5. ConclusionsSoil evaporation depe

5. Conclusions
Soil evaporation depended on meteorological and experimental conditions, stage of evaporation (energy-limited or falling-rate stages) and type of mulching materials. Soil evaporation increased linearly with increases in soil water content in the falling-rate stage, but these increases were much lower in the mulched than in the bare soil because of the lower energy available for evaporation at the mulched soil surface.

All mulching materials decreased soil evaporation in the energy-limited stage in relation to the bare soil, but the decreases and their significance varied among the two experiments. In experiment 1 (soil trays), the average daily soil evaporation rates (ER) were different (p < 0.05) among all mulching treatments, with highest ER decreases in plastic and pine bark, and lowest ER decreases in geotextile and vine residues with a 5 cm thickness. In experiment 2 (microlysimeters) where, in contrast with experiment 1, the mulching materials were not in contact with the wetted soil, the geotextile was more beneficial than the pine bark for soil evaporation control.

During the falling-rate stage where evaporation is controlled by soil water content, the evaporation rates were low and similar among treatments, suggesting that soil mulching will be inefficient for soil evaporation control in low-frequency irrigation systems where the soil remains dry most of the time. During the energy-limited stage, the plastic and pine bark materials in contact with the wetted soil were most effective for evaporation control. These materials will be therefore recommended in high-frequency irrigation systems because of the high and almost continuous wetting of the soil surface in these systems. Only in cases were the mulching materials would not be in contact with the wetted soil, the geotextile will be recommended over the pine bark for soil evaporation control.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5. บทสรุปดินระเหยขึ้นอยู่กับสภาพอุตุนิยมวิทยา และการทดลอง ระยะระเหย (ขั้นพลังงานจำกัด(มหาชน) หรือ อัตราลดลง) และชนิดของวัสดุคลุม ดินระเหยเพิ่มขึ้นเชิงเส้นกับการเพิ่มขึ้นในปริมาณน้ำดินในขั้นอัตราตก แต่เหล่านี้เพิ่มขึ้นก็ต่ำกว่ามากในการ mulched กว่าดินเปลือยเพราะพลังงานต่ำสำหรับระเหยที่ผิวดิน mulchedวัสดุทั้งหมด mulching ลดดินระเหยในระยะจำกัดพลังงานเกี่ยวกับ ดินเปลือย แต่ลดลง และความสำคัญของพวกเขาแตกต่างกันระหว่างการทดลอง ในทดลอง 1 (ถาดดิน), การเฉลี่ยดินระเหยรายวัน (ER) ได้แตกต่างกัน (p < 0.05) ระหว่างการรักษาทั้งหมด mulching กับ ER ลดสูงสุดในพลาสติกและสนเปลือก และ ER ราคาลดในตก geotextile และเถาวัลย์ มีความหนา 5 ซม. ในการทดสอบ 2 (microlysimeters) ที่ in contrast with การทดลองที่ 1 วัสดุ mulching ไม่สัมผัสกับดิน wetted, geotextile มีประโยชน์มากขึ้นกว่าเปลือกสนสำหรับการควบคุมการระเหยของดินระหว่างระยะอัตราตกที่ระเหยจะถูกควบคุม โดยปริมาณน้ำดิน อัตราการระเหยต่ำ และคล้ายคลึงกันระหว่างรักษา แนะนำว่า การคลุมดินจะต่ำสำหรับควบคุมดินระเหยในระบบชลประทานความถี่ต่ำที่ดินยังคงแห้งส่วนใหญ่แล้ว ในระหว่างระยะการพลังงานจำกัด พลาสติกและไม้สนเปลือกวัสดุกับดิน wetted ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการควบคุมการระเหย วัสดุเหล่านี้จะเป็นดังนั้นงานในระบบความถี่สูงชลประทานสูง และต่อเนื่องเกือบภาวะการเปียกของพื้นดินในระบบเหล่านี้ เฉพาะในกรณีวัสดุ mulching จะไม่สัมผัสกับดิน wetted, geotextile จะถูกแนะนำผ่านเปลือกสนสำหรับการควบคุมการระเหยของดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5. สรุป
การระเหยดินขึ้นอยู่กับสภาพทางอุตุนิยมวิทยาและการทดลองขั้นตอนของการระเหย (พลังงาน จำกัด หรือขั้นตอนที่ลดลงอัตรา) และชนิดของวัสดุคลุมดิน การระเหยของดินเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรงกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำในดินในขั้นตอนการล้มอัตรา แต่เพิ่มขึ้นเหล่านี้เป็นที่ต่ำกว่ามากใน mulched กว่าในดินเปล่าเพราะพลังงานที่ลดลงสำหรับการระเหยที่ผิวดิน mulched. ทั้งหมดวัสดุคลุมดินลดลงดิน ระเหยในเวทีพลังงาน จำกัด ในความสัมพันธ์กับดินเปลือย แต่ลดลงและความสำคัญของพวกเขาแตกต่างกันระหว่างทั้งสองการทดลอง ในการทดลองที่ 1 (ถาดดิน), ค่าเฉลี่ยของอัตราการระเหยของดินในชีวิตประจำวัน (ER) ที่แตกต่างกัน (p <0.05) การรักษาคลุมดินทั้งหมดที่มี ER สูงสุดลดลงในพลาสติกและเปลือกสนและ ER ต่ำสุดที่ลดลงในหมอนและสารตกค้างเถากับ ความหนา 5 ซม ในการทดลองที่ 2 (microlysimeters) โดยที่ในทางตรงกันข้ามกับการทดลองที่ 1, วัสดุคลุมดินที่ไม่ได้สัมผัสกับดินเปียกหมอนเป็นประโยชน์มากกว่าเปลือกสนสำหรับการควบคุมการระเหยของดิน. ในช่วงน้ำลดอัตราการระเหยที่ถูกควบคุม โดยปริมาณน้ำในดินอัตราการระเหยอยู่ในระดับต่ำและใกล้เคียงกันบอกว่าคลุมดินดินจะไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการระเหยของดินในความถี่ต่ำระบบชลประทานที่ดินยังคงแห้งมากที่สุดของเวลา ในระหว่างขั้นตอนพลังงาน จำกัด , พลาสติกและวัสดุเปลือกสนในการติดต่อกับดินเปียกมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการควบคุมการระเหย วัสดุเหล่านี้จะได้รับการแนะนำจึงอยู่ในความถี่สูงระบบชลประทานเพราะเปียกสูงและต่อเนื่องเกือบของพื้นผิวดินในระบบเหล่านี้ เฉพาะในกรณีที่เป็นวัสดุคลุมดินจะไม่อยู่ในการติดต่อกับดินเปียก, หมอนจะได้รับการแนะนำมากกว่าเปลือกสนสำหรับการควบคุมการระเหยของดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

