1. พืชสีเขียวชั้นสูงที่เจริญบนบก แส

1. พืชสีเขียวชั้นสูงที่เจริญบนบก แสดงการปรับตัวเองให้เหมาะสมเป็นพิเศษกับหน้าที่ของมันในแง่การผลิตอาหารให้แก่กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มันเจริญอยู่ คือ
1. มีใบแบนบางสีเขียวดักรับแสง
2. มีผลและเมล็ดที่สะสมอาหาร
3. มีระบบรากที่สามารถแผ่ไปได้ไกล
4. มีลำต้นที่แข็งแรงและอายุยืน
2. โครงสร้างของพืชที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อม ที่แห้งแล้งแบบทะเลทราย คือ
1. ลำต้นอวบน้ำ
2. มีชั้น Cork เกิดขึ้น
3. มีใบลดรูปเป็นหนาม
4. มีปากใบจมลึก
3. ในรากของพืชส่วนใดที่ทำหน้าที่ในการดูดน้ำและแร่ธาตุต่าง ๆ
1. ปลายสุดของราก
2. รากขน
3. ทุกส่วนของรากที่อยู่ใต้ผิวดิน
4. 1 และ 2 เป็นำตอบที่ถูกต้อง
4. วงปี (annula ring) ของพืชเกิดขึ้นได้
1. ทั้งในลำต้นและรากพืชใบเลี้ยงคู่
2. เฉพาะในลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่เท่านั้น
3. ในลำต้น รากพืชใบเลี้ยงคู่ ทุกชนิดและในลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด
4. ในลำต้นของพืชจำพวกสน
5. ถ้าตัดลำต้นของพืชที่ขึ้นอยู่ในน้ำ เช่น ผักกะเฉด ตามขวาง เนื้อที่ที่พบในชั้นคอร์เทอกซ์ส่วนใหญ่ จะประกอบด้วย
1. chlorenchyma , sclerenchyma , parenchyma
2. collenchyma , chlorenchyma , parenchyma
3. chlorenchyma , sclerenchyma , air space
4. chlorenchyma , parenchyma , air space
6. ต้นกระบองเพชรมีน้ำอยู่ภายในต้นมากเพราะ
1. ต้นกระบองเพชรมีลำตนใหญ่และอ่อนนุ่มอุ้มน้ำไว้ได้มาก
2. ต้นกระบองเพชรสามารถดูดน้ำได้มาก
3. ต้นกระบองเพชรมีการคายน้ำน้อยและสะสมน้ำไว้มาก
4. ต้นกระบองเพชรไม่มีการคายน้ำเลยเพราะไม่มีใบ
7. เซลล์ที่ขูดออกหลังการควั่นและลอกเปลือกไม้เพื่อตอนกิ่งไม้ คือ
1. parenchyma
2. phloem
3. cambium
4. xylem
8. อาหารที่พืชสร้างขึ้นมักจะนำไปสะสมไว้ที่เซลล์ชนิด
1. sieve tube
2. sclerid
3. parenchyma
4 spongy cell
9. พืชที่มีปริมาตรทัดเทียมกันกับพวกใดน่าจะมีปริมาณน้ำเก็บเอาไว้น้อยที่สุด
1. พืชที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
2. พืชพวก xerophyte
3. พืชพวก parasite
4. พืชพวก epiphyte
10. น้ำยางจากต้นยางพาราที่เรากรีดได้ ส่วนใหญ่จะได้จากเซลล์ที่พบในเนื้อเยื่อพวก
1. cortex
2. phloem
3. xylem
4. epidermis
11. พืชที่มี root hair หรือไม่มีก็ได คือ
1. พืชที่ลอยอยู่ในน้ำ
2. พืชที่ขึ้นในที่มีน้ำน้อย
3. พืชที่ขึ้นในดินที่การถ่ายเทอากาศไม่สะดวก
