Icelandic landscape (stock image).

Icelandic landscape (stock image). The theoretical equation reveals the complex relationship between carbon dioxide levels and the ocean system. Burning fossil fuels increases atmospheric carbon dioxide levels leading to global warming and the greenhouse effect, which is partly offset by the oceans taking in both heat and carbon, researchers say.
Credit: © ssspablo / Fotolia
Research has identified, for the first time, how global warming is related to the amount of carbon emitted.

A team of researchers from the universities of Southampton, Bristol and Liverpool have derived the first theoretical equation to demonstrate that global warming is a direct result of the build-up of carbon emissions since the late 1800s when human-made carbon emissions began. The results are in accord with previous data from climate models.

The theoretical equation reveals the complex relationship between carbon dioxide levels and the ocean system. Burning fossil fuels increases atmospheric carbon dioxide levels leading to global warming and the greenhouse effect, which is partly offset by the oceans taking in both heat and carbon.

The results show every million-million tonnes of carbon emitted will generate one degree Celsius of global warming. They also show that the build-up of carbon emitted over the last 200 years will then last for many centuries to millennia, even if carbon emissions are subsequently phased out.

The results also reveal that surface warming is related to the total amount of carbon emitted from fossil fuels, with little change over time as ocean carbon and changes in heat uptake almost cancel each other out.

Dr Phil Goodwin, from Ocean and Earth Science at the University of Southampton, said: "Our analysis highlights the nearly irreversible nature of carbon emissions for global warming. Once carbon has been emitted into the atmosphere the warming effect will last many centuries, even after much of the carbon has been absorbed by the ocean."

"We cannot wait until after significant anthropogenic warming has occurred to reduce carbon emissions and hope the climate goes back to normal by itself, it won't."

Professor Ric Williams, Chair in Ocean Sciences at the University of Liverpool's School of Environmental Sciences, added: "Given the complexity of the climate system, it was a surprise to find out how simple the relationship is between global warming and how much carbon we emit.

"The ocean turns out to be crucial by taking up both heat and carbon, which lead to nearly compensating effects in how surface warming depends on carbon emissions.

"These findings potentially address the most important finding from the Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) report last year, which is how global warming increases with how much carbon we emit.

"In terms of wider policy implications, our theory reiterates a simple message: the more cumulative carbon emissions are allowed to increase, the more global surface warming will also increase.

"This policy implication reinforces the need to develop carbon capture techniques to limit the warming for the next generations."

