Lactococcus lactis is a microbe cla

Lactococcus lactis is a microbe classified informally as a Lactic Acid Bacterium because it ferments milk sugar (lactose) to lactic acid. Lactococci are typically spherical or ovoid cells, about 1.2µm by 1.5µm, occurring in pairs and short chains. They are Gram-positive, non motile, and do not form spores. Lactococci are found associated with plant material, mainly grasses, from which they are easily inoculated into milk. Hence, they are found normally in milk and may be a natural cause of souring. Lactococcus lactis has two subspecies, lactis and cremoris, both of which are essential in manufacture of many varieties of cheese and other fermented milk products.

Lactococcus lactis is related to other lactic acid bacteria such as Lactobacillus acidophilus in our intestinal tract and Streptococcus salivarius in the mouth. However, Lactococcus does not normally colonize human tissues and differs from many other lactic acid bacteria in its pH, salt, and temperature tolerances for growth, which are important characteristics relevant to its use as a starter culture in the cheesemaking industry.

Lactococcus lactis is vital for manufacturing cheeses such as Cheddar, Colby, cottage cheese, cream cheese, Camembert, Roquefort and Brie, as well as other dairy products like cultured butter, buttermilk, sour cream and kefir. It may also be used for vegetable fermentations such as cucumber pickles and sauerkraut. The bacterium can be used in single strain starter cultures, or in mixed strain cultures with other lactic acid bacteria such as Lactobacillus and Streptococcus species.

When Lactococcus lactis is added to milk, the bacterium uses enzymes to produce energy molecules, called ATP, from lactose. The byproduct of ATP production is lactic acid. The lactic acid curdles the milk that then separates to form curds, which are used to produce cheese and whey. But curdling the milk is not the bacterium's only role in cheese production. The lactic acid produced by the bacterium lowers the pH of the product and preserves it from the growth by unwanted bacteria and molds while other metabolic products and enzymes produced by Lactococcus lactis contribute to the more subtle aromas and flavors that distinguish different cheeses.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Lactococcus lactis เป็นจุลินทรีย์จัดเป็นทางการว่ากรดแลคติกแบคทีเรียเพราะกระบวนการหมักน้ำตาลนม (แลคโตส) เป็นกรดแลคติก Lactococci โดยทั่วไปจะมีเซลล์รูปทรงกลมหรือรูปไข่ประมาณ1.2μmโดย1.5μmที่เกิดขึ้นในคู่และโซ่สั้น พวกเขาเป็นแกรมบวกไม่เคลื่อนที่และไม่ได้รูปแบบสปอร์ Lactococci จะพบที่เกี่ยวข้องกับวัสดุปลูกส่วนใหญ่เป็นหญ้าจากที่พวกเขาได้รับเชื้อได้ง่ายในนม ดังนั้นพวกเขาจะพบได้ตามปกติในนมและอาจจะเป็นสาเหตุตามธรรมชาติของ souring Lactococcus lactis มีสองจำพวก lactis และ cremoris ซึ่งทั้งสองมีความจำเป็นในการผลิตของหลายพันธุ์ของชีสและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นมหมัก. Lactococcus lactis ที่เกี่ยวข้องกับอื่น ๆ แบคทีเรียกรดแลคติกเช่น Lactobacillus acidophilus ในลำไส้ของเราและ Streptococcus salivarius ใน ปาก อย่างไรก็ตาม Lactococcus ไม่ปกติรกรากเนื้อเยื่อของมนุษย์และแตกต่างจากอื่น ๆ อีกมากมายแบคทีเรียกรดแลคติกในค่า pH ของเกลือและความคลาดเคลื่อนอุณหภูมิสำหรับการเจริญเติบโตซึ่งเป็นลักษณะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเป็นวัฒนธรรมที่เริ่มต้นในอุตสาหกรรม cheesemaking. Lactococcus lactis มีความสำคัญ สำหรับการผลิตเนยแข็งเช่นเนยแข็งชนิดหนึ่ง, Colby, ชีสกระท่อม, ครีมชีส, Camembert, Roquefort และ Brie เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ เช่นเนยเลี้ยง, บัตเตอร์ครีมและ kefir นอกจากนี้ยังอาจจะใช้สำหรับหมักผักเช่นผักดองแตงกวาและกะหล่ำปลีดอง แบคทีเรียที่สามารถนำมาใช้ในวัฒนธรรมที่เริ่มต้นสายพันธุ์เดียวหรือในวัฒนธรรมสายพันธุ์ผสมกับเชื้อแบคทีเรียกรดแลคติกอื่น ๆ เช่นแลคโตบาซิลลัสและพันธุ์ Streptococcus. เมื่อ Lactococcus lactis ถูกเพิ่มลงในนมแบคทีเรียใช้เอนไซม์ในการผลิตพลังงานโมเลกุลที่เรียกว่าเอทีพีจากแลคโตส . ผลพลอยได้จากการผลิตเอทีพีเป็นกรดแลคติก กรดแลคติก curdles นมที่แยกแล้วในรูปแบบเต้าหู้ซึ่งจะใช้ในการผลิตชีสและเวย์ แต่ทำให้ตกใจนมไม่ได้เป็นเพียงบทบาทของแบคทีเรียในการผลิตชีส กรดแลคติกที่ผลิตโดยแบคทีเรียช่วยลดความเป็นกรดด่างของผลิตภัณฑ์และรักษามันออกมาจากการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่พึงประสงค์และแม่พิมพ์ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ การเผาผลาญอาหารและเอนไซม์ที่ผลิตโดย Lactococcus lactis มีส่วนร่วมไปกับกลิ่นที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและรสชาติที่แตกต่างชีสที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แลคโตค คัส lactis เป็นจุลินทรีย์จัดกันเองเป็นแบคทีเรียกรดแลคติก เพราะน้ำตาลในนม ( แลคโตส ) หมักกรดแลคติก แลกโตค ไคมักจะกลมหรือรูปไข่ เซลล์ ประมาณ 1.2 เมตร โดยµ 1.5 µ M เกิดขึ้นในคู่และโซ่สั้น พวกแกรมบวก ไม่เคลื่อนที่ และไม่สร้างสปอร์ แลกโตค ไคพบเกี่ยวข้องกับวัสดุ พืชส่วนใหญ่เป็นหญ้า ,จากที่พวกเขาสามารถใส่ลงไปในนม ดังนั้น พวกเขาจะพบตามปกติในนม อาจเป็นเพราะธรรมชาติของ souring . แลคโตค คัส lactis มี 2 ชนิดย่อย cremoris lactis , และทั้งสองซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการผลิตของหลายพันธุ์ของชีสและนมหมักผลิตภัณฑ์อื่น ๆ .