4. พืชที่ขึ้นในดินที่มีสภาพเป็นกรดหรือด่างมาก
12. การที่ต้นทุเรียนมีขนาดความกว้างของลำต้นใหญ่กว่าต้นหมากที่มีอายุเท่ากันและปลูกอยู่บริเวณใกล้ ๆ กันเป็นเพราะ
1. ต้นทุเรียนมีแคมเบียม ต้นหมากไม่มี
2. จำนวนกลุ่มท่อลำเลียงของต้นทุเรียนมีมากกว่าต้นหมาก
3. ต้นทุเรียนมีการเรียงตัวของกลุ่มท่อลำเลียงเป็นระเบียบมากกว่าต้นหมาก
4. เซลล์ของต้นทุเรียนแบ่งตัวได้รวดเร็วกว่าเซลล์ของต้นหมาก
13. ส่วนของรากที่เป็นอุปสรรคมากที่สุดต่อการลำเลียงน้ำ คือ
1. เอพิเดอร์มิส
2. คอร์เทกซ์
3. เอนโดเดอร์มิส
4. เพริไซเคิล
14. พืชลำเลียงเกลือแร่จากรากไปใบได้เร็วที่สุดโดยอาศัย
1.แรงดันราก
2.คอร์เทกซ์
3. แรงดึงจากการคายน้ำ
4.แอกทิฟทรานสปอตร์ต
15. ใน cotex ของพืชใบเลี้ยงคู่ มักจะประกอบด้วยเนื้อเยื่อหลายชนิด เช่น collenchyma, sclerenchyma และ parenchyma เพราะเหตุใด parenchyma จึงมีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปเป็น cambium ได้ดีกว่าเนื้อเยื่ออื่นๆ
1.เพราะมี parenchyma ใน cortex มากกว่าเนื้อเยื่อชนิดอืน
2. เพราะเซลล์มีผนังบางแบะเป็นเซลล์มีชีวิตอยู่
3.เพราะเป็นเซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงชนิดเดียวใน cortex
4.เพราะมีความสามารถในการแบ่งเซลล์ได้ดีกว่าและเจริญได้เร็วกว่า
16. ใบไม้จะแห้งตอนกลางวัน เนื่องจาก
1. ดินมีน้ำน้อย
2. พืชคายน้ำเร็วกว่าดูดน้ำ
3. พืชคายน้ำมากกว่าขึ้น
4. พืชคายน้ำได้น้อยลง
17. ผลจากการเจริญขั้นที่ 2 (secondary growth) ของพืชใบเลลี้งคู่ ทำให้อวัยวะของพืชเช่น ราก และลำต้น...
1. มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มขึ้น
2. มีความยาวและส่วนสูงเพิ่มขึ้นตามลำดับ
3. เพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางและความยาว
4. ทำให้รากและลำต้นมีอายุยืนยาว
18. ถ้าเปรียบเทียบเซลล์เป็นห้องต่างๆ ภายในบ้านเดียวกัน ท่านคิดว่าห้องไหนคับแคบมากที่สุด
1. cork
2. fiber
3. tracheids
4. collenchyma
19. รากของพืชชนอดหนึ่งที่เจริญเต็มที่แล้วมีขนราก (root hair) มากมายทำหน้าที่ในการดูดซึมสารจากสิ่งแวดล้อม อยากทราบว่าอีก 3 เดือน ต่อมาโครงสร้างของขนรากที่กล่าวถึงจะเป็นอย่างไร
1. ยาวขึ้น
2. ตายและหลุดไป
3.เหมือนเดิมแต่ไม่ทำงาน
4. มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามอายุของราก
20. เมื่อมะม่วงอายุ 20 ปี ท่านคิดว่าควรจะมัส่วนประกอบของเนื้อเยื่อชนิดใดน้อยที่สุด
1. ไซเลมระยะแรก
2. ไซเลมระยะที่สอง
3. วาสคิวลาร์แคมเบียม
4. มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามอายุของขนราก

