EFFECT OF MOISTURE CONTENT The resu

EFFECT OF MOISTURE CONTENT The results showed that the percentage of seed damage decreased with increase in their moisture content. The mean values of the damage were found to be 28.11%, 21.13%, 17.04%, 16.17%, 14.49%, and 15.54% for the moisture contents of 7.5%, 10%, 12.5%, 15%, 17.5%, and 20%, respectively. The difference between the effect of moisture content at the levels of 7.5% and 10% with all other levels, 12.5% and 17.5%, 12.5% and 20%, and 15% and 17.5% was significant on the percentage of seed damage at 5% probability level, while there was no significant difference between the effect of moisture contents of 12.5% and 15%, 15% and 20%, and that of the moisture contents of 17.5% and 20%. With increasing the moisture content from 7.5% to 17.7%, the mean values of the percentage damage decreased by 1.99 times. However, by a higher increase in the moisture from 17.5% to 20%, the mean values of damage showed a non‐significant increasing trend. Many researchers have also reported similar results for other crops (Paulsen et al., 1981; Liu et al., 1990; Bergen et al., 1993; Fraczek and Slipek, 1998; Sosnowski and Kuzniar, 1999; Baryeh, 2002; Parde et al., 2002). Khazaei et al. (2002) reported that the moisture content of chickpeas was a major factor in controlling the damage. Dutt and Datta (1999) concluded that a decrease in moisture content appeared to increase the brittleness of chickpeas and the moisture content showed significant effect (at 1% level) on the average dynamic as well as quasi‐static force and energy and were minimum at 8%.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลของความชื้นผลลัพธ์พบว่า เปอร์เซ็นต์ของความเสียหายของเมล็ดลดลงเพิ่มขึ้นในชื้น ค่าเฉลี่ยของความเสียหายพบว่า 28.11%, 21.13%, 17.04%, 16.17%, 14.49% และ 15.54% เนื้อหาความชื้น 7.5%, 10%, 12.5%, 15%, 17.5% และ 20% ตามลำดับ ความแตกต่างระหว่างผลของความชื้นในระดับของระดับอื่น ๆ 10%, 12.5% และ 17.5%, 7.5% และ 12.5% และ 20% และ 15% และ 17.5% เป็นสำคัญเปอร์เซ็นต์ความเสียหายของเมล็ดพันธุ์ในระดับ 5% น่าเป็น ในขณะที่มีไม่ความแตกต่างระหว่างผลของการหาความชื้นของ 12.5% และ 15%, 15% และ 20% และเนื้อหาความชื้นร้อยละ 17.5 และ 20% ด้วยการเพิ่ม ความชื้นจาก 7.5% ถึง 17.7% ค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์ความเสียหายลดลง 1.99 ครั้ง อย่างไรก็ตาม โดยสูงขึ้นเพิ่มความชุ่มชื้นจาก 17.5% 20% ค่าเฉลี่ยของความเสียหายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น non‐significant แสดง นักวิจัยหลายคนรายงานผลที่คล้ายกันสำหรับพืชอื่น ๆ (Paulsen et al. 1981 Liu et al. 1990 เบอร์เกน et al. 1993 Fraczek และ Slipek, 1998 Sosnowski และ Kuzniar, 1999 Baryeh, 2002 Parde et al. 2002) รายงาน et al. (2002) รายงานว่า ความชื้นของถั่วชิกพีเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมความเสียหาย ดัทท์และ Datta (1999) สรุปว่า การลดลงของความชื้นปรากฏในการ เพิ่มความเปราะของถั่วชิกพี และความชื้นแสดงให้เห็นว่าผลกระทบ (ที่ระดับ 1%) โดยเฉลี่ยแบบไดนามิก quasi‐static แรงและพลังงาน และได้ขั้นต่ำ 8%

