In this research, a quasi-experimen

In this research, a quasi-experimental research design is used. The research instruments were the questionnaires and test. Researchers designed questionnaires which consisted of 2 main sections as given in Table 1. Likert scale was used as a form of measurement. Before the questionnaires were given to the respondents, a pioneer test was done where ten degree students were randomly selected to answer the questionnaires. From the pioneer test, the Alpha-Cronbach value was equaled to 0.98 which means that the validity is very high. The questionnaires are divided into four main sections as shown in Table 1:
Table 1
Section
Category
Item No
Data Analysis Method
A
Background
1 – 2
Percentage
B
Module
1 – 12
Score mean and std dev
C
Contextual Approach
1 – 12
Score mean and std dev
D
Problem-based question
1 – 12
Score mean and std dev
Researchers analyzed data in section B, C and D through mean score based on the table which was adapted from Wiersma. (2000) as shown in Table 2.
Table 2
Mean Score Interval
Interpretation
Level
1.00 – 2.49
Do not agree
Low
2.50
– 3.49
Not totally agree
Average
3.50 – 5.00
Agree
High
The students in the treated class were divided into six groups. Each group were given different categories of problems, namely General Knowledge, Agriculture and Agribusiness, Business and Marketing, Health Occupations, Home Economics and Industrial Technology. They were given time to discuss the problem and to find the solutions before each representative from each group was asked to give their presentations in the class. The real life situations questions that were given help the students connect probability to real life situations. After the lesson, both groups were given the same quiz. The research hypothesis was as follows:
Ho : There is no significant difference between the quiz performances of the control group and the treated group
H1 : There is significant difference between the quiz performances of the control group and the treated group
Data Analysis
For section A , the respondents background is shown in Table 3.
Table 3
Category
No of students
Percent (%)
Gender
Male
Female
22
23
48.9
51.1
Major
Civil
Electrical
Mechanical
23
11
11
51.1
24.45
24.45
CGPA
>3.50
3.00-3.49
2.50-2.99
14
29
2
31.1
64.45
4.45
727

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในงานวิจัยนี้ เป็นใช้การออกแบบการวิจัยกึ่งทดลอง เครื่องมือวิจัยได้แบบสอบถามและทดสอบ นักวิจัยออกแบบสอบถามซึ่งประกอบด้วยส่วนหลัก 2 ที่กำหนดในตารางที่ 1 มีใช้สเกลของ Likert เป็นแบบวัด ก่อนที่แบบสอบถามที่ให้ผู้ตอบ ทดสอบไพโอเนียร์ได้กระทำที่ระดับ 10 นักเรียนถูกสุ่มเลือกจะตอบแบบสอบถาม จากการทดสอบผู้บุกเบิก ค่า Alpha Cronbach ถูกตอนเพื่อ 0.98 ซึ่งหมายความ ว่า ความสูงมาก แบบสอบถามแบ่งออกเป็นสี่ส่วนหลักดังแสดงในตารางที่ 1:ตารางที่ 1ส่วนประเภทไม่มีสินค้าวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลAพื้นหลัง1 – 2เปอร์เซ็นต์บีโมดูล1 – 12คะแนนเฉลี่ยและ std devCบริบทวิธี1 – 12คะแนนเฉลี่ยและ std devDปัญหาตามคำถาม1 – 12คะแนนเฉลี่ยและ std devนักวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลในส่วน B, C และ D โดยใช้ค่าเฉลี่ยคะแนนตามตารางซึ่งดัดแปลงจาก Wiersma (2000) ดังแสดงในตารางที่ 2ตารางที่ 2หมายถึง ช่วงคะแนนการตีความระดับ1.00 – 2.49ไม่ยอมรับต่ำ2.50– 3.49เห็นด้วยไม่ทั้งหมดค่าเฉลี่ย3.50 – 5.00เห็นด้วยสูงนักเรียนในห้องบำบัดถูกแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม แต่ละกลุ่มได้รับประเภทต่าง ๆ ของปัญหา ได้แก่ความ รู้ทั่วไป เกษตร และเกษตร ธุรกิจ และการตลาด สุขภาพอาชีพ คหกรรม และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี พวกเขาได้รับเวลา การอภิปรายปัญหา และหาโซลูชั่นก่อนแต่ละตัวแทนจากแต่ละกลุ่มถูกต้องนำเสนอของพวกเขาในระดับนี้ คำถามสถานการณ์ของชีวิตจริงที่ได้รับช่วยให้นักเรียนเชื่อมต่อความน่าเป็นชีวิต หลังบทเรียน ทั้งสองได้รับคำถามเดียวกัน สมมติฐานการวิจัยมีดังนี้:โฮ: ไม่มีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการแสดงแบบทดสอบของกลุ่มควบคุมและกลุ่มบำบัดH1: มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการแสดงแบบทดสอบของกลุ่มควบคุมและกลุ่มบำบัดการวิเคราะห์ข้อมูลส่วน A เบื้องหลังผู้ตอบจะแสดงในตาราง 3ตาราง 3ประเภทจำนวนนักเรียนเปอร์เซ็นต์ (%)เพศเพศชายเพศหญิง222348.951.1หลักประมวลกฎหมายแพ่งไฟฟ้าเครื่องจักรกล23111151.124.4524.45CGPA> 3.503.00-3.492.50-2.991429231 1 ล้าน64.454.45727

