Landing by third i blind [Canon5D M

Landing by third i blind [Canon5D Mark II, 15 sec, ƒ/20, ISO 200 @144 mm]

Exposure Bracketing

Now most cameras have EV or Exposure Compensation feature. This allows you to take multiple photos each at a different exposure. A good practice is to take two extra shots in addition your normal shot of the same scene. One of them 1 stop above (+1) and another one 1 stop below (-1) the normal exposure (0). Its like an insurance for your photograph and most useful in a high contrast lighting condition. This process guarantees to get a correctly exposed image and then you can delete the ones you don’t use or blend them all for creating HDR images. However, remember to set it back to 0 when you are done.

Master the Depth of field

The wider the perspective the better it is for landscape photography. Along with that you will need to set your lens aperture to something smaller such as f/11. Start with f/11 and then adjust it so that you can also counter the issues of lens diffraction. The narrower aperture will help bring more things into focus, something that is ideal for landscape photography. But, beyond certain aperture setting you will start loosing sharpness due to lens diffraction factor. That’s why balance between Depth of field & Diffraction is necessary.

Where to focus in landscape photography?

Most of the time your own instinct will guide you where to focus, specially when you have a specific interest in the scene. Rarely you run into a situation where you have to consider the mathematical route. Many use a rule of thumb that states you should focus roughly one-third up from the bottom of the frame in order to achieve maximum sharpness & depth of field throughout. This is for reference only; the actual calculation (hyperfocal distance) may depend on various factors, including lens type, aperture, focal length and subject distance.

Shoot Raw & Use low ISO

Keep your ISO settings low (100 – 200) to retain detailed and noise free image. RAW preserves all the shooting data, including data that is not possible to record in JPG format. When needed, in post processing, all the stored data can be used to get the best possible output.