The research is published in Nature Geoscience.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไอซ์แลนด์แนวนอน (ภาพหุ้น) สมการของทฤษฎีเปิดเผยความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่างระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และระบบโอเชี่ยน นักวิจัยบอกว่า การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มระดับอากาศคาร์บอนไดออกไซด์นำไปสู่ภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งเป็นบัญชีตรงข้ามมหาสมุทรในความร้อนและคาร์บอนเครดิต: © ssspablo / Fotoliaงานวิจัยได้ระบุว่า ครั้งแรก วิธีภาวะเกี่ยวข้องกับจำนวนคาร์บอนที่ปล่อยออกทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน บริสทอล และลิเวอร์พูลได้มาทฤษฎีสมการแรกแสดงว่า ภาวะเป็นผลลัพธ์โดยตรงของการเกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตั้งแต่เพราะสายที่เมื่อเริ่มทำมนุษย์ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลลัพธ์อยู่ในสอดคล้องกับข้อมูลก่อนหน้านี้จากแบบจำลองสภาพภูมิอากาศสมการของทฤษฎีเปิดเผยความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่างระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และระบบโอเชี่ยน การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มระดับอากาศคาร์บอนไดออกไซด์นำไปสู่ภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก ซึ่งเป็นบางส่วนบัญชีตรงข้ามมหาสมุทรในความร้อนและคาร์บอนผลลัพธ์แสดงทุกล้าน - ล้านตันของคาร์บอนที่ออกมาจะสร้างหนึ่งองศาเซลเซียสของภาวะโลกร้อน ยังแสดงว่า เกิดคาร์บอนออกมา 200 ปีจะล่าสุดแล้วหลายศตวรรษกับวรรษ แม้ว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะมายุติผลลัพธ์แสดงว่า ร้อนผิวเกี่ยวข้องกับจำนวนคาร์บอนที่ปล่อยออกจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเวลาเป็นคาร์บอนมหาสมุทร และการเปลี่ยนแปลงในการดูดซับความร้อนเกือบยกเลิกกันดร. Phil Goodwin จากทะเลและโลกวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน กล่าวว่า: "วิเคราะห์ของเราเน้นธรรมชาติให้เกือบของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับภาวะโลกร้อน เมื่อคาร์บอนได้ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ โลกร้อนผลกระทบจะล่าสุดหลายศตวรรษ แม้หลังจากที่ของคาร์บอนได้ถูกดูดซึม โดยทะเล""เราไม่สามารถรอจนกว่าหลังจากร้อนมาของมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญเกิดขึ้นเพื่อ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและหวังว่าสภาพภูมิอากาศจะกลับเป็นปกติ ด้วยตัวเอง ไม่"ศาสตราจารย์วิลเลียมส์ Ric เก้าอี้ในมหาสมุทรศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยพูโรงเรียนของสิ่งแวดล้อมวิทยาศาสตร์ เพิ่ม: "รับความซับซ้อนของระบบภูมิอากาศ ได้ประหลาดใจเพื่อค้นหาว่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างโลกร้อนขึ้นและจำนวนคาร์บอนที่เราปล่อย"ทะเลปรากฎว่าเป็นสำคัญ โดยการนำความร้อนและคาร์บอน ที่นำไปชดเชยผลในวิธีผิวร้อนเกือบขึ้นอยู่กับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก"ผลการวิจัยเหล่านี้อาจอยู่ที่สำคัญที่สุดที่ค้นหาจากรายงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ว่าด้วยปี ที่ว่าโลกร้อนขึ้นกับจำนวนคาร์บอนเรากิ๊ก"ในแง่ของผลกระทบของนโยบายกว้าง ทฤษฎีของเรา reiterates ข้อความง่าย: ปล่อยคาร์บอนมากขึ้นสะสมสามารถเพิ่ม มีพื้นผิวภาวะโลกร้อนจะยังเพิ่มขึ้น"ปริยายนี้นโยบาย reinforces ต้องพัฒนาเทคนิคจับคาร์บอนจำกัดร้อนสำหรับคนรุ่นต่อไป"การวิจัยมีการเผยแพร่ในธรรมชาติ Geoscience

