Data collection Senior stroke nurse

Data collection
Senior stroke nurses identified patients on admission to hospital and recorded baseline details, including: demographic data; risk factors; prestroke medication; and prior history (i.e. renal impairment). Once the patient had consented to the study, ward nurses took a daily morning urine sample at first voiding or from a catheter for 10 days (or until death/discharge if sooner). If patients were incontinent of urine and not catheterized nurses squeezed a sample of urine from the pad or bedding if possible. We collected an early morning urine sample to prevent confounding by normal diurnal variation in urine as urinary concentration rises during the night and is usually at its highest between 4 AM and 8 AM in normal subjects (Buchsbaum & Harris 1971). This occurs because of reduced fluid intake at night; a nocturnal dip in blood pressure; increase in Antidiuretic Hormone (ADH) and recumbency. We also aimed to avoid any confounding due to morning medications, such as diuretics, which might cause patients to pass dilute urine while becoming dehydrated.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รวบรวมข้อมูล พยาบาลอาวุโสจังหวะระบุทางเข้าโรงพยาบาล และบันทึกรายละเอียดพื้นฐาน รวมทั้ง: ข้อมูลประชากร ปัจจัยเสี่ยง prestroke ยา และก่อนประวัติศาสตร์ (เช่นไตผล) เมื่อผู้ป่วยก็ยินยอมเพื่อการศึกษา การพยาบาลผู้ป่วยเอาตัวอย่างปัสสาวะตอนเช้าทุกวัน ที่โมฆะแรก หรือ จากการพัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูล สำหรับ 10 วัน (หรือจน กว่าความตาย/ปล่อยถ้าเร็ว) ถ้าผู้ป่วยมี incontinent ของปัสสาวะ และไม่ catheterized พยาบาลคั้นตัวอย่างปัสสาวะจากแผ่นหรือเครื่องนอนถ้าเป็นไปได้ เราเก็บตัวอย่างปัสสาวะเช้าให้ confounding โดยเปลี่ยนแปลง diurnal ปกติในปัสสาวะกับท่อปัสสาวะเข้มข้นขึ้นในตอนกลางคืน และมักจะเป็นที่ความสูงระหว่าง 4 น.และ 08.00 น.ในหัวข้อปกติ (Buchsbaum & 1971 แฮ) นี้เกิดขึ้นเนื่องจากการบริโภคของเหลวลดลงในเวลากลางคืน จุ่มในเลือดความดัน บรรณาธิการ เพิ่มฮอร์โมนการ (อัซ) และ recumbency นอกจากนี้เรายังมุ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการใด ๆ เนื่องจากเช้ายา เช่น diuretics ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยผ่านปัสสาวะ dilute ขณะอบแห้งเป็น confounding

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเก็บรวบรวมข้อมูล
พยาบาลจังหวะอาวุโสระบุผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลและมีการบันทึกรายละเอียดพื้นฐานรวมถึงข้อมูลประชากร; ปัจจัยความเสี่ยง prestroke ยา; และประวัติก่อน (เช่นโรคไต) เมื่อผู้ป่วยได้ยินยอมให้มีการศึกษาพยาบาลวอร์ดเอาตัวอย่างปัสสาวะในตอนเช้าทุกวันที่โมฆะแรกหรือจากสายสวนเป็นเวลา 10 วัน (หรือจนกว่าจะตาย / ปล่อยถ้าเร็ว) หากผู้ป่วยไม่หยุดยั้งของปัสสาวะและพยาบาล catheterized ไม่บีบตัวอย่างของปัสสาวะจากแผ่นหรือเตียงถ้าเป็นไปได้ เราเก็บตัวอย่างปัสสาวะตอนเช้าเพื่อป้องกันการรบกวนโดยการเปลี่ยนแปลงรายวันตามปกติในปัสสาวะปัสสาวะเป็นความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลากลางคืนและมักจะเป็นที่สูงสุด 04:00-08:00 ในวิชาปกติ (Buchsbaum และแฮร์ริส 1971) นี้เกิดขึ้นเนื่องจากการดื่มน้ำที่ลดลงในเวลากลางคืน; กรมทรัพย์สินทางปัญญาออกหากินเวลากลางคืนในความดันโลหิต เพิ่มขึ้นใน antidiuretic ฮอร์โมน (ADH) และ recumbency นอกจากนี้เรายังมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนใด ๆ เนื่องจากการใช้ยาในตอนเช้าเช่นยาขับปัสสาวะซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะเจือจางขณะที่กลายแห้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เก็บข้อมูล
รุ่นพี่พยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ระบุการโรงพยาบาลและบันทึกรายละเอียดพื้นฐาน ได้แก่ ข้อมูลประชากร ปัจจัยความเสี่ยง prestroke ยา และประวัติก่อน ( เช่น ไตเสื่อม ) เมื่อผู้ป่วยมีการยินยอมให้ศึกษา วอร์ด พยาบาลเอาทุกวัน ตอนเช้า ปัสสาวะแรกโมฆะ หรือจากสายสวน 10 วัน ( หรือจนกว่าจะตาย ถ้าชาร์จเร็ว )ถ้าผู้ป่วยกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะบ่อย และไม่ catheterized พยาบาลบีบตัวอย่างปัสสาวะจากพันธมิตรฯ หรือปรกติ ถ้าเป็นไปได้ เราเก็บปัสสาวะในตอนเช้า เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงตามเวลาปกติในปัสสาวะโดยอยู่นอกเหนือการควบคุม เช่น ความเข้มข้นของปัสสาวะเพิ่มขึ้นในตอนกลางคืน และมักจะเป็นที่สุดระหว่าง 4 และ 8 am ในคนปกติ ( บักส์เบาม์&แฮร์ริส 1971 )ปัญหานี้เกิดขึ้นเนื่องจากการลดการบริโภคของของเหลวในเวลากลางคืน ; จุ่มออกหากินเวลากลางคืนในความดันโลหิต ; เพิ่มขึ้นในฮอร์โมนต้านการขับปัสสาวะ ( ADH ) และ recumbency . เรายังมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการใด ๆเนื่องจากเช้า confounding ยา เช่น ยาขับปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยผ่านการเจือจางปัสสาวะในขณะที่กลายเป็น dehydrated