The tomato is the edible, often red

The tomato is the edible, often red fruit/berry of the nightshade Solanum lycopersicum,[1][2] commonly known as a tomato plant. The species originated in the South American Andes[2] and its use as a food originated in Mexico, and spread throughout the world following the Spanish colonization of the Americas. Its many varieties are now widely grown, sometimes in greenhouses in cooler climates.

The tomato is consumed in diverse ways, including raw, as an ingredient in many dishes, sauces, salads, and drinks. While it is botanically a fruit, it is considered a vegetable for culinary purposes (as well as under U.S. customs regulations, see Nix v. Hedden), which has caused some confusion. The fruit is rich in lycopene, which may have beneficial health effects.

The tomato belongs to the nightshade family, Solanaceae.[1][3] The plants typically grow to 1–3 meters (3–10 ft) in height and have a weak stem that often sprawls over the ground and vines over other plants. It is a perennial in its native habitat, although often grown outdoors in temperate climates as an annual. An average common tomato weighs approximately 100 grams (4 oz).[4][5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มะเขือเทศเป็นมักจะแดง กินผลไม้/ผลไม้ของ nightshade Solanum lycopersicum, [1] [2] โดยทั่วไปเป็นพืชมะเขือเทศ สายพันธุ์ที่มาในอังเดสอเมริกาใต้ [2] และใช้เป็นอาหารต้นกำเนิดในประเทศเม็กซิโก และแพร่ระบาดไปทั่วโลกต่ออาณานิคมสเปนของทวีปอเมริกา หลายสายพันธุ์ที่มีตอนนี้ปลูกมาก บางครั้งในโรงเรือนในสภาพอากาศเย็น

มะเขือเทศใช้วิธีหลากหลาย รวม วัตถุดิบผสมในอาหาร ซอส สลัด และเครื่องดื่ม ขณะนั้น botanically ผลไม้ มันถือผักสำหรับทำอาหาร (ตลอดจนภายใต้ข้อบังคับศุลกากรของสหรัฐอเมริกา ดู Nix v. Hedden), ซึ่งเกิดความสับสนบางอย่าง เป็นผลไม้อุดมไปด้วย lycopene ซึ่งอาจมีผลประโยชน์ต่อสุขภาพ

มะเขือเทศเป็นสมาชิกครอบครัว nightshade, Solanaceae[1][3] พืชเติบโต 1-3 เมตร (3-10 ฟุต) สูง และมีก้านอ่อนที่มักจะ sprawls พื้นดิน และนำมากกว่าพืชอื่นๆ โดยทั่วไป ได้ยืนต้นในอยู่อาศัยดั้งเดิม แต่มักจะปลูกกลางแจ้งในสภาพอากาศที่แจ่มเป็นประจำการ มีมะเขือเทศทั่วไปโดยเฉลี่ยน้ำหนัก ประมาณ 100 กรัม (4 ออนซ์)[4][5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเขือเทศเป็นกินผลไม้มักจะสีแดง / เบอร์รี่ของ lycopersicum แม่มดมะเขือ [1] [2] เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นมะเขือเทศ สายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ [2] แอนดีสและการใช้เป็นอาหารที่เกิดขึ้นในเม็กซิโกและแพร่กระจายไปทั่วโลกดังต่อไปนี้อาณานิคมของสเปนในทวีปอเมริกา ตอนนี้หลายพันธุ์ที่มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในบางครั้งในเรือนกระจกในสภาพอากาศเย็นมะเขือเทศมีการบริโภคในรูปแบบที่หลากหลายรวมทั้งดิบเป็นส่วนผสมในหลายจาน, ซอส, สลัดและเครื่องดื่ม ขณะที่มันเป็นทางพฤกษศาสตร์ผลไม้ก็ถือว่าผักเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำอาหาร (เช่นเดียวกับภายใต้กฎระเบียบศุลกากรเห็นห้าม v. Hedden) ซึ่งได้ก่อให้เกิดความสับสน ผลไม้ที่อุดมไปด้วยไลโคปีนซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพที่เป็นประโยชน์มะเขือเทศเป็นของครอบครัวแม่มด, Solanaceae. [1] [3] พืชมักจะเติบโตได้ถึง 1-3 เมตร (3-10 ฟุต) สูงและมี ลำต้นอ่อนที่มักจะแหมะอยู่เหนือพื้นดินและเถาวัลย์กว่าพืชอื่น ๆ เป็นไม้ยืนต้นในที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองแม้ว่ามักจะปลูกกลางแจ้งในสภาพอากาศหนาวเป็นประจำทุกปี มะเขือเทศทั่วไปเฉลี่ยน้ำหนักประมาณ 100 กรัม (4 ออนซ์.) [4] [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มะเขือเทศเป็นพืชมักจะแดง ผลไม้ / เบอร์รี่ของมะแว้งโซลานัม lycopersicum , [ 1 ] [ 2 ] หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า มะเขือเทศพืช สายพันธุ์มาจากอเมริกาใต้อาร์เจนตินา [ 2 ] และใช้เป็นอาหาร ต้นกำเนิดในเม็กซิโก และแพร่กระจายไปทั่วโลก ต่อไปนี้อาณานิคมสเปนของอเมริกา หลายพันธุ์ของมันตอนนี้นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย บางครั้งในเรือนกระจกในสภาพอากาศเย็น

มะเขือเทศที่ใช้ในหลากหลายวิธีรวมถึงดิบเป็นส่วนผสมในอาหารหลาย ซอส สลัด และเครื่องดื่ม ในขณะที่มัน botanically ผลไม้ เพราะถือว่าเป็นผักเพื่ออาหาร ( รวมทั้งภายใต้กฎระเบียบศุลกากรสหรัฐเห็นนิกซ์ V hedden ) ซึ่งได้ก่อให้เกิดความสับสน ผลไม้ที่อุดมด้วยไลโคปีน ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อสุขภาพที่เป็นประโยชน์

มะเขือเทศเป็นของ Nightshade ตระกูล Solanaceae [ 1 ] [ 2 ] พืชมักจะเติบโต 1 – 3 เมตร ( 3 – 10 ฟุต ) สูง และมีลำต้นที่อ่อนแอมักจะแหมะอยู่ที่พื้น และค้างมากกว่าพืชอื่น ๆ เป็นไม้ยืนต้นในที่อยู่อาศัยของพื้นเมือง แม้ว่ามักจะปลูกกลางแจ้งในสภาพอากาศที่หนาวเป็นรายปี เป็นมะเขือเทศทั่วไป โดยเฉลี่ยน้ำหนักประมาณ 100 กรัม ( 4 ออนซ์ ) . [ 4 ] [ 5 ]