Most ATM managers judge their effec

Most ATM managers judge their effectiveness by measuring ATM availability, which is commonly defined as the percentage of time ATMs can dispense cash. It is strictly based upon the number of minutes an ATM was down and does not take into account the value of specific time periods of high usage versus low usage windows. Given increasing emphasis by financial institutions on the consumer experience, should we really be using a metric that that provides little insight into how the consumer is affected? Instead, it may be time we measure ourselves against the impact of lost opportunities.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้จัดการ ATM ส่วนใหญ่ตัดสินประสิทธิภาพ โดยวัดพร้อม ATM ซึ่งโดยทั่วไปกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ของเวลา Atm สามารถป้ายสินค้าเงินสด อย่างเคร่งครัดก็จะขึ้นอยู่ตามจำนวนนาทีกดถูกลง และไม่คำนึงถึงค่าของคาบเวลาของการใช้งานสูงเมื่อเทียบกับ windows การใช้งานต่ำ ให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น โดยสถาบันการเงินประสบการณ์ผู้บริโภค ควรเราจริง ๆ ใช้วัดที่ที่เข้าใจเล็กน้อยเป็นวิธีที่ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ หรือไม่ แทน มันอาจเป็นเวลาที่เราวัดตัวเองกับผลกระทบของการสูญเสียโอกาส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้จัดการเอทีเอ็มส่วนใหญ่ตัดสินประสิทธิภาพของพวกเขาโดยการวัดความพร้อมตู้เอทีเอ็มซึ่งถูกกำหนดโดยทั่วไปเป็นร้อยละของตู้เอทีเอ็มเวลาที่สามารถจ่ายเงินสด มันขึ้นอยู่อย่างเคร่งครัดกับจำนวนนาทีเอทีเอ็มลดลงและไม่ได้คำนึงถึงค่าของช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงของการใช้งานในระดับสูงเมื่อเทียบกับการใช้งานหน้าต่างต่ำ ได้รับการเพิ่มความสำคัญของสถ​​าบันการเงินในประสบการณ์ของผู้บริโภคที่เราควรจริงๆจะใช้ตัวชี้วัดที่มีความเข้าใจในวิธีการเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ? แต่มันอาจจะเป็นเวลาที่เราวัดตัวเองกับผลกระทบของการสูญเสียโอกาส

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้จัดการบริการส่วนใหญ่ตัดสินประสิทธิภาพของพวกเขา โดยการวัดบริการห้องพักซึ่งมักกำหนดเป็นร้อยละของเวลาที่เครื่องเอทีเอ็มสามารถจ่ายเป็นเงินสดได้ มันเป็นอย่างเคร่งครัดตามจำนวนนาทีที่ตู้เอทีเอ็มที่ถูกลง และไม่ได้คำนึงถึงคุณค่าของเวลาที่เฉพาะเจาะจงระยะเวลาการใช้งานสูงเมื่อเทียบกับ Windows การใช้น้อยได้รับการเน้นโดยสถาบันการเงินในประสบการณ์ของผู้บริโภค เราควรจะต้องใช้ตัวชี้วัดที่แสดงเล็ก ๆน้อย ๆลึกลงไปว่าผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบ ? แทน มันอาจจะเวลาเราวัดเองกับผลกระทบของโอกาสหาย