Whole-grain foods are considered to

Whole-grain foods are considered to be a key component of
a healthy diet. According to the dietary guidelines for
Americans,[1] the United States Department of Agriculture
recommends that at least half of total grain intake should be
whole grains. These guidelines are based on an increasing
number of epidemiological studies supporting the suggestion
that whole-grain consumption can reduce the risk of several
chronic diseases, such as coronary heart disease,[2] cardiovascular
disease,[3] type 2 diabetes,[4,5] and cancer,[6] as well as help
with weight maintenance. However, less than 5% of Americans
consume the minimum recommended amount of whole grains.
Increasing the intake of whole grains for consumers has been a
challenge. Compared to refined grain formulated products,
factors that limit consumption of whole grain products include
a lack of awareness of the health benefits, generally higher
prices, and perceived inferior flavour.[7] From the flavour quality
aspect, whole-grain products are commonly associated with
bitter, grainy and other negative sensory attributes. A study on
consumer liking of refined and whole-wheat bread showed that
consumers prefer refined grain bread over whole-grain bread
when both were made using equivalent ingredients and
procedures,[8] indicating that flour composition (refined versus
whole grain) does have a significant impact on the acceptability
of wheat bread. However, limited knowledge of the related offflavour
compounds, such as those that contribute to
bitterness,[9] and related pathways has been reported, making
it challenging to pinpoint the molecular basis and mechanistic
details for the inferior palatability of whole-grain foods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาหารเม็ดทั้งหมดจะถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ ตามคำแนะนำอาหารสำหรับชาวอเมริกัน, [1] ในสหรัฐอเมริกากรมวิชาการเกษตรแนะนำที่น้อยครึ่งหนึ่งของปริมาณข้าวทั้งหมดควรธัญพืชทั้งหมด แนวทางเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับการเพิ่มจำนวนของการสนับสนุนคำแนะนำการศึกษาความปริมาณการใช้ทั้งเมล็ดที่สามารถลดความเสี่ยงต่าง ๆโรคเรื้อรัง โรค, [2] เช่นหัวใจและหลอดเลือดโรค, [3] พิมพ์ 2 [4,5] เบาหวานและมะเร็ง, [6] และความช่วยเหลือมีน้ำหนักบำรุง อย่างไรก็ตาม น้อยกว่า 5% ของชาวอเมริกันใช้แนะนำยอดเงินต่ำสุดของธัญพืชเพิ่มการบริโภคข้าวสาลีสำหรับผู้บริโภคได้รับการความท้าทาย เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ข้าวบริสุทธิ์สูตรรวมปัจจัยที่จำกัดปริมาณการใช้ของผลิตภัณฑ์ข้าวทั้งหมดโมหะของประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยทั่วไปสูงขึ้นราคา และกลิ่นน้อยรับรู้ [7] จากคุณภาพรสชาติด้าน ผลิตภัณฑ์ข้าวทั้งหมดเกี่ยวข้องโดยทั่วไปกับขม มีเม็ดเล็ก ๆ และคุณลักษณะทางประสาทสัมผัสอื่น ๆ ลบ การศึกษาผู้บริโภคชื่นชอบขนมปังโฮลวีท และกลั่นพบว่าผู้บริโภคต้องการขนมปังเมล็ดกลั่นผ่านทั้งข้าวขนมปังเมื่อทั้งสองทำโดยใช้วัสดุเทียบเท่า และขั้นตอน, [8] เพื่อระบุว่า แป้ง (กลั่นเมื่อเทียบกับองค์ประกอบเมล็ดข้าวทั้งหมด) มีผลกระทบสำคัญที่ acceptabilityของขนมปังโฮลวีต อย่างไรก็ตาม จำกัดความรู้ของ offflavour ที่เกี่ยวข้องcompounds, such as those that contribute tobitterness,[9] and related pathways has been reported, makingit challenging to pinpoint the molecular basis and mechanisticdetails for the inferior palatability of whole-grain foods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาหารธัญพืชไม่ขัดสีจะถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ตามที่แนวทางการบริโภคอาหารสำหรับชาวอเมริกัน [1] สหรัฐอเมริกากรมวิชาการเกษตรแนะนำว่าอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของปริมาณข้าวรวมควรจะเป็นธัญพืช แนวทางเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับการเพิ่มจำนวนของการศึกษาทางระบาดวิทยาที่สนับสนุนข้อเสนอแนะว่าการบริโภคธัญพืชไม่ขัดสีสามารถลดความเสี่ยงของหลายโรคเรื้อรังเช่นโรคหลอดเลือดหัวใจ[2] โรคหัวใจและหลอดเลือดโรค[3] โรคเบาหวานประเภทที่ 2, [4 5] และโรคมะเร็ง [6] รวมทั้งช่วยให้มีการบำรุงรักษาน้ำหนัก แต่น้อยกว่า 5% ของชาวอเมริกันที่ใช้ขั้นต่ำจำนวนเงินที่แนะนำของธัญพืช. เพิ่มปริมาณของธัญพืชสำหรับผู้บริโภคที่ได้รับความท้าทาย เมื่อเทียบกับธัญพืชกลั่นสูตรปัจจัยที่ จำกัด การบริโภคผลิตภัณฑ์จากธัญพืชรวมถึงการขาดความตระหนักถึงประโยชน์ต่อสุขภาพสูงขึ้นโดยทั่วไปราคาและการรับรู้รสชาติด้อยกว่า. [7] จากที่มีคุณภาพรสชาติด้านผลิตภัณฑ์ธัญพืชไม่ขัดสีมีความเกี่ยวข้องกันทั่วไปกับขมเม็ดเล็กและคุณลักษณะทางประสาทสัมผัสอื่น ๆ ในเชิงลบ การศึกษาที่ A ชื่นชอบของผู้บริโภคขนมปังกลั่นและข้าวสาลีทั้งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชอบกลั่นขนมปังธัญพืชขนมปังธัญพืชไม่ขัดสีเมื่อทั้งสองได้ทำโดยใช้วัตถุดิบที่เทียบเท่าและขั้นตอน[8] แสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบของแป้ง (กลั่นเมื่อเทียบกับธัญพืช) จะมี ผลกระทบต่อการยอมรับของขนมปังข้าวสาลี แต่ความรู้ จำกัด ของ offflavour เกี่ยวข้องสารประกอบเช่นผู้ที่นำไปสู่ความขมขื่น[9] และทางเดินที่เกี่ยวข้องได้รับการรายงานทำให้มันมีความท้าทายที่จะระบุพื้นฐานกลไกระดับโมเลกุลและรายละเอียดสำหรับความอร่อยที่ด้อยกว่าของอาหารธัญพืชไม่ขัดสี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทั้งอาหารเม็ดถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของ
อาหารสุขภาพ ตามแนวทางอาหารเพื่อ
อเมริกัน [ 1 ] สหรัฐอเมริกากรมวิชาการเกษตร
แนะนำว่าอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของปริมาณข้าวทั้งหมดควรจะ
ธัญพืชทั้งหมด แนวทางเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับการเพิ่มจำนวนของการศึกษาระบาดวิทยา