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. คือพืชสีเขียวชั้นสูงที่เจริญบนบกแสดงการปรับตัวเองให้เหมาะสมเป็นพิเศษกับหน้าที่ของมันในแง่การผลิตอาหารให้แก่กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มันเจริญอยู่1. มีใบแบนบางสีเขียวดักรับแสง 2. มีผลและเมล็ดที่สะสมอาหาร3. มีระบบรากที่สามารถแผ่ไปได้ไกล 4. มีลำต้นที่แข็งแรงและอายุยืน2. โครงสร้างของพืชที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมคือที่แห้งแล้งแบบทะเลทราย1. ลำต้นอวบน้ำ 2. มีชั้นไม้ก๊อกเกิดขึ้น3. มีใบลดรูปเป็นหนาม 4. มีปากใบจมลึก3. ในรากของพืชส่วนใดที่ทำหน้าที่ในการดูดน้ำและแร่ธาตุต่างๆ1. ปลายสุดของราก 2. รากขน3. ทุกส่วนของรากที่อยู่ใต้ผิวดิน 4. 1 และ 2 เป็นำตอบที่ถูกต้อง4. ของพืชเกิดขึ้นได้วงปี (annula แหวน)1. ทั้งในลำต้นและรากพืชใบเลี้ยงคู่2. เฉพาะในลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่เท่านั้น3. ในลำต้นรากพืชใบเลี้ยงคู่ทุกชนิดและในลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด4. ในลำต้นของพืชจำพวกสน5. ถ้าตัดลำต้นของพืชที่ขึ้นอยู่ในน้ำเช่นผักกะเฉดตามขวางเนื้อที่ที่พบในชั้นคอร์เทอกซ์ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย1. chlorenchyma, sclerenchyma พาเรงไคมา2. collenchyma, chlorenchyma พาเรงไคมา3. chlorenchyma, sclerenchyma พื้นที่อากาศ4. chlorenchyma ถุงลม อากาศพื้นที่6. ต้นกระบองเพชรมีน้ำอยู่ภายในต้นมากเพราะ1. ต้นกระบองเพชรมีลำตนใหญ่และอ่อนนุ่มอุ้มน้ำไว้ได้มาก2. ต้นกระบองเพชรสามารถดูดน้ำได้มาก3. ต้นกระบองเพชรมีการคายน้ำน้อยและสะสมน้ำไว้มาก4. ต้นกระบองเพชรไม่มีการคายน้ำเลยเพราะไม่มีใบ7. เซลล์ที่ขูดออกหลังการควั่นและลอกเปลือกไม้เพื่อตอนกิ่งไม้คือ1. พาเรงไคมา 2. ใยเปลือกไม้3. cambium 4. xylem8. อาหารที่พืชสร้างขึ้นมักจะนำไปสะสมไว้ที่เซลล์ชนิด1. ท่อตะแกรง 2. sclerid3. พาเรงไคมา 4 เซลล์กระดูก9. พืชที่มีปริมาตรทัดเทียมกันกับพวกใดน่าจะมีปริมาณน้ำเก็บเอาไว้น้อยที่สุด1. พืชที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ 2. พืชพวก xerophyte3. พืชพวกปรสิต 4. พืชพวก epiphyte10. น้ำยางจากต้นยางพาราที่เรากรีดได้ส่วนใหญ่จะได้จากเซลล์ที่พบในเนื้อเยื่อพวก1. เยื่อหุ้มสมอง 2. ใยเปลือกไม้3. xylem 4. ชั้นหนังกำพร้า11. พืชที่มีรากผมคือหรือไม่มีก็ได 1. พืชที่ลอยอยู่ในน้ำ 2. พืชที่ขึ้นในที่มีน้ำน้อย3. พืชที่ขึ้นในดินที่การถ่ายเทอากาศไม่สะดวก 