In the wake of the 1969 ethnic riot

In the wake of the 1969 ethnic riots, Malaysia had to embark upon a socioeconomic
restructuring program dubbed the New Economic Policy (NEP). This marked the start of
Malaysia’s pursuit of growth with equity and the policy is to be implemented in the context of
an expanding economy so that no quarters would feel any sense of deprivation. The NEP has
a two-pronged objective, i.e., to eradicate poverty irrespective of race and to eliminate the
identification of race with economic function. It thus generally involves efforts to raise
income levels and expand job opportunities for all Malaysians especially the Malays and
other indigenous communities and to redress imbalances between Malays and non-Malays in
terms of income distribution, employment, and ownership and control of wealth (Leete,
2007). The government was willing to sacrifice some economic growth in favor of equity.
The NEP has indeed delivered growth for Malaysia as it has promoted political stability. This
is somewhat consistent with the theory that inequality is growth-retarding (see Helpman,
2004). Alesina and Rodrik (1994) and Persson and Tabellini (1994) found a negative correlation
between the degree of income inequality and the subsequent growth of per capita
income based upon a cross section of countries. The NEP has succeeded in enhancing
Bumiputera participation in the corporate sector and in raising the number of Bumiputeras
employed in managerial positions. Generally it has contributed to the upward mobility of a
large number of Bumiputeras to middle- and high-income classes. Tangible improvements in
inter-ethnic income distribution have been recorded. The Bumiputera–Chinese income ratio
has improved from1:1.74 in 1990 to 1:1.38 by 2009 while, the Bumiputera–Indian ratio from
1:1.29 to 1:1.10 (Table 3).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการปลุกของจลาจลชาติพันธุ์ 1969 มาเลเซียได้เริ่มดำเนินการเมื่อมีประชากรโปรแกรมการปรับโครงสร้างขนานใหม่ทางเศรษฐกิจนโยบาย (NEP) จุดเริ่มต้นของการทำเครื่องหมายนี้แสวงหาของมาเลเซียเติบโตหุ้นและนโยบายจะดำเนินการในบริบทของเศรษฐกิจขยายตัวดังนั้นไตรมาสไม่ว่าจะรู้สึกความรู้สึกใด ๆ มา NEP มีวัตถุประสงค์ที่สองปรับ เช่น การขจัดความยากจนโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ และ การกำจัดรหัสการแข่งขันด้วยฟังก์ชันทางเศรษฐกิจ ดังนั้นโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับความพยายามที่จะเพิ่มระดับรายได้ และขยายโอกาสงานในมาเลเซียทั้งหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อสายมลายู และชุมชนพื้นเมืองอื่น ๆ และความไม่สมดุลระหว่างเชื้อสายมลายูไม่เชื้อสายมลายูใน redressเงื่อนไขการกระจายรายได้ จ้าง งาน และความเป็นเจ้าของ และควบคุมของทรัพย์สิน (Leete2007) รัฐบาลมีความยินดีที่จะเสียสละบางอย่างเศรษฐกิจสามารถหุ้นNEP แน่นอนได้จัดส่งมาเลเซียเติบโต ตามจะได้ส่งเสริมเสถียรภาพทางการเมือง นี้ค่อนข้างสอดคล้องกับทฤษฎีที่ว่าความไม่เท่าเทียมกันมีการเจริญเติบโต-retarding (ดู Helpman2004) . Alesina และ Rodrik (1994) และ Persson และ Tabellini (1994) พบความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างระดับของความไม่เท่าเทียมกันของรายได้และการเติบโตที่ตามมาของต่อหัวรายได้ตามส่วนข้ามประเทศ NEP ประสบความสำเร็จในการเพิ่มBumiputera การมีส่วนร่วม ในภาคธุรกิจ และเพิ่มจำนวน Bumiputerasจ้างงานในตำแหน่งผู้จัดการ โดยทั่วไปจะมีส่วนการเคลื่อนที่ขึ้นจำนวน Bumiputeras เพื่อรายได้กลาง และสูงสอน การปรับปรุงในรูปธรรมการกระจายรายได้ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ถูกบันทึก อัตราส่วนรายได้ Bumiputera – จีนได้ปรับปรุง from1:1.74 ในปี 1990 การ 1:1.38 โดย 2009 ขณะ Bumiputera – อินเดียอัตราส่วนจาก1:1.29 กับ 1:1.10 (ตาราง 3)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการปลุกของการจลาจลเชื้อชาติ 1969