The Magic or Golden hours

Good Lighting is the key to successful landscape photography. That is why the best time to shoot landscape photography is the few minutes time window before and after either sunrise or sunset. Depending on weather the window could be around 30 minuets to an hour long. You will get the most favorable lighting condition in that widow period when the sun is lower, light is softer and often displays a subtle color warmth. This is why, the hours after dawn and before dusk are known as the ‘magic hours’.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เชื่อมโยงไปถึงสามฉันตาบอด [Canon5D เครื่องหมาย II, 15 วินาที ƒ/20, ISO 200 ของ @144 mm]แสง Bracketingตอนนี้กล้องส่วนใหญ่มีคุณลักษณะ EV หรือรับค่าตอบแทน นี้ช่วยให้คุณสามารถใช้หลายภาพที่แสงแตกต่างกัน ดีที่สุดคือการ ถ่ายภาพสองเสริมนอกจากนี้การยิงปกติของฉากเดียวกัน หนึ่งในนั้นหยุด 1 ข้าง (+ 1) และ 1 อีกหนึ่งหยุดด้านล่าง (-1) แสงปกติ (0) มันก็เหมือนอันประกันสำหรับถ่ายภาพ และเป็นประโยชน์มากที่สุดในสภาพแสงสว่างความคมชัดสูง กระบวนการนี้รับรองได้รูปสัมผัสอย่างถูกต้อง และจากนั้น คุณสามารถลบสิ่งที่คุณไม่ใช้ หรือผสมผสานพวกเขาทั้งหมดสำหรับการสร้างภาพ HDR อย่างไรก็ตาม จำการตั้งค่ากลับเป็น 0 เมื่อคุณเสร็จสิ้นความลึกของฟิลด์หลักกว้างในมุมมองที่ดีกว่าไว้สำหรับถ่ายภาพภูมิทัศน์ พร้อมกับที่ คุณจะต้องตั้งค่ารูรับแสงของเลนส์ให้มีขนาดเล็กเช่น f/11 เริ่ม ด้วย f/11 และจากนั้น ปรับให้คุณยังสามารถรับมือกับปัญหาของเลนส์การเลี้ยวเบน รูรับแสงให้แคบลงจะได้ชัดสิ่ง สิ่งที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพภูมิทัศน์ แต่ นอกเหนือจากบางตั้งค่ารูรับแสง จะเริ่มปรึกษาความคมชัดจากเลนส์ตัวคูณการเลี้ยวเบน ทำไมปรับสมดุลระหว่างช่วงความชัดลึก และการเลี้ยวเบนที่มีความจำเป็นมุ่งเน้นในการถ่ายภาพภูมิทัศน์ส่วนใหญ่แล้วสัญชาตญาณของคุณจะแนะนำคุณที่ให้ความสำคัญ เป็นพิเศษเมื่อคุณมีความสนใจเฉพาะในฉาก ไม่ค่อยคุณเรียกใช้ในสถานการณ์ที่คุณต้องพิจารณากระบวนการทางคณิตศาสตร์ หลายใช้หัวแม่มือของกฎที่คุณควรเน้นประมาณหนึ่งในสามค่าจากด้านล่างของเฟรมเพื่อความคมชัดสูงและความลึกของฟิลด์ทั่วอเมริกา เป็นการอ้างอิงเท่านั้น (ระยะทาง hyperfocal) การคำนวณจริงอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ รวมทั้งประเภทของเลนส์ รูรับแสง ความยาวโฟกัส และระยะห่างของวัตถุยิงวัตถุดิบ และใช้ ISO ต่ำสุดเก็บการตั้งค่า ISO ต่ำ (100-200) เพื่อเก็บรายละเอียด และเสียงรูปฟรี วัตถุดิบเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมดถ่ายภาพ รวมทั้งข้อมูลที่ไม่สามารถบันทึกในรูปแบบ JPG เมื่อจำเป็น ในการประมวลผลการลงรายการบัญชี ข้อมูลที่เก็บไว้ใช้จะได้รับผลผลิตได้ดีที่สุดชั่วโมงวิเศษหรือโกลเด้นแสงสว่างที่ดีเป็นกุญแจสู่การถ่ายภาพภูมิทัศน์ประสบความสำเร็จ นั่นคือเหตุผลที่เวลาดีที่สุดในการถ่ายภาพการถ่ายภาพภูมิทัศน์เป็นหน้าต่างเวลานาทีน้อยก่อน และ หลังพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกดิน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หน้าต่างอาจจะ minuets ประมาณ 30 ถึงหนึ่งชั่วโมงที่ยาวนาน