Most cultivated grapevines are susc

Most cultivated grapevines are susceptible to various diseases,
such as downy mildew (Plasmopara viticola (Berk. & M.A. Curtis)
Berl. & De), anthracnose (Elsinoe ampelina Shear), isariopsis leaf
spot (Pseudocercospora vitis (Lév.) Speg.), gray rot (Botrytis cinerea
Pers) and ripe rot (Glomerella cingulata (Stoneman) Spauld &
Schrenk). Thus, control methods for these diseases are necessary
and of particular importance because they need to be effective and
efficient and should still result in a competitive production cost in
the market (Farjado, 2003).
The most widely used fungicide to control diseases of grapevine
is Bordeaux mixture, a copper fungicide. However, like all copper
compounds, this fungicide may produce symptoms of toxicity in
young plant tissues, and the corrosive action of the fungicide may
compromise the structure of the vine. Due to these characteristics,
Bordeaux mixture is recommended for use only after fruiting. Other
synthetic fungicides, such as metalaxyl, thiophanate-methyl and
cymoxanil, are used on a large scale in the wine industry for the
control of these diseases (Amorim and Kuniyuki, 2005).
The use of fungicides can increase production significantly.
However, fungicide use can also cause serious damage to the
environment and can result in the selection of pathogens that are
resistant to certain active ingredients contained in the fungicides.
Consumers of fresh fruit are increasingly concerned about the
origin of the products that they purchase, the presence of toxic
waste and the conservation of the fruit. For this reason, the consumption
of organic products has increased steadily, causing
changes in the production, storage, distribution and marketing of
agricultural products (Flores-Cantillano et al., 2001). This ecological
awareness has created opportunities for agriculture, enhancing
trade in organic products and leading some growers to shift from

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Grapevines ปลูกมากที่สุดมีความไวต่อโรคต่าง ๆเช่นคราบ downy (Plasmopara viticola (งานกระบี่เบิกและ M.A. เคอร์ทิส)Berl & เดอ), ลี isariopsis, anthracnose (Elsinoe ampelina แรงเฉือน)จุด (vitis Pseudocercospora (Lév) Speg.), สีเทา (Botrytis cinerea rotPers) และสุก rot (Glomerella cingulata (Stoneman) Spauld &Schrenk) ดังนั้น วิธีควบคุมโรคเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นและความสำคัญเฉพาะเนื่องจากจำเป็นต้องมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิภาพ และจะยังคงส่งผลผลิตแข่งขันต้นทุนในตลาด (Farjado, 2003)การใช้สารเคมีเพื่อควบคุมโรคของ grapevineมีส่วนผสมของบอร์โดซ์ เชื้อราทองแดง อย่างไรก็ตาม เช่นทองแดงทั้งหมดสาร สารเคมีนี้อาจผลิตอาการความเป็นพิษในเนื้อเยื่อกล้า และการกัดกร่อนของสารเคมีอาจทำโครงสร้างของไวน์ เนื่องจากลักษณะเหล่านี้บอร์โดซ์ผสมเหมาะสำหรับใช้หลังจากติด อื่น ๆสังเคราะห์ซึ่งเกิดจากเชื้อ เช่น metalaxyl, thiophanate methyl และcymoxanil ใช้บนพื้นที่ขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมไวน์สำหรับการควบคุมโรคเหล่านี้ (Amorim และ Kuniyuki, 2005)ใช้ซึ่งเกิดจากเชื้อสามารถเพิ่มการผลิตมากขึ้นอย่างไรก็ตาม การใช้สารเคมีทำให้เกิดความเสียหายสภาพแวดล้อม และสามารถทำให้เกิดโรคที่มีการเลือกทนให้ส่วนผสมบางอย่างที่อยู่ในซึ่งเกิดจากเชื้อผู้บริโภคผลไม้สดมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ที่จะซื้อ สถานะของสารพิษขยะมูลฝอยและอนุรักษ์ของผลไม้ ด้วยเหตุนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์อินทรีย์มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเปลี่ยนแปลงในการผลิต จัดเก็บ การกระจาย และการตลาดของสินค้าเกษตร (ฟลอเรส Cantillano et al., 2001) ระบบนิเวศนี้ความรู้ได้สร้างโอกาสสำหรับการเกษตร เพิ่มค้าในสินค้าเกษตรอินทรีย์และผู้นำเกษตรกรบางจะเปลี่ยนจาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

