Polit and Hungler (1999:155) descri

Polit and Hungler (1999:155) describe the research design as a blueprint, or outline, for conducting
the study in such a way that maximum control will be exercised over factors that could interfere with
the validity of the research results. The research design is the researcher’s overall plan for
obtaining answers to the research questions guiding the study. Burns and Grove (2001:223) state
that designing a study helps researchers to plan and implement the study in a way that will help
them obtain the intended results, thus increasing the chances of obtaining information that could be
associated with the real situation. This study used a quantitative exploratory descriptive design to
identify, analyse and describe factors contributing to adolescent mothers’ non-utilisation of
contraceptives to prevent unplanned pregnancies. The HBM was used as a framework for
collecting data in the Piet Retief (Mkhondo) area of the RSA. The identified factors could then be
categorised into individual perceptions, contributing factors and variables affecting the likelihood of
adolescent women initiating and maintaining actions to use contraceptives effectively to avoid
unplanned pregnancies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Polit และ Hungler (1999:155) อธิบายการออกแบบวิจัยเป็นพิมพ์เขียว หรือเค้าร่าง การดำเนินการการศึกษาในลักษณะที่จะใช้ควบคุมสูงกว่าปัจจัยที่สามารถรบกวนถูกต้องของผลการวิจัย การออกแบบการวิจัยเป็นแผนโดยรวมของนักวิจัยในได้รับคำตอบของคำถามวิจัยแนวทางการศึกษา ไหม้และรัฐโกรฟ (2001:223)ซึ่งการออกแบบการศึกษาช่วยให้นักวิจัยวางแผน และดำเนินการศึกษาวิธีที่จะช่วยพวกเขาได้รับผลตาม เป็น การเพิ่มโอกาสของการได้รับข้อมูลที่อาจเชื่อมโยงกับสถานการณ์จริง การศึกษานี้ใช้การเชิงปริมาณเชิงบุกเบิกอธิบายการออกแบบระบุ วิเคราะห์ และอธิบายปัจจัยของมารดาวัยรุ่นไม่ใช่การจัดสรรของการคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน ใช้เป็นกรอบสำหรับการ HBMรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ของ RSA Piet Retief (Mkhondo) จากนั้นอาจระบุปัจจัยจัดให้ในแต่ละแนว สนับสนุนปัจจัยและตัวแปรที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นไปได้ของวัยรุ่นหญิงเริ่มต้น และการรักษาการใช้คุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Polit และ Hungler (1999: 155) อธิบายการออกแบบการวิจัยเป็นพิมพ์เขียวหรือเค้าร่างสำหรับการดำเนิน
การศึกษาในลักษณะที่ควบคุมสูงสุดจะได้รับการใช้สิทธิมากกว่าปัจจัยที่อาจรบกวนกับ
ความถูกต้องของผลการวิจัย การออกแบบการวิจัยคือแผนโดยรวมของนักวิจัยสำหรับ
การได้รับการตอบคำถามการวิจัยแนวทางการศึกษา เบิร์นส์และโกรฟ (2001: 223) รัฐ
ว่าการออกแบบการศึกษาจะช่วยให้นักวิจัยในการวางแผนและดำเนินการศึกษาในทางที่จะช่วยให้
พวกเขาได้รับผลที่ตั้งใจไว้ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการได้รับข้อมูลที่อาจจะ
เกี่ยวข้องกับสถานการณ์จริง การศึกษาครั้งนี้ใช้การออกแบบการบรรยายเชิงปริมาณสำรวจเพื่อ
ระบุวิเคราะห์และอธิบายปัจจัยที่เอื้อต่อการมารดาวัยรุ่น 'ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก
การคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน HBM ถูกใช้เป็นกรอบในการ
เก็บรวบรวมข้อมูลในปิเอวีทีฟ (Mkhondo) พื้นที่ของอาร์เอส ปัจจัยที่ระบุแล้วจะ
แบ่งออกเป็นการรับรู้ของแต่ละปัจจัยและตัวแปรที่มีผลต่อความน่าจะเป็นของ
ผู้หญิงวัยรุ่นที่เริ่มต้นการดำเนินการและการบำรุงรักษาที่จะใช้การคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อหลีกเลี่ยง
การตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และ polit hungler ( 1999:155 ) อธิบายการออกแบบการวิจัยเป็นพิมพ์เขียว หรือเค้าร่างสำหรับการดำเนินการ
การศึกษาในลักษณะที่ควบคุมสูงสุดจะใช้สิทธิมากกว่าปัจจัยที่อาจรบกวนกับ
ความตรงของการวิจัย การออกแบบการวิจัยของนักวิจัยวางแผนโดย
ได้รับคำตอบคำถามการวิจัยแนวทางการศึกษา เบิร์น และ โกรฟ (
2001:223 ) รัฐที่ออกแบบเพื่อช่วยให้นักวิจัยวางแผนและดำเนินการศึกษาในทางที่จะช่วยให้พวกเขาได้รับผล
ไว้เป็นการเพิ่มโอกาสของการได้รับข้อมูลที่สามารถ
ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์จริง การศึกษานี้ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณเครื่องมือการออกแบบ

กำหนด วิเคราะห์ และอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการไม่ใช้
ของมารดาวัยรุ่นยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน . มีห์ถูกใช้เป็นกรอบ
เก็บรวบรวมข้อมูลใน Piet ที่ดี ( mkhondo ) พื้นที่ของ RSA ระบุปัจจัยที่อาจจะถูกแบ่งออกเป็นอีก
บุคคล ปัจจัย และตัวแปรที่มีผลต่อโอกาสในการเริ่มต้นและการกระทำวัยรุ่นผู้หญิง

ใช้ยาคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน .