนะนำคอนกรีตสำหรับกระจายที่ซับซ้อนปรากฏการณ์ โดย abstracting มากเกินไป แต่ยังคง เป็นdigestible สำหรับนักเรียน และ implementable สำหรับการครูคอนกรีตวิธีการ: การออกแบบความคิดในการศึกษาคิดออกแบบเข้าใจว่าเป็นวินัย meta-วิธี loosens การเชื่อมโยงการออกแบบเป็นอาชีพถึงแม้ว่าการออกแบบคิดเป็นอุดม และพัฒนาร่วมกับนักออกแบบมืออาชีพที่ครั้งแรก กลยุทธ์ได้รับการระบุที่เกี่ยวข้องกับทุกสาขาวิชาการและวิชาชีพ (Lindberg et al., 2009:4เน้นตามเดิม)ความคิดเช่นนักออกแบบเกี่ยวข้องกับความสามารถต่าง ๆและ competences ในมิติต่าง ๆ ของความรู้:ตั้งครรภ์ การวางแผนและทำให้ผลิตภัณฑ์ (buchanan ทำยอด1999) การที่จะประจักษ์ในกระบวนการรับรู้การดำเนินการออกแบบ นักออกแบบจะใช้ในการจัดการกับจำนวนเชิงซ้อนปัญหา และ โดยการสร้างความหลากหลายสูงการให้คะแนนโซลูชั่น วิเคราะห์ และประเมินเพื่อพวกเขาค่อย ๆ ปรับปรุงพวกเขา (Dorst 2006) นี่คืออะไรนักเรียนควรสามารถเปิดการใช้งาน และสิ่งสำคัญที่เรียกว่าcompetences คือทั้งหมดเกี่ยวกับ: เผชิญกับชีวิตจริงที่ซับซ้อนปัญหาวิเคราะห์ และประเมินดังกล่าวเพื่อดำเนินการมุ่ง เน้นการแก้ปัญหา และรับผิดชอบ คิดออกแบบ realisesอะไรจะแนะนำตามหลักวิชาในแบบสร้างสรรค์นิยมทฤษฎีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และซับซ้อนแก้ไขปัญหาในด้านอื่น ๆ เป็นไปตามแบบความคิด และสามารถทำงานในกลุ่มอายุทั้งหมด เช่นประสบการณ์มากมายที่โปรแกรม K12 ที่ d.schoolในสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา คิดออกแบบสร้างสรรค์นิยมความเป็นเรียนออกแบบ เนื่องจากคุณภาพในการฝึกอบรมบางทักษะ ซึ่ง predispositions แบบสร้างสรรค์ของเรียน: แรงจูงใจสำหรับการสำรวจ การเปิดตัวความคิด ความคิดสร้างสรรค์ และอื่น ๆ metacognitivecompetences (Noweski 2012) ในการคิดออกแบบบริบทในระยะต่ำ เช่นตรง predispositions ให้ศตวรรษที่ 21 ทักษะการพัฒนา นักเรียนมีแรงจูงใจสำหรับการสำรวจ ความน่าเชื่อถือถูกสร้างขึ้นระหว่างครูและนักเรียนให้ความเชื่อมั่นตนเอง และทีม competencesเด็ก ๆ คนแสดงความคิดเห็น และแบ่งปันความรู้ กระบวนการ formalised แนะนำครูต่อแบบสร้างสรรค์นิยมในการเรียนรู้ สามารถคิดออกแบบเองก็ยังคิดในระยะสั้นช่วงที่รวมอยู่ในที่สูงเป็นพิเศษเรียนชีววิทยาระดับ ในโครงการอาศัยสัปดาห์บุกเบิกวิธีการนี้ โรงเรียนลนูว่าในรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า ออกแบบคิดจะสอน ใช้ อุดมในสาม strands:"โครงการบางจุดมุ่งหมายการเรียนผ่านทั้งหมดกระบวนการคิดที่ออกแบบ ประสบการณ์เหล่านี้รวมถึงการ'โครงการบริการลับ' (อนุบาล), ' สหกรณ์เกมของโครงการ (สองชั้น), ปีที่ยาวนานออกแบบเรียนวิศวกรรม (เกรด 4 – 5), และ ' บ้านแสงอาทิตย์โครงการ ' (เกรด 6) นักเรียนต้องมีโครงการรวมการใช้ลักษณะของการคิดออกแบบเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาที่นำเสนอในชั่วโมงหรือเรื่องจริงห้องเรียน รวมถึงโครงการต้นกำเนิดเช่น ' ไฟฟ้าของสวิตช์ (ชั้นสอง), 'Catapults' (5 ชั้น),'Roller Coaster' (เกรด 6), และ 'เยื่อหุ้มเซลล์'(ชั้นแปด) พวกเขายังอาจมีกิจกรรมสังคม problemsolving เช่น 'บริการเรียนรู้แฟร์' (สามเกรด), และ 'สังคมปัญหาโครงการ' (5 ชั้น), และงานศิลปะชอบ 'อิเล็กทรอนิกส์ศิลปะ' และ ' ดิจิทัล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระบวนการคิดและทำโดยการศึกษา ดิวอี้
แนะนำการแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์
ดิวอี้วิธีการเป็นศูนย์กลางรอบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในบริบท
แฉปัญหา หรือความยากลําบาก ซึ่งกระตุ้นให้
วิเคราะห์เพิ่มเติม และการสำรวจ ข้อมูลเชิงลึกใหม่
มูลนิธิเพื่ออธิบายว่า การสอบถาม และ
ตามแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหา
ตามการอธิบาย
เกณฑ์ต่อไปนี้จะต้องตระหนักถึงวิธีการนี้ :
- ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายในชีวิตจริงของผู้เรียน - การกระทำที