มาเลเซียมีการเริ่มดำเนินการเมื่อทางเศรษฐกิจและสังคมโครงการปรับโครงสร้างขนานนามว่านโยบายเศรษฐกิจใหม่(NEP) นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการแสวงหาของมาเลเซียของการเจริญเติบโตที่มีส่วนได้เสียและนโยบายที่จะดำเนินการในบริบทของเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพื่อที่สี่จะไม่รู้สึกของการกีดกันใดๆ เอ็นอีพีมีวัตถุประสงค์สองง่ามคือการขจัดความยากจนโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติและเพื่อกำจัดบัตรประจำตัวของการแข่งขันทางเศรษฐกิจกับการทำงาน มันจึงทั่วไปเกี่ยวกับความพยายามที่จะยกระดับรายได้และขยายโอกาสในการทำงานสำหรับชาวมาเลเซียทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวมาเลย์และชุมชนท้องถิ่นอื่นๆ และที่จะแก้ไขความไม่สมดุลระหว่างมาเลเซียและไม่มาเลเซียในแง่ของการกระจายรายได้การจ้างงานและความเป็นเจ้าของและการควบคุมของความมั่งคั่ง(Leete, 2007) รัฐบาลก็ยินดีที่จะเสียสละบางเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในความโปรดปรานของผู้ถือหุ้น. เอ็นอีพีได้ส่งมอบจริงการเจริญเติบโตของประเทศมาเลเซียตามที่ได้รับการส่งเสริมเสถียรภาพทางการเมือง นี้จะค่อนข้างสอดคล้องกับทฤษฎีที่ว่าเป็นความไม่เท่าเทียมกันหน่วงการเจริญเติบโต (ดู Helpman, 2004) Alesina และ Rodrik (1994) และเพอร์สันและ Tabellini (1994) พบว่ามีความสัมพันธ์ทางลบระหว่างระดับของความไม่เท่าเทียมกันของรายได้และการเจริญเติบโตที่ตามมาของต่อหัวรายได้ขึ้นอยู่กับการตัดขวางของประเทศ เอ็นอีพีได้ประสบความสำเร็จในการเสริมสร้างการมีส่วนร่วม Bumiputera ในภาคธุรกิจและในการเพิ่มจำนวน Bumiputeras การจ้างงานในตำแหน่งผู้บริหาร โดยทั่วไปจะมีส่วนร่วมกับการเคลื่อนไหวปรับตัวสูงขึ้นของจำนวนมากของการ Bumiputeras กลางและชั้นเรียนมีรายได้สูง การปรับปรุงที่มีตัวตนในการกระจายรายได้ระหว่างเชื้อชาติได้รับการบันทึก อัตราส่วนรายได้ Bumiputera จีนมีการปรับปรุงfrom1: 1.74 ในปี 1990 เป็น 1: 1.38 ปี 2009 ในขณะที่อัตราส่วน Bumiputera อินเดียจาก1: 1.29-1: 1.10 (ตารางที่ 3)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการปลุกของ 1969 จลาจลเชื้อชาติมาเลเซียต้องเริ่มดำเนินการเมื่อโปรแกรมการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม
ขนานนามนโยบายเศรษฐกิจใหม่ ( เนป ) นี้เป็นจุดเริ่มต้นของ
มาเลเซียการเติบโตของบริษัท และนโยบายที่จะใช้ในบริบทของการขยายตัวเศรษฐกิจ
จนไม่มีที่พัก จะรู้สึกความรู้สึกของการสูญเสีย . ที่เนป
สองง่าม มีวัตถุประสงค์ คือเพื่อขจัดความยากจน โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ และขจัด
ตัวแข่งกับการทำงานด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นโดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการเพิ่มรายได้ และขยายโอกาสทางอาชีพ
สำหรับชาวมาเลเซียโดยเฉพาะมาเลย์และ
ชุมชนพื้นเมืองอื่น ๆและเพื่อชดเชยความไม่สมดุลระหว่างมาเลเซียและที่ไม่ใช่ชาวมลายู ในแง่ของการกระจายรายได้ การจ้างงาน
, ,เป็นเจ้าของและการควบคุมของความมั่งคั่ง ( ลิต
, 2550 ) รัฐบาลก็ยินดีที่จะเสียสละบางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในความโปรดปรานของ บริษัท ได้ส่ง
เนปของมาเลเซียที่ได้เลื่อนขั้น ความมีเสถียรภาพทางการเมืองได้ นี้
ค่อนข้างสอดคล้องกับทฤษฎีที่ไม่เท่าเทียมกันคือการหน่วง ( ดู helpman
, 2004 )และ alesina รอดริค ( 1994 ) และ persson และ tabellini ( 1994 ) พบความสัมพันธ์ทางลบ
ระหว่างระดับของความไม่เท่าเทียมกันของรายได้และการเติบโตของรายได้ต่อหัว
ตามมาตามข้ามส่วนของประเทศ ที่เนปได้สำเร็จเพิ่ม
ภูมิบุตรมีส่วนร่วมในภาคธุรกิจและการเพิ่มจำนวนของภูมิปุตรา
จ้างในตำแหน่งบริหารโดยทั่วไปแล้วมันมีส่วนที่เคลื่อนที่ขึ้นของตัวเลขขนาดใหญ่ของภูมิปุตรา
- กลางและชั้นเรียนเพื่อรับรายได้สูง การปรับปรุงที่มีตัวตนใน
ระหว่างการกระจายรายได้ชาติพันธุ์ได้รับการบันทึกไว้ พวกภูมิบุตร–จีนมีการปรับปรุงอัตราส่วนรายได้
from1: เมื่อปี 2009 ตอนที่ 1 : 1.38 , ภูมิปัญญาและอัตราส่วนจากอินเดีย
1 : 1.29 ถึง 1 : 1.10 ( ตารางที่ 3 )