5 . สรุป
การระเหยของน้ำในดินขึ้นอยู่กับทางอุตุนิยมวิทยาและเงื่อนไขการทดลองขั้นตอนการระเหย ( พลังงานจำกัดหรือลดลงระยะเท่ากัน ) และชนิดของวัสดุคลุมดิน . การระเหยของดินเพิ่มขึ้น ค่าความต้านทานที่เพิ่มขึ้นในน้ำในดินในอัตราตกเวทีแต่เพิ่มเหล่านี้ลดลงมากในกาแฟ กว่า ดินเปล่า เพราะราคาพลังงานที่สามารถใช้ได้สำหรับการระเหยของน้ำที่ผิวดินกาแฟ

ทั้งหมดวัสดุคลุมดินและการระเหยในพลังงานจำกัดขั้นตอนในความสัมพันธ์กับดินเปลือย แต่ลดลง และความสำคัญของพวกเขาที่แตกต่างกันระหว่างสองการทดลอง ในการทดลองที่ 1 ( ถาดดินเฉลี่ยรายวัน อัตราการระเหยของน้ำในดิน ( ER ) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) ในการรักษาสูงสุด คลุมด้วยพลาสติกและเปลือกสน ER ลดลง และลดลงต่ำสุดเอ้อ geotextile เถาตกค้างกับ 5 ซม. และความหนา ในการทดลองที่ 2 ( microlysimeters ) ซึ่งในทางตรงกันข้าม กับการทดลอง 1 , การคลุมดินวัสดุที่ไม่ได้สัมผัสกับดินเปียก ,ส่วนแผ่นเป็นประโยชน์กว่าเปลือกสนควบคุมการระเหยของดิน

ตอนตกเวทีที่ถูกควบคุมโดยอัตราการระเหยน้ำในดิน , อัตราการระเหยต่ำ และคล้ายคลึงกันระหว่างการรักษา แนะนำให้คลุมดินจะไม่มีการระเหยของน้ำในดินควบคุมความถี่ต่ำระบบ ชลประทานที่ดินยังคงแห้งมากที่สุดของเวลา .ระหว่างพลังงานจำกัดเวที , พลาสติกและวัสดุเปลือกสนในติดต่อกับดินเปียกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการควบคุมการระเหย วัสดุเหล่านี้จะถูก ดังนั้นจึงแนะนำในระบบชลประทาน เพราะความถี่สูงสูงและเกือบต่อเนื่องเปียกของพื้นผิวดินในระบบเหล่านี้เฉพาะในกรณีที่เป็นวัสดุคลุมดินจะไม่สัมผัสกับดินเปียก , แผ่นใยสังเคราะห์ จะแนะนำผ่านเปลือกสนควบคุมการระเหยของน้ำในดิน