; การคิดและการกระทำและการปฏิสัมพันธ์ และการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้เรียน

- ) และครู ; การแก้ไขปัญหาและการใช้ข้อมูลเชิงลึกและความเข้าใจ

ซึ่งสะท้อนผ่านการใช้ความคิด .
สรุป ดิวอี้ คือมุมมองในการเรียนรู้และการศึกษาเป็นศูนย์กลางรอบ

สอบถามในชีวิตจริง ซึ่งมีที่จะวิเคราะห์ในความซับซ้อนของมัน . สอบถามเหมือน
" แม่เหล็กสำหรับเนื้อหา " มัน motivates การวิเคราะห์ต่อไปของข้อมูลและการป้อนข้อมูลของสาขาวิชาต่าง ๆ

เพื่ออธิบายและแก้สอบถามที่ซับซ้อนที่เป็นทั้ง " ( ดิวอี้
1931 ) ในที่แนวทางตามหลัก
ดิวอี้ลักษณะของตนเองในการเรียนรู้ มันเกี่ยวข้องกับนักศึกษาพยาบาลตลอดกระบวนการการเรียนรู้ให้สมดุล
สอนและการก่อสร้าง และมากกว่าหรือน้อยกว่าให้
ประสบการณ์ในสถานการณ์ชีวิตจริง แม้ว่าดิวอี้
อธิบายวิธีการของเขาในทางทฤษฎีที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมของข้อเสนอแนะเหล่านี้

เป็นปมของเรื่องให้ครูจริง ๆใช้พวกเขาใน
โรงเรียนข้อเสนอแนะของเขาจะไม่เพียงพอที่จะได้รับมากกว่าปัญหาของการสอนที่ซับซ้อน

ลักษณะปรากฏการณ์ในตนเองแบบองค์รวม นั่นอาจเป็นเหตุผล
การศึกษาวันนี้ยังคงเน้นแบ่งปรากฏการณ์ซับซ้อน
เป็นเล็ก แยกวิชา นี้เป็นเพราะพวกเขาจะง่ายต่อการใช้

และแจกจ่ายให้กับนักเรียนในสถานที่แรก นี่คือเหตุผลที่เราเปรียบเทียบวิธีการ
ดิวอี้ออกแบบ คิดอย่างที่เราเชื่อว่ากระบวนการคิดสามารถให้ข้อเสนอแนะคอนกรีตเพื่อกระจาย

ปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนโดยไม่มีสาระสังเขปมากเกินไป แต่ก็ยังถูกย่อยสำหรับนักเรียนและ implementable


