Ruby-FFI has the salient advantage

Ruby-FFI has the salient advantage that the developer only
needs to know two languages: C and Ruby, and not a third
intermediate system (e.g., the set of Ruby-C functions/macros
which bridge the two languages). It also means that a developer
familiar with a library’s compiled language API (e.g., the
typical ordering and usage of function calls) can quickly start
using the same functions in Ruby.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทับทิม FFI ได้เด่น advantage ที่นักพัฒนาเท่านั้นต้องรู้ภาษาที่สอง: C และทับทิม และไม่สามระบบกลาง (เช่น ชุดทับทิม-C ฟังก์ชัน/แมโครซึ่งสะพานสองภาษา) มันยังหมายถึง การที่นักพัฒนาคุ้นเคยกับไลบรารีของคอมไพล์ภาษา API (เช่น การสั่งซื้อทั่วไปและการใช้งานของการเรียกฟังก์ชัน) สามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วใช้ฟังก์ชันเดียวกันกับในรู

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทับทิม FFI มีข้อได้เปรียบสำคัญที่นักพัฒนาเท่านั้นที่
จำเป็นต้องรู้ภาษาที่สอง: C และทับทิมและไม่หนึ่งในสาม
ระบบกลาง (เช่นชุดของฟังก์ชั่นทับทิม-C / แมโคร
ที่สะพานสองภาษา) ก็หมายความว่านักพัฒนา
คุ้นเคยกับภาษาของห้องสมุดรวบรวม API (เช่น
การสั่งซื้อและการใช้งานโดยทั่วไปของการเรียกฟังก์ชั่น) ได้อย่างรวดเร็วสามารถเริ่มต้นการ
ใช้ฟังก์ชั่นเดียวกันในทับทิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทับทิมธุรกิจได้ประโยชน์ที่สำคัญนักพัฒนาเท่านั้น
ต้องรู้สองภาษา : C และทับทิม และไม่ใช่ 3
กลางระบบ ( เช่นชุดของฟังก์ชัน ruby-c แม
ที่สะพานสองภาษา ) ก็หมายความว่า นักพัฒนา
คุ้นเคยกับห้องสมุดที่รวบรวมภาษา API ( เช่น การสั่งซื้อ และการใช้ฟังก์ชันทั่วไป

โทร ) สามารถเริ่มใช้ฟังก์ชันเดียวกันในทับทิม