คุณจะได้รับสภาพแสงมากที่สุดในระยะเวลาที่แม่ม่ายเมื่อดวงอาทิตย์ต่ำ แสงจะนุ่ม และมักแสดงความอบอุ่นละเอียดสี นี่เป็นเหตุผลที่ ชั่วโมงเช้า และ ก่อนค่ำจะเรียกว่า 'ชั่วโมงวิเศษ'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เชื่อมโยงไปถึงโดยที่สามฉันตาบอด [Canon5D Mark II 15 วินาทีƒ / 20, ISO 200 @ 144 มม] ที่ได้รับสารคร่อมตอนนี้กล้องส่วนใหญ่มีคุณสมบัติค่าตอบแทนที่ได้รับสารหรือ EV นี้จะช่วยให้คุณถ่ายภาพหลายแต่ละสัมผัสที่แตกต่างกัน การปฏิบัติที่ดีคือการใช้สองนัดพิเศษนอกเหนือจากการยิงปกติของคุณในฉากเดียวกัน หนึ่งในนั้น 1 หยุดเหนือ (1) และอีกคนหนึ่งดังต่อไปนี้ 1 ป้าย (-1) สัมผัสปกติ (0) มันเหมือนการประกันสำหรับการถ่ายภาพและมีประโยชน์มากที่สุดในสภาพแสงความคมชัดสูงของคุณ กระบวนการนี้รับประกันที่จะได้รับภาพที่สัมผัสได้อย่างถูกต้องและจากนั้นคุณสามารถลบคนที่คุณไม่ได้ใช้หรือผสมผสานพวกเขาทั้งหมดสำหรับการสร้างภาพ HDR แต่อย่าลืมที่จะตั้งค่ากลับไปที่ 0 เมื่อคุณทำ. ต้นแบบความลึกของสนามกว้างมุมมองที่ดีกว่าก็คือสำหรับการถ่ายภาพภูมิทัศน์ พร้อมกับที่คุณจะต้องตั้งค่ารูรับแสงเลนส์ของคุณเพื่อสิ่งที่มีขนาดเล็กเช่น f / 11 เริ่มต้นด้วย f / 11 และปรับเพื่อให้คุณยังสามารถตอบโต้ประเด็นของการเลี้ยวเบนของเลนส์ รูรับแสงแคบจะช่วยนำสิ่งที่มากขึ้นเป็นสำคัญบางสิ่งบางอย่างที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพภูมิทัศน์ แต่นอกเหนือจากการตั้งค่ารูรับแสงบางอย่างคุณจะเริ่มสูญเสียความคมชัดเนื่องจากปัจจัยเลนส์เลนส์ นั่นเป็นเหตุผลที่สมดุลระหว่างความลึกของสนามและการเลี้ยวเบนเป็นสิ่งที่จำเป็น. ที่จะมุ่งเน้นในการถ่ายภาพภูมิทัศน์? ส่วนใหญ่เวลาที่สัญชาตญาณของคุณเองจะแนะนำให้คุณที่จะมุ่งเน้นโดยเฉพาะเมื่อคุณมีความสนใจเฉพาะในฉาก ไม่ค่อยที่จะใช้ในสถานการณ์ที่คุณต้องพิจารณาเส้นทางทางคณิตศาสตร์ จำนวนมากที่ใช้กฎของหัวแม่มือที่ระบุว่าคุณควรเน้นประมาณหนึ่งในสามขึ้นจากด้านล่างของกรอบเพื่อให้บรรลุความคมชัดสูงสุดและความลึกของเขตตลอด นี้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น การคำนวณที่เกิดขึ้นจริง (ระยะทาง hyperfocal) อาจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ รวมทั้งชนิดของเลนส์รูรับแสงความยาวโฟกัสและเรื่องระยะทาง. ยิงดิบและใช้ ISO ต่ำให้การตั้งค่าISO ต่ำ (100-200) ที่จะเก็บรายละเอียดและเสียงภาพฟรี RAW จะเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมดที่ถ่ายภาพรวมทั้งข้อมูลที่เป็นไปไม่ได้ที่จะบันทึกในรูปแบบ JPG เมื่อมีความจำเป็นในการโพสต์ทุกข้อมูลที่เก็บไว้สามารถใช้ในการได้รับผลที่ดีที่สุด. วิเศษหรือชั่วโมงทองแสงสว่างที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการถ่ายภาพภูมิทัศน์ที่ประสบความสำเร็จ นั่นคือเหตุผลที่เวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพถ่ายภาพภูมิทัศน์เป็นหน้าต่างเวลาไม่กี่นาทีก่อนและหลังทั้งพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่หน้าต่างอาจจะประมาณ 30 minuets ถึงหนึ่งชั่วโมงนาน คุณจะได้รับสภาพแสงที่ดีที่สุดในช่วงเวลาม่ายว่าเมื่อดวงอาทิตย์ต่ำแสงนุ่มและมักจะแสดงความอบอุ่นสีที่ละเอียดอ่อน นี่คือเหตุผลที่ชั่วโมงหลังจากรุ่งอรุณและก่อนค่ำเป็นที่รู้จักกันเป็น 'ชั่วโมงวิเศษ'

