The shareholders or owner of the co

The shareholders or owner of the company can only rely
on reports from the company’s management to know the
state of his company. While the manager as the manager
of the company has the duty to find out more information
on the company's internal and prospects for the future,
giving rise to the information gap. This condition is often
referred to as information asymmetry (Jensen and
Meckling, 1976). Because of the asymmetry of
information, the owner of the company cannot know the
actual condition of the company so that the company's
management has the opportunity to perform earnings
management. Basically managers perform earnings
management to enhance shareholder value. This activity
actually may increase the value of the company at a
certain period but also may decrease the value of the
company in the future. Therefore, if the manager does
earnings management, the company's earnings will
improve as well as the performance of the company; if
the company increases the performance of the stock
market prices will increase as well (Ferdawati, 2009).
Based on the above, the third hypothesis formulation is
the effect of earnings management on firm value.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของบริษัทสามารถวางใจเท่านั้นในรายงานจากบริษัทจัดการทราบในสถานะของบริษัทของเขา ขณะที่ผู้จัดการเป็นผู้จัดการของบริษัทมีหน้าที่ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมในบริษัทของภายใน และแนวโน้มในอนาคตให้เพิ่มขึ้นถึงช่องว่างของข้อมูล สภาพเช่นนี้มักจะเป็นเรียกว่าข้อมูล asymmetry (เจน และMeckling, 1976) เพราะ asymmetry ของข้อมูล เจ้าของบริษัทไม่ทราบสภาพจริงของบริษัทเพื่อให้บริษัทจัดการมีโอกาสที่จะทำกำไรการจัดการ โดยทั่วไปผู้จัดการทำกำไรการจัดการเพื่อเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้น กิจกรรมนี้จริง อาจเพิ่มมูลค่าของบริษัทที่เป็นแต่บางรอบระยะเวลานอกจากนี้ยังอาจลดมูลค่าของการบริษัทในอนาคต ดังนั้น ถ้าผู้จัดการไม่ การจัดการกำไร กำไรของบริษัทจะปรับปรุงและประสิทธิภาพของบริษัท หากบริษัทเพิ่มประสิทธิภาพของหุ้นราคาตลาดจะเพิ่มขึ้นด้วย (Ferdawati, 2009)ตามข้างต้น กำหนดสมมติฐานที่สามคือผลของการจัดการกำไรของบริษัทค่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของ บริษัท สามารถพึ่งพา
รายงานจากผู้บริหารของ บริษัท ที่จะรู้ว่า
สถานะของ บริษัท ของเขา ในขณะที่ผู้จัดการเป็นผู้จัดการ
ของ บริษัท มีหน้าที่ในการหาข้อมูลเพิ่มเติม
เกี่ยวกับ บริษัท ของภายในและโอกาสสำหรับอนาคตที่
ก่อให้เกิดช่องว่างข้อมูล เงื่อนไขนี้มักจะถูก
เรียกว่าเป็นความไม่สมดุลข้อมูล (เซ่นและ
Meckling, 1976) เพราะความไม่สมดุลของ
ข้อมูลเจ้าของ บริษัท ไม่สามารถรู้
สภาพความเป็นจริงของ บริษัท เพื่อให้ บริษัท
จัดการมีโอกาสที่จะทำกำไร
การจัดการ ผู้จัดการทั่วไปกำไรดำเนิน
การจัดการเพื่อเพิ่มมูลค่าผู้ถือหุ้น กิจกรรมนี้
จริงอาจเพิ่มมูลค่าของ บริษัท ใน
ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ยังอาจลดมูลค่าของ
บริษัท ในอนาคต ดังนั้นถ้าผู้จัดการไม่
จัดการผลประกอบการกำไรของ บริษัท จะ
ดีขึ้นเช่นเดียวกับผลการดำเนินงานของ บริษัท ; ถ้า
บริษัท เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหุ้นที่
ราคาในตลาดจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน (Ferdawati 2009).
ตามข้างต้น, การกำหนดสมมติฐานที่สามคือ
ผลของการจัดการรายได้กับค่า บริษัท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของของ บริษัท เท่านั้นที่สามารถพึ่งพา
รายงานจากการจัดการของ บริษัท ที่จะรู้
สถานะของ บริษัท ของเขา ในขณะที่ผู้จัดการเป็นผู้จัดการ
ของบริษัทมีหน้าที่หาข้อมูลเพิ่มเติม
บนของบริษัทภายในและลูกค้าในอนาคต
ให้สูงขึ้นเพื่อลดช่องว่างข้อมูล เงื่อนไขนี้มักจะเรียกว่าเป็นข้อมูล

meckling และไม่สมมาตร ( เจนเซ่น ,1976 ) เพราะความไม่สมมาตรของ
ข้อมูลเจ้าของของ บริษัท ไม่สามารถรู้
สภาพที่แท้จริงของ บริษัท ดังนั้นการจัดการของ
บริษัทมีโอกาสที่จะแสดงการจัดการกำไร

โดยทั่วไปผู้จัดการแสดงการจัดการกำไร
เพื่อเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้น กิจกรรมนี้
ที่จริงอาจจะเพิ่มมูลค่าของ บริษัท ที่
บางช่วง แต่ยังอาจลดมูลค่าของ
บริษัทในอนาคต ดังนั้น ถ้าผู้จัดการไม่
การจัดการกำไร กำไรของบริษัทจะ
ปรับปรุงตลอดจนประสิทธิภาพของบริษัท หากบริษัทเพิ่มประสิทธิภาพ

ของหุ้นตลาดราคาก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ( ferdawati , 2009 ) .
ตามข้างต้น การกำหนดสมมติฐานที่ 3
ผลของการจัดการ บริษัท ไรค่า
.