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในงานวิจัยนี้การออกแบบการวิจัยกึ่งทดลองถูกนำมาใช้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและการทดสอบ นักวิจัยได้รับการออกแบบแบบสอบถามซึ่งประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักตามที่กำหนดในตารางที่ 1 Likert ขนาดถูกนำมาใช้เป็นรูปแบบของการวัด ก่อนที่จะตอบแบบสอบถามที่ได้รับการตอบแบบสอบถามการทดสอบผู้บุกเบิกที่ได้กระทำที่สิบนักศึกษาระดับปริญญาสุ่มเลือกที่จะตอบแบบสอบถาม จากการทดสอบผู้บุกเบิกค่าอัลฟาครอนบาคได้รับเท่ากับ 0.98 ซึ่งหมายความว่าความถูกต้องสูงมาก แบบสอบถามจะถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วนหลักดังแสดงในตารางที่ 1
ตารางที่ 1
มาตรา
หมวดหมู่
สินค้าไม่มี
วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลความเป็นมา1-2 ร้อยละB โมดูล1-12 คะแนนหมายถึงมาตรฐานและ dev C บริบทวิธี1-12 คะแนนค่าเฉลี่ยและ dev มาตรฐานD คำถามปัญหาตาม1-12 คะแนนค่าเฉลี่ยและ dev มาตรฐานนักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลในส่วน B, C และ D ผ่านหมายถึงคะแนนขึ้นอยู่กับตารางที่ถูกดัดแปลงมาจาก Wiersma (2000) ดังแสดงในตารางที่ 2 ตารางที่ 2 ช่วงคะแนนหมายถึงการตีความระดับ1.00-2.49 ไม่เห็นด้วยต่ำ2.50 - 3.49 ไม่เห็นด้วยเฉลี่ย3.50-5.00 เห็นด้วยสูงนักเรียนในชั้นเรียนได้รับการรักษาที่ถูกแบ่งออกเป็นหกกลุ่ม แต่ละกลุ่มได้รับประเภทที่แตกต่างของปัญหาคือความรู้ทั่วไป, การเกษตรและธุรกิจการเกษตร, การทำธุรกิจและการตลาด, อาชีพสุขภาพคหกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม พวกเขาได้รับเวลาในการหารือเกี่ยวกับปัญหาและหาทางแก้ไขปัญหาก่อนที่จะเป็นตัวแทนจากแต่ละกลุ่มแต่ละคนถูกขอให้นำเสนอในชั้นเรียน คำถามสถานการณ์ในชีวิตจริงที่ได้รับความช่วยเหลือนักเรียนเชื่อมต่อความน่าจะเป็นสถานการณ์ในชีวิตจริง หลังจากที่เรียนทั้งสองกลุ่มได้รับการตอบคำถามเดียวกัน สมมติฐานการวิจัยได้ดังนี้โฮ: ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการแสดงการตอบคำถามของกลุ่มควบคุมและกลุ่มที่ได้รับการรักษาH1: มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการแสดงการตอบคำถามของกลุ่มควบคุมและกลุ่มที่ได้รับการรักษาการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับส่วน, พื้นหลังผู้ตอบแบบสอบถามจะแสดงในตารางที่ 3 ตารางที่ 3 หมวดหมู่จำนวนนักเรียนร้อยละ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการวิจัยนี้ เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบการออกแบบใช้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบทดสอบ นักวิจัยออกแบบแบบสอบถาม ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ตามที่ระบุในตารางที่ 1 มาตรวัดแบบไลเคิร์ต ถูกใช้เป็นรูปแบบของการวัด ก่อนที่จำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม ,ผู้บุกเบิกการทดสอบกระทำที่สุ่มเลือกมา 10 คน ขึ้นไป เพื่อตอบแบบสอบถาม จากไพโอเนียร์ แบบค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยงเท่ากับ 0.98 ค่าถูก ซึ่งหมายความ ว่า ความถูกต้องสูงมาก แบบสอบถามแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ดังแสดงในตารางที่ 1 : ตารางที่ 1




