3. Self-efficacy of first aidParticip

3. Self-efficacy of first aid
Participants were asked about their confidence in dealing with unintentional injuries at home. The mean score for self-efficacy of first aid was 30.3 (SD = 9.2), with a range of 6–48 (Table 1). The mean percentage of participants who were very sure (100% cer- tainty) about their self-efficacy for first aid was 26.6%. The highest self-efficacy for first aid was found for the following item 1, “I know how to call 119 for help when facing an accident” (76.4%). The items for which the participants had the least confidence in their ability to perform first aid were item 5, “I can perform cardio rescue (CPR) when a child has no heartbeat” (30.8%); item 4, “I can perform arti- ficial respiration when a child is not breathing” (28.1%); item 3, “I can perform first aid (Heimlich method) when a child is choking” (23.4%); and item 10, “I can perform first aid when a young child is drowning” (22.9%).
3.4. Factors in self-efficacy of first aid
Table 2 shows that there was no relationship between self- efficacy for first aid and the level of parental education, age, income, or number of children (p> 0.05). Parents’ gender, sources of first aid information obtained from health personnel, partici- pation in a previous first aid programs, and parent’s knowledge of first aid were associated with parental self-efficacy for first aid (p < 0.05).
When assessing the mediator variable, participants who had participated in a first aid program and whose source of first aid information obtained from health personnel were directly associ- ated with better knowledge of first aid (p< 0.01, R2 = 0.46) (Model 1, not show). Table 3 shows the association of mediator in par- ent’s self-efficacy for first aid. Participants who attended first aid

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . ตัว EF จึง cacy RST จึงช่วยเหลือผู้ถูกถามเรื่องคอน จึง dence ในการจัดการกับการบาดเจ็บทางที่บ้าน คะแนนสำหรับ cacy ช่วยเหลือตนเอง EF จึง RST จึงเป็น 30.3 ( SD = 9.2 ) กับช่วง 6 - 48 ( ตารางที่ 1 ) ค่าเฉลี่ยร้อยละของผู้เรียนซึ่งมั่นใจมาก ( 100% ส - tainty ) เกี่ยวกับตนเองจึง cacy EF สำหรับความช่วยเหลือ RST จึงได้ 26.6 % สูงสุดด้วยตนเองจึง cacy EF สำหรับความช่วยเหลือ RST จึงพบดังต่อไปนี้ 1 รายการ " ผมรู้วิธีที่จะโทรเรียก 119 ช่วยเมื่อเผชิญหน้ากับอุบัติเหตุ " ( 76.4% ) รายการที่เข้าร่วม มีนักโทษอย่างน้อยจึง dence ในความสามารถของพวกเขาเพื่อดำเนินการช่วยเหลือ RST จึงเป็นข้อ 5 " ฉันสามารถดำเนินการเกี่ยวกับหัวใจช่วยชีวิต ( CPR ) เมื่อเป็นเด็กไม่มีการเต้นของหัวใจ " ( 4 % ) ; รายการที่ 4 " ผมแสดง Arti - จึง่การหายใจเมื่อลูกไม่หายใจ " ( 28.1 % ) ; รายการที่ 3 " ฉันสามารถช่วยถ่ายทอดวิธีแรก . . . ฉีดยาอะไร ) เมื่อเด็กสำลัก " ( 23.4% ) และรายการที่ 10 " ที่ฉันสามารถดำเนินการช่วยเหลือ RST จึงเมื่อเด็กหนุ่มจมน้ำ " ( ร้อยละ 22.9 )3.4 . ปัจจัยในตนเองจึง cacy EF RST จึงช่วยเหลือตารางที่ 2 แสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างอัต EF จึง cacy สำหรับความช่วยเหลือ RST จึง และระดับการศึกษาของผู้ปกครอง อายุ รายได้ หรือ จำนวนของเด็กอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P > 0.05 ) เพศของผู้ปกครอง แหล่ง จึงตัดสินใจเดินทางไปช่วยเหลือข้อมูลที่ได้รับจากบุคลากร ดังนี้ - หวังในก่อนหน้านี้ จึงตัดสินใจเดินทางไปช่วยเหลือโปรแกรมและความรู้ของผู้ปกครองช่วยเหลือ RST จึงสัมพันธ์กับผู้ปกครองเพื่อช่วยเหลือตนเอง EF cacy จึง RST จึงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 )เมื่อการประเมินคนกลางคือผู้ได้มีส่วนร่วมในโครงการช่วยเหลือจึงตัดสินใจเดินทางไปที่แหล่ง จึงตัดสินใจเดินทางไปช่วยเหลือข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยตรง ( พ่อพันธุ์ - ated กับความรู้ของ RST จึงช่วยเหลือ ( p < 0.01 , R2 = 0.46 ) ( แบบที่ 1 ไม่แสดง ) ตารางที่ 3 แสดงความสัมพันธ์ของคนกลางในพาร์ - ENT ของตนเองจึง cacy EF สำหรับความช่วยเหลือ RST จึง . ผู้เข้าร่วมจึงช่วยน่ะ