4. พืชที่ขึ้นในดินที่มีสภาพเป็นกรดหรือด่างมาก12. การที่ต้นทุเรียนมีขนาดความกว้างของลำต้นใหญ่กว่าต้นหมากที่มีอายุเท่ากันและปลูกอยู่บริเวณใกล้กันเป็นเพราะๆ1. ต้นทุเรียนมีแคมเบียมต้นหมากไม่มี2. จำนวนกลุ่มท่อลำเลียงของต้นทุเรียนมีมากกว่าต้นหมาก3. ต้นทุเรียนมีการเรียงตัวของกลุ่มท่อลำเลียงเป็นระเบียบมากกว่าต้นหมาก4. เซลล์ของต้นทุเรียนแบ่งตัวได้รวดเร็วกว่าเซลล์ของต้นหมาก13. ส่วนของรากที่เป็นอุปสรรคมากที่สุดต่อการลำเลียงน้ำคือ1. เอพิเดอร์มิส 2. คอร์เทกซ์3. เอนโดเดอร์มิส 4. เพริไซเคิล14. พืชลำเลียงเกลือแร่จากรากไปใบได้เร็วที่สุดโดยอาศัย1.แรงดันราก 2.คอร์เทกซ์3. แรงดึงจากการคายน้ำ 4.แอกทิฟทรานสปอตร์ต15. ใน collenchyma เช่น cotex ของพืชใบเลี้ยงคู่มักจะประกอบด้วยเนื้อเยื่อหลายชนิด sclerenchyma และพาเรงไคมาเพราะเหตุใดพาเรงไคมาจึงมีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปเป็น cambium ได้ดีกว่าเนื้อเยื่ออื่น ๆ1.เพราะมี มากกว่าเนื้อเยื่อชนิดอืนพาเรงไคมาในสมอง2. เพราะเซลล์มีผนังบางแบะเป็นเซลล์มีชีวิตอยู่3.เพราะเป็นเซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงชนิดเดียวใน cortex4.เพราะมีความสามารถในการแบ่งเซลล์ได้ดีกว่าและเจริญได้เร็วกว่า16. ใบไม้จะแห้งตอนกลางวันเนื่องจาก1. ดินมีน้ำน้อย 2. พืชคายน้ำเร็วกว่าดูดน้ำ3. พืชคายน้ำมากกว่าขึ้น 4. พืชคายน้ำได้น้อยลง17. ผลจากการเจริญขั้นที่ 2 (รองเติบโต) ของพืชใบเลลี้งคู่ทำให้อวัยวะของพืชเช่นและลำต้นราก...1. มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มขึ้น 2. มีความยาวและส่วนสูงเพิ่มขึ้นตามลำดับ3. เพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางและความยาว 4. ทำให้รากและลำต้นมีอายุยืนยาว18. ถ้าเปรียบเทียบเซลล์เป็นห้องต่าง ๆ ภายในบ้านเดียวกันท่านคิดว่าห้องไหนคับแคบมากที่สุด1. cork 2. ไฟเบอร์3. tracheids 4. collenchyma19. รากของพืชชนอดหนึ่งที่เจริญเต็มที่แล้วมีขนราก (รากผม) มากมายทำหน้าที่ในการดูดซึมสารจากสิ่งแวดล้อมอยากทราบว่าอีก 3 เดือนต่อมาโครงสร้างของขนรากที่กล่าวถึงจะเป็นอย่างไร1. ยาวขึ้น 2. ตายและหลุดไป3.เหมือนเดิมแต่ไม่ทำงาน 4. มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามอายุของราก20. เมื่อมะม่วงอายุ 20 ปีท่านคิดว่าควรจะมัส่วนประกอบของเนื้อเยื่อชนิดใดน้อยที่สุด1. ไซเลมระยะแรก 2. ไซเลมระยะที่สอง3. วาสคิวลาร์แคมเบียม 4. มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามอายุของขนราก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. พืชสีเขียวชั้นสูงที่เจริญบน บกแสดงการปรับตัวเองให้เหมาะสมเป็นพิเศษกับหน้าที่ของมันในแง่การผลิตอาหารให้แก่กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มันเจริญอยู่คือ
