17.6 and 17.9%, followed by group f

17.6 and 17.9%, followed by group fed 0.1g Spirulina/kg diet (5.7%), compared to the control birds. Similar trend was observed in body weight of birds at the end of the experiment (day
42), whereas body weight of birds fed 0.3 g Spirulina/kg diet was significantly (P

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

17.6 และ 17.9% ตาม ด้วยกลุ่มเลี้ยง 0.1 กรัมเมื่อเทียบกับนกควบคุมอาหารสาหร่ายกิโลกรัม (5.7%), แนวโน้มที่คล้ายถูกตรวจสอบน้ำหนักของร่างกายของนกเมื่อสิ้นสุดการทดลอง (วัน42), ในขณะที่น้ำหนักของนกเลี้ยง 0.3 กรัมอาหารสาหร่ายกิโลกรัมอย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05) หนัก 13.5% กว่าควบคุม ตาม ด้วยผู้ติดตาม 0.2 และ 0.1 กรัมต่อกิโลกรัมสาหร่ายเกลียวทองอาหาร (10.1 และ 5.8%), ตามลำดับร่างกายของไก่เนื้อลูกไก่เลี้ยงสาหร่ายเกลียวทองอาหารในระดับที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (P≤0.5) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับที่ของกลุ่มควบคุมในระหว่างการเริ่มต้น อุปกรณ์เข้าเล่ม และทั้งความยาวของรอบระยะเวลาทดลอง ที่นกเลี้ยง 0.3 กรัมสาหร่ายกิโลกรัมอาหารมากกำไร (P < 0.05) แสดงให้เห็นว่ากำไรสูงสุด ขณะที่ป้อน0.1 กรัมอาหารสาหร่ายกิโลกรัมพบว่ากำไรต่ำสุด แต่มีมากเกือบ (P < 0.05) กำไรสูงกว่าการควบคุม (ตารางที่ 2) น้ำหนักของนกเลี้ยง 0.1, 0.2 และ 0.3 g อาหารสาหร่ายกิโลกรัมแทน 5.4, 19.1 และ19.0% เมื่อเทียบกับนกควบคุมช่วงสตาร์ท ค่าที่สอดคล้องกันได้ 5.9, 5.9 และ11.3% ในช่วงระยะเวลาเข้าเส้นชัยและ 13.910.3 และ 6.1% ที่ตลาดอายุเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมผลลัพธ์เหล่านี้อยู่ในข้อตกลงได้โดยรอสส์ et al. (1994), ที่พบไม่มีผลของสาหร่ายเกลียวทองอาหารน้ำหนักสุดท้าย อย่างไรก็ตาม รอสส์ และ Dominy (1990) และ Nikodĕmusz et al. (2010) รายงานว่า นกที่เลี้ยงอาหารสาหร่ายเกลียวทองมีผลประโยชน์ประสิทธิภาพประสิทธิผล , Kaoud, (2012) พบว่า น้ำหนักตัวและน้ำหนักได้อย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05) เพิ่มขึ้น โดยการเสริมอาหารของ Spirulina platensis ผลสำคัญ (P≤0.5) บริการอาหารบนน้ำหนักตัวและน้ำหนักของไก่เนื้อเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทองอาหารอาจนำมาผ่านการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้อาหาร ในเรื่องนี้ Raju et al. (2005) สรุปว่า รวมอาหารของสาหร่ายเกลียวทองที่ระดับ 0.05% บางส่วนสามารถชดเชยผลกระทบของฟลาท็อกซินในอัตราการเติบโตของไก่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

17.6 และ 17.9% ตามด้วยกลุ่มที่เลี้ยงสาหร่ายเกลียวทอง 0.1g / กก. อาหาร (5.7%) เมื่อเทียบกับนกควบคุม แนวโน้มที่คล้ายกันพบว่าน้ำหนักตัวของนกในตอนท้ายของการทดลอง (วัน
ที่ 42) ในขณะที่น้ำหนักตัวของนกที่เลี้ยง 0.3 กรัมสาหร่ายเกลียวทอง / อาหารกก. อย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) ที่หนักกว่า 13.5% เมื่อเทียบกับการควบคุมตามด้วย เฟด 0.2 และ 0.1 กรัมสาหร่ายเกลียวทอง / กก. อาหาร (10.1% และ 5.8) ตามลำดับ. กำไรกายของลูกไก่ไก่เนื้อเลี้ยงระดับที่แตกต่างของอาหารสาหร่ายเกลียวทองอย่างมีนัยสำคัญ (P≤0.5) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมในช่วงเริ่มต้นและหมัดเด็ด ตลอดความยาวของระยะเวลาการทดลองที่นกเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทอง 0.3 กรัม / กก. รับประทานอาหารอย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) พบว่ากำไรที่สูงที่สุดในขณะที่เฟด0.1g สาหร่ายเกลียวทอง / กก. อาหารที่มีผลกำไรต่ำสุด แต่มีเกือบอย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) กำไรสูงกว่าควบคุม (ตารางที่ 2) น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นของนกที่เลี้ยง 0.1, 0.2 และ 0.3 กรัมสาหร่ายเกลียวทอง / กก. อาหารเป็นตัวแทนของ 5.4, 19.1 และ19.0% เมื่อเทียบกับนกควบคุมในช่วงระยะเวลาเริ่มต้น ค่าที่สอดคล้องกัน 5.9, 5.9 และ11.3% ในช่วงเวลาหมัดเด็ดและ 13.9, 10.3 และ 6.1% ที่อายุการตลาดเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม. ผลลัพธ์เหล่านี้อยู่ในข้อตกลงกับผู้ที่ได้รับโดยรอสส์, et al (1994) ซึ่งพบว่าไม่มีผลกระทบของสาหร่ายเกลียวทองในอาหารต่อน้ำหนักตัวสุดท้าย แต่รอสส์และ Dominy (1990) และNikodĕmusz et al, (2010) รายงานว่านกที่เลี้ยงอาหารสาหร่ายเกลียวทองมีประโยชน์ผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Kaoud, (2012) พบว่าน้ำหนักของร่างกายและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) เพิ่มขึ้นโดยเสริมอาหารของสาหร่ายเกลียวทอง platensis อย่างมีนัยสำคัญ (P≤0.5) ผลของการรักษาในอาหารต่อน้ำหนักตัวและการเพิ่มน้ำหนักของไก่เนื้ออาหารเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทองอาจจะนำผ่านการปรับปรุงประสิทธิภาพของการใช้ฟีด ในเรื่องนี้จู et al, (2005) ได้ข้อสรุปว่าการรวมการบริโภคอาหารของสาหร่ายเกลียวทองที่ระดับ 0.05% สามารถลดทอนบางส่วนผลกระทบของอะฟลาท็อกซินต่ออัตราการเจริญเติบโตของไก่เนื้อ