Example 13.8 Identifying the primar

Example 13.8 Identifying the primary key for the Sample relation
In Example 13.6 we identified four functional dependencies for the Sample relation. We
examine the determinant for each functional dependency to identify the candidate key(s)
for the relation. A suitable determinant must functionally determine the other attributes in
the relation. The determinants in the Sample relation are A, B, C, and (A, B). However, the
only determinant that functionally determines all the other attributes of the relation is (A,
B). In particular, A functionally determines C, B functionally determines D, and (A, B) functionally
determines E. In other words, the attributes that make up the determinant (A, B)
can determine all the other attributes in the relation either separately as A or B or together
as (A, B). Hence, we see that an essential characteristic for a candidate key of a relation is
that the attributes of a determinant either individually or working together must be able to
functionally determine all the other attributes in the relation. This is not a characteristic of
the other determinants in the Sample relation (namely A, B, or C) as in each case they can
determine only one other attribute in the relation. As there are no other candidate keys for
the Sample relation (A, B) is identified as the primary key for this relation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตัวอย่างที่ 13.8 ระบุคีย์หลักสำหรับความสัมพันธ์ตัวอย่าง
ในตัวอย่างที่ 13.6 เราระบุอ้างอิงหน้าที่ 4 สำหรับตัวอย่างความสัมพันธ์ เรา
ดีเทอร์มิแนนต์สำหรับอ้างอิงแต่ละหน้าที่เพื่อระบุคีย์ผู้สมัครตรวจสอบ
สำหรับความสัมพันธ์ ดีเทอร์มิแนนต์เหมาะต้องกำหนดแอททริบิวต์อื่น ๆ ในบริเวณ
ความสัมพันธ์ ดีเทอร์มิแนนต์สัมพันธ์ตัวอย่างคือ A, B, C และ (A, B) อย่างไรก็ตาม การ
เฉพาะดีเทอร์มิแนนต์ที่มีฟังก์ชันกำหนดทุกแอททริบิวต์อื่น ๆ ของความสัมพันธ์ คือ (A,
B) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง A ฟังก์ชันกำหนด C, B ฟังก์ชันกำหนด D และ (A, B) ฟังก์ชัน
กำหนด E. ในคำอื่น ๆ คุณลักษณะที่ทำให้ค่าดีเทอร์มิแนนต์ (A, B)
สามารถกำหนดคุณลักษณะทั้งหมดอื่น ๆ ในความสัมพันธ์อาจแยกเป็น A หรือ B หรือกัน
เป็น (A, B) ดังนั้น เราเห็นว่า เป็นลักษณะสำคัญสำหรับคีย์ตัวเลือกของความสัมพันธ์
ที่แอตทริบิวต์ของดีเทอร์มิแนนต์เป็นอาจแยกกัน หรือทำงานร่วมกันต้อง
ฟังก์ชันกำหนดทุกแอททริบิวต์อื่น ๆ ในความสัมพันธ์ นี่ไม่ใช่ลักษณะของ
ดีเทอร์มิแนนต์ในตัวอย่างความสัมพันธ์ (ได้แก่ A, B หรือ C) ในแต่ละกรณีที่พวกเขาสามารถ
กำหนดคุณลักษณะอื่น ๆ เพียงหนึ่งในความสัมพันธ์ เป็นไม่มีอื่น ๆ ผู้สมัครคีย์สำหรับ
มีระบุความสัมพันธ์ของตัวอย่าง (A, B) เป็นคีย์หลักสำหรับความสัมพันธ์นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวอย่าง 13.8 ระบุคีย์หลักสำหรับตัวอย่างความสัมพันธ์
ในตัวอย่างงานที่เราระบุสี่พึ่งพาการทำงานสำหรับตัวอย่างความสัมพันธ์ เราตรวจสอบสำหรับแต่ละฟังก์ชันดีเทอร์มิแนนต์
การระบุคีย์คู่แข่ง ( s )
สำหรับความสัมพันธ์ ดีเทอร์มิแนนต์เหมาะต้องหน้าที่ตรวจสอบคุณลักษณะอื่น ๆใน
ความสัมพันธ์ . ปัจจัยในตัวอย่างความสัมพันธ์เป็น A , B , C ,และ ( a , b ) อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเดียวที่กำหนด
ติดทุกคุณลักษณะอื่น ๆของความสัมพันธ์ คือ ( a ,
b ) ใน โดยเฉพาะ โดยกำหนดหน้าที่กำหนด D C , B , A , B และ E .
) โดยกำหนดในคำอื่น ๆ คุณลักษณะที่ทำให้ดีเทอร์มิแนนต์ ( a , b )
สามารถตรวจสอบทั้งหมดอื่น ๆ คุณลักษณะในความสัมพันธ์ให้แยกเป็น A หรือ B หรือกัน
( A , B ) ดังนั้น เราเห็นว่า ลักษณะสําคัญสําหรับผู้สมัครที่สำคัญของความสัมพันธ์ก็คือ
ว่าคุณลักษณะของดีเทอร์มิแนนต์ทั้งรายบุคคลหรือทำงานด้วยกันต้อง
โดยตรวจสอบทั้งหมดอื่น ๆ คุณลักษณะในความสัมพันธ์ นี่ไม่ใช่ลักษณะของปัจจัยอื่น ๆ ในตัวอย่าง
ความสัมพันธ์ ( คือ A , B , C ) ในแต่ละกรณีสามารถ
ตรวจสอบเพียงหนึ่งอื่น ๆแอตทริบิวต์ในความสัมพันธ์ เนื่องจากไม่มีผู้สมัครอื่น ๆคีย์
ตัวอย่างความสัมพันธ์ ( a , b ) มีการระบุเป็นคีย์หลักสำหรับความสัมพันธ์นี้ .