Aspartame is L-aspartyl-L-phenylala

Aspartame is L-aspartyl-L-phenylalanine methyl ester and neotame
is a derivative of aspartame, N-[N-(3,3-dimethylbutyl)-Laspartyl]-
L-phenylalanine-1-methyl ester. Neotame is approximately
7000–13,000 times sweeter than sucrose and 30–60 times
sweeter than aspartame (which is 200–300 times sweeter than
sucrose) (FDA, 2002). As a close derivative of aspartame, it has
the intrinsic qualities of aspartame: clean sugar-like taste, with
no undesirable metallic or bitter taste, but it should be used at
lower level (Nofre & Tinti, 2000). Of all sweeteners, aspartame is
the most heat labile and its degradation is minimal under the pH
range 4.0–5.0 (Bell & Labuza, 1991). Aspartame is most vulnerable
when heated for an extended period of time in a high moisture system
at a pH greater than 6 and all the decomposition products are
non-sweet (Wetzel & Bell, 1998). Neotame has approximately the
same stability as aspartame in the acidic pH range (pH 3–5.5),
whereas at neutral pH, neotame is significantly more stable than
aspartame. The optimal pH for neotame stability is 4.5 (Nofre &
Tinti, 2000).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แอสปาร์แตมเป็นเอส methyl L aspartyl L phenylalanine และ neotameเป็นอนุพันธ์ของแอสปาร์แตม N- [N-(3,3-dimethylbutyl)-Laspartyl] -L phenylalanine 1 เมทิลเอสเทอร์ Neotame เป็นประมาณหวานกว่าน้ำตาลซูโครส 7000 – 13,000 ครั้ง และ 30 – 60 ครั้งหวานกว่าแอสปาร์แตม (ซึ่งมีความหวานมากกว่า 200-300 ครั้งซูโครส) (FDA, 2002) เป็นอนุพันธ์ของแอสปาร์แตม ปิดก็ได้คุณภาพแท้จริงของแอสปาร์แตม: สะอาดรสชาติเหมือนน้ำตาล ด้วยโลหะที่ไม่พึงประสงค์ หรือรสขม แต่ควรใช้ในระดับต่ำ (Nofre & Tinti, 2000) สารให้ความหวานทั้งหมด แอสปาร์แตมเป็นความร้อนส่วนใหญ่ที่ labile และสลายตัวของมีน้อยภายใต้ค่า pHช่วง 4.0 – 5.0 (Bell & Labuza, 1991) แอสปาร์แตมมีความเสี่ยงมากที่สุดเมื่อถูกความร้อนในระบบความชื้นสูงเป็นเวลานานที่มี pH มากกว่า 6 และทั้งหมดสลายตัว ผลิตภัณฑ์มีไม่หวาน (Wetzel & Bell, 1998) Neotame มีการประมาณการเสถียรภาพที่เดียวกันเป็นแอสปาร์แตมในช่วงค่า pH ที่เป็นกรด (ค่า pH 3-5.5),ในขณะที่ค่า pH เป็นกลาง neotame เป็นอย่างมากมีความเสถียรกว่าแอสปาร์แตม ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับ neotame เสถียรภาพคือ 4.5 (Nofre &Tinti, 2000)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สารให้ความหวานเป็น L-aspartyl-L-phenylalanine เมทิลเอสเตอร์และ Neotame
เป็นอนุพันธ์ของสารให้ความหวาน N- [N- (3,3-dimethylbutyl) -Laspartyl] -
L-phenylalanine-1-methyl เอสเตอร์ Neotame จะอยู่ที่ประมาณ
7000-13,000 ครั้งหวานกว่าน้ำตาลซูโครสและ 30-60 ครั้ง
ความหวานมากกว่าสารให้ความหวาน (ซึ่งเป็น 200-300 ครั้งหวานกว่า
น้ำตาลซูโครส) (องค์การอาหารและยา, 2002) ในฐานะที่เป็นตราสารอนุพันธ์สนิทของสารให้ความหวานก็มี
คุณภาพที่แท้จริงของสารให้ความหวาน: น้ำตาลรสชาติเหมือนสะอาด
ไม่มีโลหะที่ไม่พึงประสงค์หรือรสขม แต่มันควรจะนำมาใช้ใน
ระดับที่ต่ำกว่า (Nofre & Tinti, 2000) สารให้ความหวานทั้งหมดสารให้ความหวานเป็น
ความร้อนมากที่สุด labile และการย่อยสลายของมันมีน้อยภายใต้ค่า pH
ช่วง 4.0-5.0 (Bell & Labuza, 1991) สารให้ความหวานจะมีความเสี่ยงมากที่สุด
เมื่อถูกความร้อนสำหรับการขยายระยะเวลาในระบบที่มีความชื้นสูง
ที่ pH มากกว่า 6 และทุกผลิตภัณฑ์จากการสลายจะ
ไม่ใช่หวาน (เวตเซิลและเบลล์ 1998) Neotame มีประมาณ
ความมั่นคงเช่นเดียวกับสารให้ความหวานในช่วงที่เป็นกรดด่าง (pH 3-5.5)
ในขณะที่ pH เป็นกลาง Neotame อย่างมีนัยสำคัญเสถียรภาพมากขึ้นกว่า
สารให้ความหวาน ค่า pH ที่เหมาะสมเพื่อความมั่นคง Neotame คือ 4.5 (Nofre &
Tinti, 2000)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สารให้ความหวานและเมทิลเอสเทอร์ l-aspartyl-l-phenylalanine นีโอเทมเป็นอนุพันธ์ของสารให้ความหวาน , n - N - ( 3,3-dimethylbutyl ) - laspartyl ]l-phenylalanine-1-methyl เอสเตอร์ นีโอเทมประมาณ7000 - 13000 ครั้งความหวานมากกว่าน้ำตาลซูโครส 30 – 60 ครั้งหวานกว่าแอสปาร์แตม ( ซึ่งเป็น 200 – 300 เท่าความหวานมากกว่าซูโครส ) ( FDA , 2002 ) เป็นอนุพันธ์ของสารให้ความหวานที่ได้ใกล้ชิด ,คุณภาพที่แท้จริงของสารให้ความหวาน : สะอาด น้ำตาลชอบรส กับไม่พึงประสงค์โลหะหรือรสขม แต่ควรใช้ระดับล่าง ( nofre & tinti , 2000 ) ทั้งหมดของสารให้ความหวานสารให้ความหวานช่วงที่ความร้อนมากที่สุดและน้อยที่สุดในการย่อยสลายอช่วง 4.0 – 5.0 ( Bell & labuza , 1991 ) แอสปาร์แตมมีความเสี่ยงมากที่สุดเมื่อได้รับความร้อนเป็นระยะเวลานานในระบบความชื้นสูงที่ pH มากกว่า 6 และผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มีการย่อยสลายไม่หวาน ( ดาวน์โหลดและระฆัง , 1998 ) นีโอเทมได้ประมาณเสถียรภาพเดียวกันเป็นสารให้ความหวานในช่วง pH ที่เป็นกรด ( pH 3 - 5.5 ) ,แต่ที่ pH เป็นกลาง นีโอเทมเป็นอย่างมีเสถียรภาพมากกว่าแทม . พีเอชที่เหมาะสมสำหรับเสถียรภาพนีโอเทมเป็น 4.5 ( nofre &tinti , 2000 )