องุ่นที่ปลูกส่วนใหญ่มีความอ่อนไหวต่อโรคต่างๆเช่นโรคราน้ำค้าง (Plasmopara viticola (Berk. & ซาชูเซตส์เคอร์ติ) Berl. & De), แอนแทรกโน (Elsinoe ampelina เฉือน) ใบ isariopsis จุด (Pseudocercospora Vitis (Lev.) SPEG.) เน่าสีเทา (Botrytis cinerea มีท่าน) และเน่าสุก (Glomerella cingulata (Stoneman) Spauld และSchrenk) ดังนั้นวิธีการควบคุมโรคเหล่านี้มีความจำเป็นและมีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะพวกเขาต้องการที่จะมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิภาพและยังจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตในการแข่งขันในตลาด(Farjado, 2003). สำหรับสารกำจัดเชื้อราใช้กันอย่างแพร่หลายในการควบคุมโรคของต้นองุ่นเป็นส่วนผสมบอร์โดเชื้อราทองแดง แต่ชอบทองแดงทั้งหมดสารประกอบเชื้อรานี้อาจมีอาการของความเป็นพิษในเนื้อเยื่อพืชเด็กและการดำเนินการกัดกร่อนของสารเคมีอาจประนีประนอมโครงสร้างของเถา เนื่องจากลักษณะเหล่านี้ผสมบอร์โดเป็นที่แนะนำสำหรับการใช้งานเฉพาะหลังจากที่ผล อื่น ๆสารฆ่าเชื้อราสังเคราะห์เช่น metalaxyl, thiophanate-methyl และcymoxanil จะใช้ในขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมไวน์สำหรับการควบคุมของโรคเหล่านี้(Amorim และ Kuniyuki 2005). การใช้สารฆ่าเชื้อราสามารถเพิ่มการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ. แต่เชื้อรา การใช้งานยังสามารถทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อมและอาจส่งผลในการเลือกของเชื้อโรคที่มีความทนทานต่อสารสำคัญบางอย่างที่มีอยู่ในสารฆ่าเชื้อรา. ผู้บริโภคผลไม้สดที่มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับที่มาของผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาซื้อการปรากฏตัวของสารพิษของเสียและการอนุรักษ์ของผลไม้ ด้วยเหตุนี้การบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการผลิตการจัดเก็บข้อมูลการจัดจำหน่ายและการตลาดของสินค้าเกษตร(ฟลอเรส-Cantillano et al., 2001) ระบบนิเวศนี้รับรู้ได้สร้างโอกาสสำหรับการเกษตร, การเสริมสร้างการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์และนำเกษตรกรผู้ปลูกบางอย่างที่จะเปลี่ยนจาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนใหญ่ปลูกต้นองุ่นจะเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆเช่น downy mildew
( plasmopara viticola ( Berk . & . เคอร์ติส )
เบิร์ล . &เดอ ) , โรคแอนแทรคโนส ( elsinoe ampelina เฉือน ) isariopsis ใบ
จุด ( pseudocercospora องุ่น ( L ) V ) speg ) เน่าสีเทา ( Botrytis cinerea
คน ) และสุกเน่า ( glomerella cingulata ( Stoneman ) spauld &
มา ) ดังนั้นวิธีการควบคุมโรคเหล่านี้จำเป็น
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำคัญเพราะพวกเขาต้องการที่จะมีประสิทธิภาพและ
อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้ต้นทุนการผลิตจะยังคงแข่งขันในตลาด (

farjado , 2003 ) ใช้สารเคมีในการควบคุมโรคขององุ่น
เป็นทองแดงผสมบอร์โดซ์ กอบด้วย อย่างไรก็ตาม เช่นสารประกอบทองแดง
ทั้งหมด , สารเคมีนี้อาจจะผลิตอาการพิษ
เนื้อเยื่อพืชหนุ่มและการกัดกร่อนของสารเคมีอาจ
ประนีประนอมโครงสร้างของเถา เนื่องจากคุณลักษณะเหล่านี้
บอร์โดมิกซ์เจอร์คือ แนะนำให้ใช้หลังจากติด . สารเคมีสังเคราะห์อื่น ๆ
, เช่น เมตาแลคซิลทิลไทโอฟาเนตและ
cymoxanil เป็นใช้ในขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมไวน์สำหรับ
ควบคุมโรคเหล่านี้ ( และ amorim
คุนิ , 2005 )การใช้สารเคมี สามารถเพิ่มผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญ .
แต่ใช้ใช้ยังสามารถก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อ
สิ่งแวดล้อมและได้ผลในการเลือกของเชื้อโรคที่
ป้องกันบางส่วนผสมที่มีอยู่ใน fungicides .
ผู้บริโภคผลไม้สดมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับ
ที่มาของผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาซื้อ การปรากฏตัวของพิษ
ของเสียและการอนุรักษ์ของผลไม้ ด้วยเหตุนี้ การบริโภคผลิตภัณฑ์อินทรีย์

ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการผลิต การจัดเก็บ การกระจายและการตลาดของผลิตภัณฑ์การเกษตร
( ฟลอเรส cantillano et al . , 2001 ) ความตระหนักทางนิเวศวิทยา
นี้ได้สร้างโอกาสสำหรับการเกษตร การส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์
และนำเกษตรกรบางที่จะเปลี่ยนจาก