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลของความชื้นผลการศึกษาพบว่าร้อยละของความเสียหายเมล็ดลดลงตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณความชื้นของพวกเขา ค่าเฉลี่ยของความเสียหายที่ถูกพบว่าเป็น 28.11%, 21.13%, 17.04%, 16.17%, 14.49% และ 15.54% สำหรับความชื้น 7.5%, 10%, 12.5%, 15%, 17.5% และ 20 % ตามลำดับ ความแตกต่างระหว่างผลของความชื้นในระดับ 7.5% และ 10% มีระดับอื่น ๆ 12.5% ​​และ 17.5%, 12.5% ​​และ 20% และ 15% และ 17.5% อย่างมีนัยสำคัญในอัตราร้อยละของความเสียหายของเมล็ดพันธุ์ที่ 5 ระดับความน่าจะเป็น% ในขณะที่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างผลของความชื้น 12.5% ​​และ 15%, 15% และ 20% และที่ของความชื้น 17.5% และ 20% ด้วยการเพิ่มความชื้นจาก 7.5% เป็น 17.7% ค่าเฉลี่ยของความเสียหายร้อยละ 1.99 ลดลงครั้ง แต่ด้วยการเพิ่มสูงเพิ่มความชื้นจาก 17.5% เป็น 20% ค่าเฉลี่ยของความเสียหายที่แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่อย่างมีนัยสำคัญแนวโน้มเพิ่มขึ้น นักวิจัยหลายคนยังได้รายงานผลที่คล้ายกันสำหรับพืชอื่น ๆ (พอล et al, 1981;. หลิว, et al, 1990;. เบอร์เกน et al, 1993;. Fraczek และ Slipek 1998; Sosnowski และ Kuzniar 1999; Baryeh 2002; Parde et al., 2002) Khazaei et al, (2002) รายงานว่าปริมาณความชื้นของถั่วชิกพีเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมความเสียหาย ดัทท์และ Datta (1999) ได้ข้อสรุปว่าการลดลงของปริมาณความชื้นที่ดูเหมือนจะเพิ่มความเปราะของ chickpeas และความชื้นแสดงให้เห็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ (ที่ระดับ 1%) ในแบบไดนามิกเฉลี่ยเช่นเดียวกับแรงกึ่งคงที่และการใช้พลังงานและเป็นขั้นต่ำ 8%

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของความชื้น พบว่าร้อยละของความเสียหายของเมล็ดลดลงเพิ่มขึ้นในเนื้อหาของความชื้น ค่าเฉลี่ย ค่าความเสียหาย พบว่ามี X.XX% 42 % , 17.04 ร้อยละ 16.17 % , 14.49 ร้อยละ 15.54 % สำหรับความชื้น 7.5 , 10 และ 12.5 % , 15% 17.5% และ 20% ตามลำดับ ความแตกต่างระหว่างผลของความชื้นที่ระดับ 7.5 และ 10 เปอร์เซ็นต์ กับ ระดับอื่น ๆทั้งหมด , 12.5 และร้อยละ 17.5 เปอร์เซ็นต์ 12.5 % และ 20 % และ 15 % และ 17.5 % ) ร้อยละของความเสียหายของเมล็ดที่ระดับความเป็นไปได้ 5% ในขณะที่มีความแตกต่างระหว่างผลของ ความชื้น 12.5% และ 15% , 15% และ 20% และของความชื้น 17.5 % และ 20 % กับการเพิ่มความชื้นจาก 7.5% 17.7 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ค่าของ ค่าความเสียหายลดลง 1.99 ครั้ง อย่างไรก็ตาม โดยสูงเพิ่มความชุ่มชื้นจาก 17.5% ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ค่าของความเสียหายที่พบไม่‐อย่างมีนัยสำคัญเพิ่มแนวโน้ม นักวิจัยหลายคนได้รายงานผลที่คล้ายกัน สำหรับพืชอื่น ๆ ( เพาล์เซิน et al . , 1981 ; Liu et al . , 1990 ; เบอร์เกน et al . , 1993 ; fraczek และ slipek , 1998 ; โซสโนวสกี้ และ kuzniar , 1999 ; baryeh , 2002 ; parde et al . , 2002 ) khazaei et al . ( 2545 ) รายงานว่าปริมาณความชื้นของ chickpeas เป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมความเสียหาย ดัต และตตา ( 1999 ) พบว่าลดลงในความชื้นที่ดูเหมือนจะเพิ่ม 2 chickpeas และความชื้นแสดงผล ( ที่ระดับ 1 % ) โดยเฉลี่ยแบบไดนามิกเป็นกึ่ง‐สถิตย์และพลังงานและมีขั้นต่ำ 8 %