สนับสนุนข้อเสนอแนะที่ใช้ทั้งเมล็ด สามารถลดความเสี่ยงของหลาย
โรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด
, [ 2 ] , [ 3 ] เบาหวานชนิดที่ 2 [ 4 , 5 ] และมะเร็ง , [ 6 ] ตลอดจนช่วย
กับการบำรุงรักษาน้ำหนัก แต่น้อยกว่า 5% ของคนอเมริกันบริโภคปริมาณขั้นต่ำที่แนะนำ

ทั้งธัญพืช เพิ่มการบริโภคธัญพืชสำหรับผู้บริโภคได้รับ
ท้าทายเมื่อเทียบกับเมล็ดบริสุทธิ์สูตรผลิตภัณฑ์
ปัจจัยที่จำกัดการบริโภคผลิตภัณฑ์ข้าวทั้งหมด รวมถึงการขาดความตระหนักของประโยชน์ต่อสุขภาพโดยทั่วไปสูงกว่า
ราคา และการรับรู้ที่ด้อยกว่ากลิ่น [ 7 ] จากรสชาติคุณภาพ
ด้านผลิตภัณฑ์ทั้งเมล็ด โดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับ
ขม เม็ดเล็ก ๆและคุณลักษณะทางประสาทสัมผัสอื่น ๆลบ การศึกษา
ความชอบของผู้บริโภค และปรับปรุงทั้งขนมปังโฮลวีท พบว่า ผู้บริโภคชอบการกลั่นข้าวขนมปังมากกว่า

ขนมปังธัญพืชทั้งหมด เมื่อทั้งคู่ได้ใช้วัสดุที่เทียบเท่าและ
ขั้นตอน [ 8 ] แสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบของแป้ง ( กลั่นกับ
ทั้งเมล็ด ) จะมีผลกระทบต่อการยอมรับ
ขนมปังข้าวสาลี อย่างไรก็ตาม ความรู้ จำกัด ของสารประกอบที่เกี่ยวข้อง offflavour
,เช่น ผู้ที่สนับสนุน
ขม [ 9 ] และที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางที่ได้รับรายงาน ทำให้
มันท้าทายระบุโมเลกุลพื้นฐานและรายละเอียดกลไก
สำหรับความอร่อยที่ด้อยกว่าของอาหารทั้งเมล็ด