Racial discriminationIn the 1800s t

Racial discrimination
In the 1800s the slaves were freed by President Abraham Licoln. After this starting in about the 1870s Jim Crow laws were introduced. These laws promoted the idea "separate but equal", meaning that the races although having to be in different areas and not allowed to intermingle were equal. The mixing of races was illegal in most places public schools, public transportation and eating establishments.[2] These laws increased discrimination, while the idea was separate but equal the black schools were not as advanced and didn’t have good supplies. Overall the areas where African Americans were designated to do daily activities were always of poorer quality than that of their white counterparts. Discrimination was blatantly done; one example of this is in the case of Rosa Parks. In her area of the country it was customary to move to the back of the bus or give up your seat for a white person. Laws like these existed all over America. The court case Brown v. Board of Education of Topeka made people realize that there was no such thing as separate but equal. By separating races and saying that it was wrong for them to interact showed that they thought something was wrong with one of the races. The Supreme Court of the United States decided that "separate but equal" was no longer necessary in 1954. Racial discrimination was not only used by adults but children as well thought that races should not interact with one another. An example of this is the experiences Ruby Bridges had when she was one of the first black children to be "integrated" into an all-white school.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบ่งแยกเชื้อชาติ
ในเพราะทาสที่รอด โดยประธานาธิบดีอับราฮัม Licoln หลังจากนี้เริ่มต้นใน เกี่ยวกับ Crow จิม 1870s ได้นำกฎหมาย กฎหมายเหล่านี้ส่งเสริมความคิด "แยกต่างหากแต่เท่า" หมาย ที่แข่งขันแต่ต้องอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ และไม่คลุกก็เท่านั้น การผสมเชื้อชาติเป็นสิ่งผิดกฎหมายในโรงเรียนส่วนใหญ่ในสถานสาธารณะ ขนส่งสาธารณะและรับประทานอาหารที่สถานประกอบการ[2] เหล่านี้กฎหมายที่เลือกปฏิบัติเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความคิดแยกต่างหาก แต่เท่ากับโรงเรียนสีดำไม่เป็นขั้นสูง และไม่มีวัสดุที่ดี โดยรวม พื้นที่ที่ชาวอเมริกันแอฟริกันถูกกำหนดให้ทำกิจกรรมประจำวันได้เสมอของมีคุณภาพด้อยกว่าที่คู่ของพวกเขาสีขาว Blatantly ทำแบ่งแยก ตัวอย่างหนึ่งของคือในกรณีของสวนโรซา ในประเทศของเธอ มันเป็นขนบธรรมเนียมในการย้ายไปด้านหลังของรถ หรือให้คนขาวนั่ง กฎหมายเช่นนี้อยู่ทั่วอเมริกา ศาลสีน้ำตาล v. ศึกษา Topeka ทำคนที่ทราบว่า มีสิ่งดังกล่าวเป็นการแยกจากกัน แต่เท่า โดยแยกการแข่งขัน และบอก ว่า ถูกผิดให้โต้ตอบพบว่า พวกเขาคิดว่า มีอะไรผิดปกติกับการแข่งขันอย่างใดอย่างหนึ่ง ศาลฎีกาสหรัฐตัดสินใจว่า "แยกต่างหาก แต่เท่ากัน" ไม่จำเป็นใน 1954 แบ่งแยกเชื้อชาติถูกใช้ โดยผู้ใหญ่ แต่เด็กเช่นคิดว่า การแข่งขันไม่ควรโต้ตอบกัน ตัวอย่างนี้เป็นประสบการณ์ที่ทับทิมสะพานมีเมื่อเธอถูกเด็กดำแรกจะ "รวม" เข้าเป็นโรงเรียนสีขาวทั้งหมดอย่างใดอย่างหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเลือกปฏิบัติทางด้านเชื้อชาติ
ใน 1800 S ทาสจะกลับคืนมาโดยประธานาธิบดีอับราฮัม licoln หลังจากที่เริ่มแห่งนี้ในปี 1870 S คนนิโกรกฎหมายเคยมีการนำมาใช้ กฎหมายเหล่านี้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนความคิด"แยกออกจากกันเท่ากับ"ความหมายว่าชนเผ่าที่แม้ว่าจะต้องอยู่ในบริเวณที่แตกต่างกันไปและไม่ได้รับอนุญาตให้สืบพันธ์ก็เท่ากัน การผสมผสานของชนเผ่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายในสถานที่ต่างๆที่โรงเรียนบริการรับส่งสาธารณะและแหล่งทานอาหาร.[ 2 ]กฎหมายเหล่านี้เพิ่มขึ้นการเลือกปฏิบัติในขณะที่ความคิดที่ว่าแยกออกจากกันเท่ากับโรงเรียนสีดำไม่ได้เป็นขั้นสูงและไม่มีพาวเวอร์ซัพพลายที่เหมาะสม โดยรวมแล้วพื้นที่ที่ชาวอเมริกันได้รับแอฟริกันไปทำกิจกรรมทุกวันก็มักมี คุณภาพ ต่ำกว่าระดับเดียวกันสีขาวของตนว่า การเลือกปฏิบัติก็ไม่ทำตัวอย่างหนึ่งของโรงแรมแห่งนี้คือในกรณีที่มี Rosa อุทยาน ในบริเวณพื้นที่ของเธอในประเทศที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการย้ายไปยังด้านหลังของรถหรือทำให้ได้ที่นั่งของคุณสำหรับบุคคลสีขาว กฎหมายเหล่านี้มีอยู่ทั้งหมดในอเมริกาเหนือ สีน้ำตาลบอร์ด V กรณีศาลที่มีการศึกษาของโทพีกาทำให้ผู้คนได้ทำความเข้าใจว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวเป็นแบบแยกพื้นที่แต่เท่ากันโดยแยกออกจากกันชนเผ่าและกล่าวว่ามันเป็นความผิดพลาดของพวกเขาในการโต้ตอบแสดงให้เห็นว่าพวกเขาคิดว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องกับหนึ่งของชนเผ่าที่. ศาลสูงสุดของประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีมติว่า"แยกออกจากกันเท่ากับ"ก็ไม่มีความจำเป็นในปี 1954 การเลือกปฏิบัติทางด้านเชื้อชาติไม่ใช่นำมาใช้เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้นแต่เด็กให้เป็นอย่างดีจึงคิดว่าแข่งไม่ควรจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นตัวอย่างของโรงแรมแห่งนี้คือประสบการณ์ที่ Ruby Tuesday สะพานเมื่อเธอเป็นหนึ่งในคนผิวดำเป็นครั้งแรกที่จะมี"รวม"เข้าไปโรงเรียนสีขาวทั้งหมด