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ท่าสามฉันตาบอด [ canon5d Mark II , 15 วินาที , ƒ / 20 , ISO 200 @ 144 มม. ]

ถ่ายคร่อมแสง

ตอนนี้กล้องส่วนใหญ่มีการชดเชยการเปิดรับแสง EV หรือคุณลักษณะ นี้ช่วยให้คุณถ่ายภาพหลายแต่ละที่แสงที่แตกต่างกัน การปฏิบัติที่ดีคือการใช้สองภาพพิเศษนอกเหนือจากการยิงปกติของฉากเดียวกันหนึ่งของพวกเขาหยุด 1 ข้าง ( 1 ) และอีก 1 ป้ายด้านล่าง ( - 1 ) การเปิดรับปกติ ( 0 ) เป็นประกันสำหรับภาพถ่ายของคุณและมีประโยชน์มากที่สุด ในสภาพแสง ความคมชัดสูง กระบวนการนี้รับประกันที่จะได้รับอย่างถูกต้องเปิดเผยรูปภาพและจากนั้นคุณสามารถลบสิ่งที่คุณไม่ได้ใช้หรือผสมพวกเขาทั้งหมดสำหรับการสร้าง HDR . อย่างไรก็ตาม อย่าลืมตั้งค่ากลับไปที่ 0 เมื่อคุณทำ .

อาจารย์ความลึกของฟิลด์

กว้างมุมมองดีกว่าก็คือสำหรับการถ่ายภาพภูมิทัศน์ พร้อมกับที่คุณจะต้องตั้งค่ารูรับแสงของเลนส์จะเล็กกว่า เช่น f / 11 เริ่มที่ f / 11 แล้วปรับมันเพื่อให้คุณสามารถนับในเรื่องของเลนส์เลนส์ รูรับแสงแคบลงจะช่วยทำให้สิ่งที่เพิ่มเติมในโฟกัส , บางสิ่งบางอย่างที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพภูมิทัศน์แต่นอกเหนือจากการตั้งค่าบางรู คุณจะเริ่มสูญเสียความคมจากเลนส์จากปัจจัย นั่นเป็นเหตุผลที่สมดุลระหว่างความลึกของฟิลด์ที่จำเป็นโดย&

ที่มุ่งเน้นในการถ่ายภาพแนวนอน ?

ส่วนใหญ่เวลาสัญชาตญาณของคุณเองจะนำคุณที่เน้น เป็นพิเศษเมื่อคุณมีความสนใจเฉพาะในฉากแทบจะวิ่งเข้าไปในสถานการณ์ที่คุณต้องพิจารณาในทางคณิตศาสตร์ ใช้กฎของหัวแม่มือที่ระบุคุณควรโฟกัสประมาณหนึ่งในสามขึ้นจากด้านล่างของกรอบเพื่อให้ความคมชัดสูงสุด&ความลึกของฟิลด์ตลอดหลาย นี้ใช้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น การคำนวณที่เกิดขึ้นจริง ( Hyperfocal Distance ) อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆรวมทั้งชนิดเลนส์รูรับแสงความยาวโฟกัสและระยะห่างของวัตถุดิบ

ยิง&

ใช้ ISO ต่ำเก็บการตั้งค่า ISO ต่ำ ( 100 - 200 ) เพื่อเก็บรายละเอียดและภาพเสียงฟรี ดิบรักษาทั้งหมดยิงข้อมูลรวมทั้งข้อมูลที่ไม่ได้เป็นไปได้ที่จะบันทึกในรูปแบบ JPG เมื่อต้องการในการประมวลผลการโพสต์ทั้งหมดจัดเก็บข้อมูลที่สามารถใช้เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด




ชั่วโมงเวทมนตร์ หรือ โกลเด้นแสงสว่างที่ดีคือกุญแจสำคัญในการถ่ายภาพภูมิทัศน์ที่ประสบความสำเร็จ นั่นคือทำไมเวลายิงการถ่ายภาพภูมิทัศน์ไม่กี่นาทีเวลาที่หน้าต่าง ก่อนและหลังให้พระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศหน้าต่างอาจจะประมาณ 30 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมงนาน คุณจะได้รับเงื่อนไขที่ดีที่สุดในแสงที่หม้ายระยะเวลาเมื่ออาทิตย์กว่าแสงนุ่มและมักจะแสดงความอบอุ่นสีสีสัน นี่คือเหตุผลที่ ชั่วโมงหลังจากรุ่งอรุณ และก่อนค่ำจะเรียกว่า ' วิเศษชั่วโมง '