ส่วนประเภทของการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นวิธีการ



หาพื้นหลัง 1 – 2 :
b

1 – 12
โมดูลหมายถึงคะแนนและ Std dev
C
บริบทแนวทาง
1 – 12 คะแนน ค่าเฉลี่ยและ Std dev

D
พื้นฐานปัญหาคำถาม
1 – 12 คะแนน ค่าเฉลี่ยและ Std dev

นักวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลในส่วน B , C และ D โดยเฉลี่ยคะแนนตามตาราง ซึ่งถูกดัดแปลงจาก wiersma . ( 2000 ) ดังแสดงในตารางที่ 2
2

ช่วงตารางคะแนนเฉลี่ยระดับ 1.00 – 2.49 ตีความ


ไม่เห็นด้วย


–ต่ำ 2.50 3.49 เห็นด้วย

ไม่เฉลี่ย
350 – 5.00


เห็นด้วยสูง นักเรียนในการเรียน แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ของแต่ละกลุ่มให้แตกต่างกันประเภทของปัญหา คือ ความรู้ทั่วไป ด้านการเกษตรและธุรกิจการเกษตร ธุรกิจ และการตลาด อาชีพ สุขภาพ คหกรรมศาสตร์ และ เทคโนโลยีอุตสาหกรรมพวกเขาให้เวลาเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาและหาแนวทางแก้ไข ก่อนที่แต่ละตัวแทนจากแต่ละกลุ่มก็ขอให้นำเสนอในชั้นเรียน สถานการณ์ในชีวิตจริง คำถามที่ได้รับช่วยให้นักศึกษาเชื่อมต่อความน่าจะเป็นในสถานการณ์ชีวิตจริง หลังเรียนทั้งสองกลุ่ม ได้รับคำถามเดียวกัน การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้
โฮ :มีความแตกต่างระหว่างแบบทดสอบสมรรถนะของกลุ่มควบคุมและกลุ่มที่ได้รับสารสกัด
H1 : มีความแตกต่างระหว่างแบบทดสอบสมรรถนะของกลุ่มควบคุมและกลุ่มที่ได้รับสารสกัด

สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนกลุ่มตัวอย่างหลังแสดงดังตารางที่ 3 ตารางที่ 3



( ประเภทไม่มีนักเรียน ( 1 ) เพศชายหญิง






22 23 48.9 51.1
สาขา


ภาคไฟฟ้าเครื่องจักรกล
23

11

11 51.1 24.45 24.45




cgpa > 3.50 3.00-3.49 2.50-2.99

14 29
2


ซึ่ง 64.45 4.45
727