A monogastric organism has a simple

A monogastric organism has a simple single-chambered stomach, compared with a ruminant organism, like a cow, goat, or sheep, which has a four-chambered complex stomach. Examples of monogastric animals include omnivores such as humans, rats, dogs and pigs, carnivores such as cats, and herbivores such as horses and rabbits.[1] Herbivores with monogastric digestion can digest cellulose in their diets by way of symbiotic gut bacteria. However, their ability to extract energy from cellulose digestion is less efficient than in ruminants.[2]

Herbivores digest cellulose by microbial fermentation. Monogastric herbivores which can digest cellulose nearly as well as ruminants are called hindgut fermenters, while ruminants are called foregut fermenters.[3] These are subdivided into two groups based on the relative size of various digestive organs in relationship to the rest of the system: colonic fermenters tend to be larger species such as horses and rhinos, and cecal fermenters are smaller animals such as rabbits and rodents.[4] Great apes (other than humans) derive significant amounts of phytanic acid from the hindgut fermentation of plant materials.[5]

Monogastrics cannot digest the fiber molecule cellulose as efficiently as ruminants, though the ability to digest cellulose varies amongst species.[2]

A monogastric digestive system works as soon as the food enters the mouth. Saliva moistens the food and begins the digestive process. After being swallowed, the food passes from the esophagus into the stomach, where stomach acid and enzymes help to break down the food. Bile salts stored in the gall bladder empty the contents of the stomach into the small intestines where most fats are broken down. The pancreas secretes enzymes and alkali to neutralize the stomach acid.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีชีวิต monogastric ง่ายยุคลำเดียวท้อง เปรียบเทียบกับชีวิตที่ ruminant วัว แพะ หรือ แกะ ซึ่งมีสี่ยุคลำท้องซับซ้อนได้ ตัวอย่างของ monogastric สัตว์รวมถึงสัตว์เช่นมนุษย์ หนู สุนัขและสุกร ช้างร้องเช่นแมว และสัตว์กินพืชเช่นม้าและกระต่าย [1] สัตว์กินพืชและย่อยอาหาร monogastric สามารถย่อยเซลลูโลสในอาหารโดยแบคทีเรียในลำไส้ symbiotic อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการดึงพลังงานจากการย่อยเซลลูโลสมีประสิทธิภาพน้อยกว่าในสัตว์เคี้ยวเอื้อง [2]สัตว์กินพืชย่อยเซลลูโลส โดยจุลินทรีย์หมัก Monogastric งอกซึ่งสามารถย่อยเซลลูโลสเกือบเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องเรียกว่า hindgut fermenters ในขณะที่เรียกว่าสัตว์เคี้ยวเอื้อง foregut fermenters [3] เหล่านี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามขนาดของอวัยวะย่อยอาหารต่าง ๆ ในความสัมพันธ์ของระบบสัมพัทธ์: colonic fermenters มีแนวโน้มจะ สายพันธุ์ขนาดใหญ่เช่นม้าและแรด และ cecal fermenters สัตว์เล็กเช่นกระต่ายและหนู [4] วานรดี (ที่ไม่ใช่มนุษย์) มาจำนวนมาก phytanic กรดจากหมัก hindgut วัสดุโรงงาน [5]Monogastrics ไม่สามารถย่อยเส้นใยเซลลูโลสโมเลกุลอย่างมีประสิทธิภาพที่สัตว์เคี้ยวเอื้อง แม้ว่าความสามารถในการย่อยเซลลูโลสที่แตกต่างกันไปในหมู่สายพันธุ์ [2]Monogastric ระบบย่อยอาหารทำงานได้ทันทีที่อาหารเข้าสู่ปาก น้ำลาย moistens อาหาร และเริ่มกระบวนการย่อยอาหาร หลังการกลืนกิน อาหารผ่านหลอดอาหารเข้าสู่กระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารที่กรด และเอนไซม์ช่วยในการทำลายลงอาหาร เกลือน้ำดีที่เก็บไว้ในถุงน้ำดีล้างเนื้อหาของกระเพาะอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กซึ่งไขมันส่วนใหญ่จะแบ่ง ตับอ่อนหลั่งเอนไซม์และด่างในการต่อต้านกรดในกระเพาะอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งมีชีวิตที่มีกระเพาะเดี่ยวง่ายท้องลำเดียวเมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตสัตว์เคี้ยวเอื้องเช่นวัวแพะหรือแกะที่มีกระเพาะอาหารที่ซับซ้อนสี่ลำ ตัวอย่างของสัตว์กระเพาะเดี่ยว ได้แก่ omnivores เช่นมนุษย์หนูสุนัขและสุกรสัตว์กินเนื้อเช่นแมวและสัตว์กินพืชเช่นม้าและกระต่าย. [1] สัตว์กินพืชกับการย่อยอาหารกระเพาะเดี่ยวสามารถย่อยเซลลูโลสในอาหารของพวกเขาโดยวิธีการทางชีวภาพแบคทีเรียในลำไส้ แต่ความสามารถในการดึงพลังงานจากเซลลูโลสย่อยอาหารมีประสิทธิภาพน้อยกว่าในสัตว์เคี้ยวเอื้อง. [2]

พันธุ์ย่อยเซลลูโลสโดยการหมักจุลินทรีย์ สัตว์กินพืชกระเพาะเดี่ยวซึ่งสามารถย่อยเซลลูโลสเกือบเช่นเดียวกับสัตว์เคี้ยวเอื้องจะเรียกว่าหมัก hindgut ในขณะที่สัตว์เคี้ยวเอื้องจะเรียกว่าหมัก foregut. [3] เหล่านี้จะถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มตามขนาดญาติของอวัยวะย่อยอาหารต่างๆในความสัมพันธ์กับส่วนที่เหลือของระบบ: หมักลำไส้ใหญ่มักจะเป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่เช่นม้าและแรดและหมัก cecal เป็นสัตว์ขนาดเล็กเช่นกระต่ายและหนู [. 4] ลิงใหญ่ (นอกเหนือจากมนุษย์) ได้รับมาจำนวนเงินที่สำคัญของกรด phytanic จากการหมัก hindgut ของวัสดุพืช. [5]

Monogastrics ไม่สามารถย่อยโมเลกุลเซลลูโลสไฟเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง แต่ความสามารถในการย่อยเซลลูโลสแตกต่างกันไปในหมู่สายพันธุ์. [2]

ระบบการย่อยอาหารกระเพาะเดี่ยวทำงานเร็วที่สุดเท่าที่อาหารเข้าปาก น้ำลาย moistens อาหารและเริ่มกระบวนการย่อยอาหาร หลังจากที่ถูกกลืนกินอาหารที่ผ่านจากหลอดอาหารลงกระเพาะอาหารที่กรดในกระเพาะอาหารและเอนไซม์ที่ช่วยในการทำลายลงอาหาร เกลือน้ำดีเก็บไว้ในถุงน้ำดีลบเนื้อหาของกระเพาะอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กที่ไขมันส่วนใหญ่จะเสียลง ตับอ่อนจะหลั่งเอนไซม์และด่างที่จะต่อต้านกรดในกระเพาะอาหาร