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิทัศน์ที่ไอซ์แลนด์ (ภาพที่หุ้น) สมการทางทฤษฎีเผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และระบบมหาสมุทร การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจกซึ่งเป็นชดเชยบางส่วนจากมหาสมุทรที่เกิดทั้งความร้อนและคาร์บอนนักวิจัยกล่าวว่า.
เครดิต: © ssspablo / Fotolia
วิจัยได้ระบุเป็นครั้งแรกว่า ภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปริมาณของคาร์บอนที่ปล่อยออกมา. ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยของเซาแธมป์ตัน, บริสตอและลิเวอร์พูลได้มาสมทฤษฎีแรกที่จะแสดงให้เห็นว่าภาวะโลกร้อนเป็นผลโดยตรงจากการสร้างขึ้นของการปล่อยก๊าซคาร์บอนตั้งแต่ปลาย ปี 1800 เมื่อมนุษย์ทำเริ่มการปล่อยก๊าซคาร์บอน ผลลัพธ์ที่ได้จะสอดคล้องกับข้อมูลก่อนหน้านี้จากแบบจำลองภูมิอากาศ. สมทฤษฎีเผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และระบบมหาสมุทร การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจกซึ่งเป็นชดเชยบางส่วนจากมหาสมุทรที่เกิดทั้งความร้อนและคาร์บอน. ผลที่ได้แสดงทุกล้านล้านตันคาร์บอนที่ปล่อยออกมาจะสร้างองศาเซลเซียสหนึ่งของภาวะโลกร้อน . พวกเขายังแสดงให้เห็นว่าการสร้างขึ้นของคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาในช่วง 200 ปีที่แล้วจะมีอายุหลายศตวรรษเพื่อพันปีแม้ว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนจะค่อย ๆ ภายหลังออก. ผลที่ได้นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงภาวะโลกร้อนพื้นผิวที่เกี่ยวข้องกับจำนวนของคาร์บอนที่ปล่อยออกมา . จากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงเวลาที่ทะเลคาร์บอนและการเปลี่ยนแปลงในการดูดซึมความร้อนเกือบยกเลิกแต่ละออกอื่น ๆดรฟิลกูดวินจากมหาสมุทรและโลกวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซาแทมป์กล่าวว่า "การวิเคราะห์ของเราเน้นธรรมชาติกลับไม่ได้เกือบคาร์บอน ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับภาวะโลกร้อน. เมื่อคาร์บอนได้รับการปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศผลกระทบภาวะโลกร้อนจะมีอายุหลายศตวรรษแม้หลังจากที่มากของคาร์บอนที่ได้รับการดูดซึมที่ริมทะเล. "" เราไม่สามารถรอจนกว่าจะได้อย่างมีนัยสำคัญร้อนของมนุษย์ที่เกิดขึ้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และหวังว่าสภาพภูมิอากาศจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยตัวเองก็จะไม่ ". ศาสตราจารย์เฟรเดอวิลเลียมส์ประธานในวิทยาศาสตร์มหาสมุทรที่มหาวิทยาลัยโรงเรียนของลิเวอร์พูลวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเพิ่ม:" ให้ความซับซ้อนของระบบภูมิอากาศมันเป็นความประหลาดใจ เพื่อหาวิธีการที่เรียบง่ายคือความสัมพันธ์ระหว่างภาวะโลกร้อนและวิธีการมากคาร์บอนที่เราปล่อยออกมา. "มหาสมุทรจะออกมาเป็นสิ่งสำคัญโดยการใช้ทั้งความร้อนและคาร์บอนที่นำไปสู่ผลกระทบเกือบชดเชยในวิธีการที่ภาวะโลกร้อนพื้นผิวขึ้นอยู่กับการปล่อยก๊าซคาร์บอน." การค้นพบนี้อาจอยู่ที่การค้นพบที่สำคัญที่สุดจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) รายงานเมื่อปีที่แล้วซึ่งเป็นวิธีการเพิ่มขึ้นของภาวะโลกร้อนที่มีเท่าใดคาร์บอนที่เราปล่อยออกมา. "ในแง่ของผลกระทบนโยบายกว้างทฤษฎีของเราย้ำข้อความง่ายๆ มากกว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่สะสมที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นร้อนพื้นผิวทั่วโลกมากขึ้นนอกจากนี้ยังจะเพิ่มขึ้น. "หมายนโยบายนี้ตอกย้ำความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเทคนิคคาร์บอนที่จะ จำกัด ภาวะโลกร้อนสำหรับคนรุ่นต่อไป." งานวิจัยที่มีการเผยแพร่ในวารสาร Nature Geoscience

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภูมิทัศน์ไอซ์แลนด์ ( Stock Image ) สมการทางทฤษฎีแสดงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และระบบมหาสมุทร การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มบรรยากาศระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก ซึ่งถูกชดเชยด้วยมหาสมุทรสละทั้งความร้อนและคาร์บอน , นักวิจัยกล่าวว่า .
เครดิต : สงวนลิขสิทธิ์ ssspablo / fotolia
การวิจัยมีการระบุเป็นครั้งแรกว่า ภาวะโลกร้อนจะเกี่ยวข้องกับปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมา

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาท์แธมป์ตัน บริสตอลและลิเวอร์พูลได้รับสมการทางทฤษฎีแรกเพื่อแสดงให้เห็นว่า ภาวะโลกร้อนเป็นผลโดยตรงของการสะสมของก๊าซคาร์บอนตั้งแต่ปลาย 1800 เมื่อมนุษย์ได้การปล่อยก๊าซคาร์บอนได้เริ่มขึ้นผลการวิจัยดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลก่อนหน้านี้จากแบบจำลองภูมิอากาศ

สมการทางทฤษฎีพบความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างระดับคาร์บอนไดออกไซด์และระบบมหาสมุทร การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มบรรยากาศระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก ซึ่งถูกชดเชยด้วยมหาสมุทรถ่าย

ทั้งความร้อนและคาร์บอนแสดงผลทุกล้านล้านตันของคาร์บอนที่ปล่อยออกมาจะสร้างองศาเซลเซียสหนึ่งของภาวะโลกร้อน พวกเขายังแสดงให้เห็นว่า การสะสมของคาร์บอนที่ปล่อยออกมาในช่วง 200 ปีก็นานหลายศตวรรษ millennia แม้ว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอน ต่อมาแบ่งออก

ผลการวิจัยยังพบว่า พื้นผิวร้อนเกี่ยวข้องกับปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงเวลาที่มหาสมุทรคาร์บอนและการเปลี่ยนแปลงในการดูดซึมความร้อนเกือบยกเลิกกัน

ดร. ฟิลกู้ดวิน จากมหาสมุทรและวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซาท์แธมป์ตัน กล่าวว่า " การวิเคราะห์ของเรา เน้นธรรมชาติ เกือบกลับไม่ได้ของคาร์บอนสำหรับภาวะโลกร้อนเมื่อมีการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศผลร้อนจะผ่านมาหลายศตวรรษ แม้หลังจากที่มากของคาร์บอนได้ถูกดูดซึมโดยมหาสมุทร "

" เราไม่สามารถรอจนกว่าหลังจากโลกร้อนมนุษย์สำคัญได้เกิดขึ้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และหวังว่า บรรยากาศก็กลับมาเป็นปกติเอง ไม่ทำหรอก "

ศาสตราจารย์ริค วิลเลียมส์เก้าอี้ในมหาสมุทรศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล โรงเรียนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม , เพิ่ม : " เนื่องจากความซับซ้อนของระบบภูมิอากาศ มันเป็นความประหลาดใจเพื่อดูวิธีการที่ง่าย ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะโลกร้อนและเราปล่อยคาร์บอนมากแค่ไหน

" มหาสมุทรกลายเป็นสำคัญโดยสละทั้งความร้อนและ คาร์บอนซึ่งนำไปสู่การชดเชยผลกระทบในวิธีที่ร้อนเกือบพื้นผิวขึ้นอยู่กับการปล่อยก๊าซคาร์บอน

" การค้นพบเหล่านี้อาจอยู่ในที่สำคัญที่สุดจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( IPCC ) รายงานเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้โลกร้อนเพิ่มขึ้น เราปล่อยคาร์บอนมากแค่ไหน

" ในแง่ของนโยบายที่กว้างขึ้น , ทฤษฎี เราย้ำข้อความง่าย :สะสมมากกว่าการปล่อยคาร์บอนที่ได้รับอนุญาตเพื่อเพิ่มความอบอุ่นที่ผิวโลกมากขึ้นก็จะเพิ่ม

" นโยบายโดยปริยาย ย้ำต้องพัฒนาคาร์บอนจับเทคนิคจำกัดอุ่นรุ่นถัดไป . "

การวิจัยถูกตีพิมพ์ในธรณีวิทยาธรรมชาติ