Lactococcus lactis is related to other lactic acid bacteria such as Lactobacillus acidophilus in our intestinal tract and Streptococcus salivarius in the mouth. However, Lactococcus does not normally colonize human tissues and differs from many other lactic acid bacteria in its pH, salt, and temperature tolerances for growth,ที่สำคัญคุณลักษณะที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้เป็นกล้าเชื้อใน cheesemaking อุตสาหกรรม .

แลคโตค คัส lactis มีความสำคัญสำหรับการผลิตเนยแข็งเช่นเนยแข็งชนิดหนึ่ง , โคลบี้ คอทเทจชีส ครีม ชีส Camembert roquefort Brie , และ , รวมทั้งอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย เพาะเลี้ยงและ buttermilk , ครีมบัวหิมะมันอาจจะใช้สำหรับ fermentations ผัก เช่น แตงกวาดอง และกะหล่ำปลีดอง แบคทีเรียสามารถใช้เชื้อบริสุทธิ์เริ่มต้นผสมสายพันธุ์สายพันธุ์เดียวหรือในวัฒนธรรมด้วยแบคทีเรียกรดแล็กติก อื่นๆ เช่น แลคโตบาซิลลัส และ Streptococcus lactis สายพันธุ์

เมื่อแลคโตค คัส เพิ่มน้ำนม สามารถใช้เอนไซม์เพื่อผลิตโมเลกุลพลังงานที่เรียกว่า ATP จากแล็คโตส The byproduct of ATP production is lactic acid. The lactic acid curdles the milk that then separates to form curds, which are used to produce cheese and whey. But curdling the milk is not the bacterium's only role in cheese production.กรดแลคติกที่ผลิตโดยแบคทีเรียช่วยลดความเป็นกรดของผลิตภัณฑ์และรักษามันจากการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่พึงประสงค์ และแม่พิมพ์ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆที่ผลิตโดยการเผาผลาญอาหารและเอนไซม์แลคโตค คัส lactis ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกลิ่นหอมและรสชาติที่แตกต่างคิดต่างกัน