This research aimed to study factor

This research aimed to study factors associated with drinking and smoking behavior of adolescence in Nakhon Ratchasima. The sample consisted of 442 students, aged 13-18 years old and study in secondary, high, and vocational school. The instrument used in the study include a Survey Thai youth health risk behaviors questionnaire. The data were by using percentage, percentage, frequency, median and test relationship with the analyst the Chi-square and Fisher. The result of the study showed that female adolescents reported drinking alcohol 35.75% (n=158), and 21.95% (n=97) in male There was smoking behavior only in male (n=14, 3.17%). Factors that influence the behavior of teenagers drinking in Nakhon Ratchasima were 1) Different parenting styles affected drinking (x2=14.896, p.05) 3) difference in acceptance in peer group did not affected drinking behavior (x2=.72,p-value=7.88). Factors that influence the smoking behavior were 1) Sexual difference affect smoking behavior (x2=23.133,p-value=.001) 2) Different parenting does not affect smoking behavior (x2 = 386, p> .05) 3) Recognized in the different groups affect smoking behavior (x2=438,p-value=.508)
It was recommended that Nurses should be studied in depth In-depth interview in female drinking behavior.Parent, the counselors, health officials should focus on promoting parenting styles that fit the behavior in order to reduce teen drinking

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

This research aimed to study factors associated with drinking and smoking behavior of adolescence in Nakhon Ratchasima. The sample consisted of 442 students, aged 13-18 years old and study in secondary, high, and vocational school. The instrument used in the study include a Survey Thai youth health risk behaviors questionnaire. The data were by using percentage, percentage, frequency, median and test relationship with the analyst the Chi-square and Fisher. The result of the study showed that female adolescents reported drinking alcohol 35.75% (n=158), and 21.95% (n=97) in male There was smoking behavior only in male (n=14, 3.17%). Factors that influence the behavior of teenagers drinking in Nakhon Ratchasima were 1) Different parenting styles affected drinking (x2=14.896, p<.01 Sexual difference did not affect drinking behavior (x2=.45, p>.05) 3) difference in acceptance in peer group did not affected drinking behavior (x2=.72,p-value=7.88). Factors that influence the smoking behavior were 1) Sexual difference affect smoking behavior (x2=23.133,p-value=.001) 2) Different parenting does not affect smoking behavior (x2 = 386, p> .05) 3) Recognized in the different groups affect smoking behavior (x2=438,p-value=.508)It was recommended that Nurses should be studied in depth In-depth interview in female drinking behavior.Parent, the counselors, health officials should focus on promoting parenting styles that fit the behavior in order to reduce teen drinking

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการดื่มและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นในจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียน 442, อายุ 13-18 ปีและการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาสูงและโรงเรียนอาชีวศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษารวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพของเยาวชนไทยสำรวจแบบสอบถาม เป็นข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละค่าร้อยละความถี่ค่าเฉลี่ยและความสัมพันธ์กับนักวิเคราะห์การทดสอบไคสแควร์และฟิชเชอร์ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าวัยรุ่นหญิงรายงานดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 35.75% (n = 158) และ 21.95% (n = 97) ในชายมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่เป็นเพียงในชาย (n = 14 3.17%) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของวัยรุ่นดื่มในจังหวัดนครราชสีมาคือ 1) รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูที่แตกต่างกันได้รับผลกระทบดื่ม (x2 = 14.896, p <0.01 ความแตกต่างทางเพศที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการดื่ม (x2 = 0.45, p> 0.05) 3) ความแตกต่างใน ได้รับการยอมรับในกลุ่มเพื่อนไม่ได้รับผลกระทบพฤติกรรมการดื่ม (x2 = 0.72, p-value = 7.88) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ได้รับ 1) ความแตกต่างทางเพศที่มีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (x2 = 23.133, p-value = 0.001) 2) การอบรมเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไม่ได้มีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (x2 = 386, p> 0.05) 3) ได้รับการยอมรับใน กลุ่มที่แตกต่างกันมีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (x2 = 438, p-value = 0.508)
มันได้รับการแนะนำว่าพยาบาลควรมีการศึกษาในเชิงลึกให้สัมภาษณ์ในเชิงลึกใน behavior.Parent ดื่มหญิงที่ปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรให้ความสำคัญในการส่งเสริมรูปแบบการอบรมเลี้ยงดูที่ พอดีกับพฤติกรรมเพื่อลดการดื่มวัยรุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการดื่มและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นในนครราชสีมา จำนวน 442 คน อายุ 13-18 ปี และศึกษาอยู่ในระดับ สูง และระดับโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสำรวจ เยาวชนไทย พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าความถี่มัธยฐาน และทดสอบความสัมพันธ์กับนักวิเคราะห์ ไคสแควร์และฟิชเชอร์ ผลการศึกษาพบว่า วัยรุ่นหญิงมีการดื่มแอลกอฮอล์ 35.75 % ( n = 158 ) และ 21.95 % ( n = 40 ) ในเพศชายมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในชาย ( N = 14 , 3.17 % ) ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดื่มของวัยรุ่นในจังหวัดนครราชสีมา คือ 1 ) รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูที่แตกต่างกันมีผลต่อการดื่ม ( X2 = 14.896 , P < .01 ความแตกต่างทางเพศ ไม่มีผลต่อพฤติกรรมการดื่ม ( X2 = 45 , p > . 05 ) 3 ) ความแตกต่างในการยอมรับในกลุ่มเพื่อนมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดื่มไม่ได้ ( X2 = . 72 , p-value = 7.88 ) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ คือ 1 ) ความแตกต่างทางเพศต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ( X2 = 23.133 , p-value = . 001 ) 2 ) การอบรมเลี้ยงดูแตกต่างกันไม่มีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ( X2 = 386 , p >05 3 ) การยอมรับในกลุ่มที่แตกต่างกันมีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ( X2 = 438 , p-value = . 69 )
มีข้อเสนอแนะว่า พยาบาลควรศึกษาในเชิงลึกในการสัมภาษณ์เชิงลึกในพฤติกรรมการดื่มหญิงแม่ ปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรมุ่งเน้นการส่งเสริมรูปแบบการอบรมเลี้ยงดูที่เหมาะสมกับพฤติกรรมในการลดการดื่มของวัยรุ่น