4. ConclusionsExperimental results

4. Conclusions
Experimental results show that solubility of palm fatty acid distillate
in the gaseous phase increases with density. The Ki values of
palm fatty acid distillate compounds increase in the following order
KSqualene > KC16 > KC18.1 > KC18.2 due to the different solubility’s ofthe
pure components in supercritical carbon dioxide indicating that
palmitic acid and squalene are enriched in the extract while oleic
and linoleic acids are enriched in the raffinate. For all the isobars,
the selectivity increases as the temperature increases.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. บทสรุปผลการทดลองแสดงว่าละลายกลั่นกรดไขมันปาล์มในระยะเป็นต้นเพิ่มขึ้นกับความหนาแน่น ค่า Kiปาล์มกรดไขมันกลั่นสารเพิ่มในลำดับต่อไปนี้KSqualene > KC16 > KC18.1 > KC18.2 เนื่องจากแตกละลายของของการส่วนประกอบที่บริสุทธิ์ใน supercritical คาร์บอนไดออกไซด์เพื่อระบุว่ากรด palmitic และ squalene อุดมไปในการดึงข้อมูลในขณะที่โอเลอิคและกรด linoleic จะอุดมไปใน raffinate สำหรับ isobars การทั้งหมดวิธีการเพิ่มเป็นเพิ่มอุณหภูมิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. สรุปผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการละลายของกลั่นกรดไขมันปาล์มในขั้นตอนการเพิ่มขึ้นของก๊าซที่มีความหนาแน่น ค่า Ki ของสารกลั่นกรดไขมันปาล์มเพิ่มขึ้นในลำดับต่อไปนี้KSqualene> KC16> KC18.1> KC18.2 เนื่องจากความสามารถในการละลายที่แตกต่างกันของ ofthe ส่วนประกอบบริสุทธิ์ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ supercritical แสดงให้เห็นว่ากรดปาล์มิติและsqualene จะอุดมไปด้วยสารสกัดในขณะที่โอเลอิกกรดไลโนเลอิกและอุดมใน raffinate สำหรับ isobars ทั้งหมดเลือกที่เพิ่มขึ้นในขณะที่การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . สรุป
ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าความสามารถในการละลายของกรดไขมันปาล์มกลั่น
ในก๊าซระยะเพิ่มขึ้น ความหนาแน่น คิค่า
กรดไขมันปาล์มกลั่นสารเพิ่มต่อไปนี้เพื่อ
ksqualene > > > kc16 kc18.1 kc18.2 เนื่องจากความแตกต่างของค่าของส่วนประกอบใน supercritical คาร์บอนไดออกไซด์เพียว

ที่บ่งชี้ว่ากรดปาล์มิติกและกรด Squalene มีอุดมสมบูรณ์ในการแยกในขณะที่โอเลอิก และกรด linoleic
อุดมสมบูรณ์ในแรฟฟิเนท . สำหรับไอโซบาร์ทั้งหมด
เลือกสรรเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น