สำหรับครู แนวทางการออกแบบคอนกรีต : คิดในการศึกษา
ออกแบบความคิดเข้าใจเป็นอภิวินัย
วิธีการผ่อนคลายลิงค์ การออกแบบ
เป็นอาชีพที่ถึงแม้ว่าการออกแบบสำรวจและ
คิดพัฒนาในการเชื่อมต่อกับนักออกแบบมืออาชีพที่
แรกกลยุทธ์ได้รับการระบุว่าเกี่ยวข้องกับ
สาขาทุกสาขาอาชีพ ( ลินด์เบิร์ก et al . , 2009:4
, เน้นตามต้นฉบับ ) .
คิดอย่างนักออกแบบที่เกี่ยวข้องกับชนิดของความสามารถ และทักษะในสาขาที่แตกต่างกันของ
ความรู้ นักวิจัย :
,การวางแผนและการทำผลิตภัณฑ์ ( Buchanan
1999 ) เหล่านั้นจะรับรู้กระบวนการประจักษ์ใน
ปฏิบัติการออกแบบ . นักออกแบบจะใช้เพื่อจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนและหลากหลายสูง

โดยการสร้างโซลูชั่นคะแนน วิเคราะห์และประเมินผลเพื่อ
ค่อยๆดีขึ้น ( ดอร์สต 2006 ) นี่คือสิ่งที่
นักเรียนควรจะเปิดใช้งาน และอะไรที่เรียกว่าคีย์
สมรรถภาพทั้งหมดเกี่ยวกับจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนในชีวิตจริง
โดยการวิเคราะห์และการประเมินดังกล่าวเพื่อแสดง
โซลูชั่นที่มุ่งเน้นและความรับผิดชอบ ออกแบบความคิดตระหนัก
อะไรแนะนำทฤษฎีทฤษฎีคอนส .
โดยเฉพาะการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ และแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนในด้านอื่น ๆ จะเจอ

คิดในการออกแบบและสามารถใช้ที่ทุกกลุ่มอายุ เช่น
ประสบการณ์ที่กว้างขวางที่ K12 โปรแกรมที่ d.school
ในสแตนฟอร์ด , ความคิดการออกแบบ USA เป็นคอนส
การออกแบบการเรียนรู้ เพราะคุณภาพในการฝึกทักษะบางอย่าง
ซึ่งเป็น predispositions สำหรับวิธีที่สร้างสรรค์ของ
การเรียนรู้ : แรงจูงใจสำหรับการสำรวจ การเปิดกว้างสำหรับความคิดใหม่
, ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการรู้คิด ( noweski 2012
อื่น ๆ ) ในการออกแบบการคิด
บริบทตามที่อธิบายไว้ในขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เพื่อให้แน่ใจว่า predispositions

พัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 นักเรียนมีแรงจูงใจสำหรับการสำรวจ เชื่อ
ถูกสร้างขึ้นระหว่างนักเรียนและครู ให้ความมั่นใจสำหรับการสำรวจตนเอง

จะพัฒนาทีมทักษะและแสดงความคิดเห็นและความรู้ที่แบ่งปัน

เป็น formalised กระบวนการคู่มือครู
ต่อตนเองในการเรียนออกแบบความคิดสามารถ
ตระหนักในรอบเวลาที่สั้นแบบบูรณาการในระดับสูงเฉพาะ
ห้องเรียนชีววิทยา เช่น โครงการสหวิทยาการเต็ม

สัปดาห์ ผู้บุกเบิกแนวคิดนี้ , Nueva โรงเรียนในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ที่ออกแบบความคิด สอนใช้ และค่า

" : 3 เส้นบางโครงการมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักเรียนผ่าน ทั้ง
ออกแบบกระบวนการคิด . ประสบการณ์เหล่านี้รวมถึง
' โครงการ ' Secret Service ( อนุบาล ) '
' เกมสหกรณ์โครงการ ( ป. 2 ) ทั้งปี
วิศวกรรมการออกแบบการเรียน ( เกรด 4 – 5 ) , และ ' บ้านพลังงานแสงอาทิตย์
โครงการ ( ป. 6 ) โครงการบูรณาการให้นักเรียน
ใช้ด้านการออกแบบ กระบวนการคิดเป็นเครื่องมือแก้ปัญหา

จริงเสนอในการเรียน หรือเรียนวิชา

เหล่านี้รวมถึงต้นโครงการ ' ไฟฟ้า
สวิตช์ ( ป. 2 ) ' ' ( เพิ่มเกรด ) ,
'roller เหาะ ' ( ป. 6 ) และ ' เยื่อหุ้มเซลล์ '
( ม. 2 ) พวกเขาสามารถรวมกิจกรรมทางสังคมอย่างเช่น ' ' ( งานบริการเรียนป. 3
) และสังคมปัญหาโครงการ ' ( ป. 5 ) และโครงการศิลปะเช่น
' Electronic Arts ' และ ' ดิจิตอล