1 มีใบแบนบางสีเขียวดักรับ แสง
2 มีผลและเมล็ดที่สะสมอาหาร
3 มีระบบรากที่สามารถแผ่ไปได้ ไกล
4 มีลำต้นที่แข็งแรงและอายุยืน
2 โครงสร้างของพืชที่ไม่เกี่ยวข้องกับการ ปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งแบบทะเลทรายคือ
1 ลำต้นอวบน้ำ
2 มีชั้นคอร์กเกิดขึ้น
ที่ 3 มีใบลดรูปเป็นหนาม
4 มีปากใบจมลึก
3 ในรากของพืชส่วนใดที่ทำ หน้าที่ในการดูดน้ำและแร่ธาตุต่าง ๆ
1 ปลายสุดของราก
2 รากขน
3 ทุกส่วนของรากที่อยู่ใต้ผิว ดิน
4 1 และ 2 เป็นำตอบที่ถูกต้อง
4 วงปี (แหวน annula) ของพืชเกิดขึ้นได้
1 ทั้งในลำต้นและรากพืชใบเลี้ยงคู่
2 เฉพาะในลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่เท่านั้น
3 ในลำต้นรากพืชใบเลี้ยงคู่ทุกชนิด และในลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด
ที่ 4 ในลำต้นของพืชจำพวกสน
5 ถ้าตัดลำต้นของพืชที่ขึ้นอยู่ ในน้ำเช่นผักกะเฉดตามขวางเนื้อที่ที่พบในชั้นคอร์เทอกซ์ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย
1 chlorenchyma, sclerenchyma, เนื้อเยื่อ
2 collenchyma, chlorenchyma, เนื้อเยื่อ
3 chlorenchyma, sclerenchyma พื้นที่อากาศ
4 chlorenchyma, เนื้อเยื่อ, พื้นที่อากาศ
6 ต้นกระบองเพชรมีน้ำอยู่ภายในต้นมาก เพราะ
1 ต้นกระบองเพชรมีลำตนใหญ่และอ่อน นุ่มอุ้มน้ำไว้ได้มาก
2 ต้นกระบองเพชรสามารถดูดน้ำได้มาก
3 ต้นกระบองเพชรมีการคายน้ำน้อยและ สะสมน้ำไว้มาก
4 ต้นกระบองเพชรไม่มีการคายน้ำเลยเพราะ ไม่มีใบ
7 เซลล์ที่ขูดออกหลังการควั่นและ ลอกเปลือกไม้เพื่อตอนกิ่งไม้คือ
1 เนื้อเยื่อ
2 phloem
3 cambium
4 ท่อน้ำ
8 อาหารที่พืชสร้างขึ้นมักจะนำ ไปสะสมไว้ที่เซลล์ชนิด
1 ท่อตะแกรง
2 sclerid
3 เนื้อเยื่อ
4 ถือเป็นรูพรุน
9 พืชที่มีปริมาตรทัดเทียมกันกับพวก ใดน่าจะมีปริมาณน้ำเก็บเอาไว้น้อยที่สุด
1 พืชที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
2 พืชพวก xerophyte
3 พืชพวกปรสิต
4 พืชพวกกล้วยไม้
10 น้ำยางจากต้นยางพาราที่เรากรีด ได้ส่วนใหญ่จะได้จากเซลล์ที่พบในเนื้อเยื่อพวก
1 เยื่อหุ้มสมอง
2 phloem
3 ท่อน้ำ
4 หนังกำพร้า
11 พืชที่มีรากผมหรือไม่มีก็ไดคือ
1 พืชที่ลอยอยู่ในน้ำ
2 พืชที่ขึ้นในที่มีน้ำน้อย
3 พืชที่ขึ้นในดินที่การถ่ายเท อากาศไม่สะดวก
ที่ 4 พืชที่ขึ้นในดินที่มีสภาพ เป็นกรดหรือด่างมาก
12 การที่ต้นทุเรียนมีขนาดความกว้าง ของลำต้นใหญ่กว่าต้นหมากที่มีอายุเท่ากันและปลูกอยู่บริเวณใกล้ ๆ กันเป็นเพราะ
1 ต้นทุเรียนมีแคมเบียมต้นหมาก ไม่มี
2 จำนวนกลุ่มท่อลำเลียงของต้นทุเรียนมี มากกว่าต้นหมาก
3 ต้นทุเรียนมีการเรียงตัวของกลุ่ม ท่อลำเลียงเป็นระเบียบมากกว่าต้นหมาก
4 เซลล์ของต้นทุเรียนแบ่งตัวได้รวดเร็ว กว่าเซลล์ของต้นหมาก
13 ส่วนของรากที่เป็นอุปสรรคมากที่สุด ต่อการลำเลียงน้ำคือ
1 เอพิเดอร์มิส
2 คอร์เทกซ์
3 เอนโดเดอร์มิส
4 เพริไซเคิล
14 พืชลำเลียงเกลือแร่จากรากไปใบ ได้เร็วที่สุดโดยอาศัย
1. แรงดันราก
2. คอร์เทกซ์
3 แรงดึงจากการคายน้ำ
4. แอกทิฟทรานสปอต ร์ต
15 ใน COTEX ของพืชใบเลี้ยงคู่มักจะประกอบด้วยเนื้อเยื่อ หลายชนิดเช่น collenchyma, sclerenchyma และเนื้อเยื่อเพราะเหตุใดเนื้อเยื่อจึงมีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปเป็น cambium ได้ดีกว่าเนื้อเยื่ออื่น ๆ
1. เพราะมีเนื้อเยื่อในเยื่อหุ้มสมองมากกว่าเนื้อเยื่อชนิดอืน
2 . เพราะเซลล์มีผนังบางแบะเป็นเซลล์ มีชีวิตอยู่
3. เพราะเป็นเซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพียงชนิดเดียวใน เยื่อหุ้มสมอง
4. เพราะมีความสามารถในการแบ่งเซลล์ ได้ดีกว่าและเจริญได้เร็วกว่า
16 ใบไม้จะแห้งตอนกลางวันเนื่องจาก
1 ดินมีน้ำน้อย
2 พืชคายน้ำเร็วกว่าดูดน้ำ
3 พืชคายน้ำมากกว่าขึ้น
4 พืชคายน้ำได้น้อยลง
17 ผลจากการเจริญขั้นที่ 2 (การเจริญเติบโตรอง) ของพืชใบเลลี้งคู่ทำให้ อวัยวะของพืชเช่นรากและลำต้น ...
1 มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มขึ้น
2 มีความยาวและส่วนสูงเพิ่มขึ้น ตามลำดับ
3 เพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางและความยาว
4 ทำให้รากและลำต้นมีอายุยืนยาว
18 ถ้าเปรียบเทียบเซลล์เป็นห้องต่างๆภายในบ้าน เดียวกันท่านคิดว่าห้องไหนคับแคบมากที่สุด
1 ก๊อก
2 เส้นใย
3 tracheids
4 collenchyma
19 รากของพืชชนอดหนึ่งที่เจริญ เต็มที่แล้วมีขนราก (รากผม) มากมายทำหน้าที่ในการดูดซึมสาร จากสิ่งแวดล้อมอยากทราบว่าอีก 3 เดือนต่อมาโครงสร้างของขนรากที่ กล่าวถึงจะเป็นอย่างไร
1 ยาวขึ้น
2 ตายและหลุดไป
3 เหมือนเดิม แต่ไม่ทำงาน
4 มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามอายุของ ราก
20 เมื่อมะม่วงอายุ 20 ปีท่านคิดว่าควรจะมัส่วนประกอบ ของเนื้อเยื่อชนิดใดน้อยที่สุด
1 ไซเลมระยะแรก
2 ไซเลมระยะที่สอง
3 วาสคิวลาร์แคมเบียม
4 มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามอายุของขน ราก