particularly with the adoption of m

particularly with the adoption of more, and more complex, technology.
This presents a difficult situation. If scarce resources are allocated to yearly safety and
performance testing, perhaps for mandatory or accreditation reasons, then the repair backlog
may increase to a level where clinical service delivery becomes affected. Also, if the
repair backlog increases, then maintenance activity will reduce, thus compounding the
problem.
In order to operate with limited resources, various techniques have been adopted to justify
reduced safety and performance testing frequencies and to define maintenance
requirements more precisely (Fennigkoh and Smith, 1989; Fennigkoh and Lagerman,
1997; Gullikson, David and Blair, 1997). These techniques have included classifying the
maintenance needs of items or protocols for justifying the extension of safety and performance
testing intervals. These techniques rely either on some measure of device “criticality”
risk analysis or on sound statistical reliability data. Usually, insufficient data are
available for valid statistical analysis, and these techniques then must be based on riskmanagement
techniques. Risk management typically involves developing a “matrix” with
the probability of failure along one axis and the consequence of failure (from minor to
major) along another. Devices can be placed in the matrix according to where they sit on
each axis and ranked, allowing resources to be targeted at the highest risk items (i.e., those
where both the probability and consequence of failure are highest). The rationale behind
any technique adopted should always be documented. (See also Chapter 56.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการนำเทคโนโลยี และเพิ่มเติม ซับซ้อนนี้นำเสนอสถานการณ์ที่ยากลำบาก ถ้าจัดสรรทรัพยากรที่หายากเพื่อความปลอดภัยประจำปี และการทดสอบประสิทธิภาพ บางทีเหตุผลบังคับหรือรับรอง แล้วค้างซ่อมอาจเพิ่มถึงระดับที่ทางคลินิกบริการจัดส่งได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ถ้าการซ่อมแซมเพิ่มรายการคงค้าง จาก นั้นกิจกรรมการบำรุงรักษาจะลด ผสมดังนั้น การปัญหาเพื่อดำเนินการกับทรัพยากรที่จำกัด เทคนิคต่าง ๆ ได้รับการรับรองการจัดชิดขอบลดความถี่ในการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย และการบำรุงรักษาที่กำหนดความต้องการอย่างแม่นยำมากขึ้น (Fennigkoh และ Smith, 1989 Fennigkoh และ Lagerman1997 Gullikson ดาวิดและแบลร์ 1997) เทคนิคเหล่านี้ได้รวมการจัดประเภทการการบำรุงรักษาความต้องการของสินค้าหรือโปรโตคอ justifying ส่วนขยายของประสิทธิภาพและความปลอดภัยการทดสอบช่วงเวลา ใช้เทคนิคเหล่านี้ในบางวัดอุปกรณ์ "ความสำคัญ"การวิเคราะห์ความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือทางสถิติเสียงข้อมูล มักจะ เป็นข้อมูลไม่เพียงพอให้บริการวิเคราะห์ทางสถิติที่ถูกต้อง และเทคนิคเหล่านี้ แล้วจะต้องอิง riskmanagementเทคนิคการ การบริหารความเสี่ยงโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการพัฒนา "เมทริกซ์" ด้วยความน่าเป็นของความล้มเหลวตามแนวแกนแกนหนึ่งและผลของความล้มเหลว (จากน้อยไปหลัก) ไปยังอีก สามารถวางอุปกรณ์ในเมตริกซ์ตามที่พวกเขานั่งบนแต่ละแกน และทรัพยากรที่จะกำหนดเป้าหมายรายการความเสี่ยงสูง (เช่น ผู้ช่วย อันดับทั้งความน่าเป็นและผลของความล้มเหลวสุด) เหตุผลเบื้องหลังควรจัดทำเป็นเอกสารใด ๆ เทคนิคที่นำมาใช้เสมอ (ดูยังบทที่ 56)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการยอมรับของมากขึ้นและซับซ้อนมากขึ้นเทคโนโลยี.
นี้นำเสนอสถานการณ์ที่ยากลำบาก หากทรัพยากรที่ขาดแคลนได้รับการจัดสรรประจำปีเพื่อความปลอดภัยและ
การทดสอบประสิทธิภาพอาจจะเป็นเหตุผลบังคับหรือได้รับการรับรองแล้วค้างการซ่อมแซม
อาจเพิ่มขึ้นไปถึงระดับที่ส่งมอบบริการทางคลินิกจะกลายเป็นได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ถ้า
ค้างซ่อมแซมเพิ่มแล้วกิจกรรมการบำรุงรักษาจะลดจึงประนอม
ปัญหา.
เพื่อดำเนินการที่มีทรัพยากร จำกัด , เทคนิคต่างๆได้รับการรับรองที่จะปรับ
ความปลอดภัยและการทดสอบประสิทธิภาพการลดความถี่และการกำหนดบำรุงรักษา
ความต้องการอย่างแม่นยำมากขึ้น (Fennigkoh และ สมิ ธ 1989; Fennigkoh และ Lagerman,
1997; Gullikson เดวิดและแบลร์, 1997) เทคนิคเหล่านี้ได้รวมจำแนก
ความต้องการการบำรุงรักษาของรายการหรือโปรโตคอลสำหรับการให้เหตุผลการขยายตัวของความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงาน
ช่วงเวลาการทดสอบ เทคนิคเหล่านี้ต้องอาศัยทั้งในตัวชี้วัดของอุปกรณ์ "วิกฤต" บางคน
วิเคราะห์ความเสี่ยงหรือเสียงข้อมูลความน่าเชื่อถือทางสถิติ โดยปกติแล้วข้อมูลไม่เพียงพอมีความ
พร้อมสำหรับการวิเคราะห์ทางสถิติที่ถูกต้องและเทคนิคเหล่านี้แล้วต้องอยู่บนพื้นฐาน riskmanagement
เทคนิค การบริหารความเสี่ยงมักจะเกี่ยวข้องกับการพัฒนา "เมทริกซ์" กับ
ความน่าจะเป็นของความล้มเหลวพร้อมแกนและผลที่ตามมาของความล้มเหลว (จากเล็ก ๆ น้อย ๆ กับ
หลัก) พร้อมอีก อุปกรณ์สามารถอยู่ในเมทริกซ์ให้เป็นไปตามที่พวกเขานั่งอยู่บน
แกนแต่ละและอันดับที่ช่วยให้ทรัพยากรที่จะมีการกำหนดเป้าหมายที่รายการความเสี่ยงสูงสุด (เช่นผู้
ที่ทั้งน่าจะเป็นและผลที่ตามมาของความล้มเหลวสูงสุด) เหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง
เทคนิคใด ๆ ที่นำมาใช้ควรจะได้รับการบันทึก (โปรดดูบทที่ 56)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการยอมรับมากขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น เทคโนโลยีนี้นำเสนอสถานการณ์ที่ยาก ถ้าทรัพยากรที่ขาดแคลนจะจัดสรรให้ประจำปีและความปลอดภัยการทดสอบประสิทธิภาพ บางทีเหตุผลบังคับหรือการรับรองแล้วซ่อมค้างอาจจะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่การส่งมอบบริการทางคลินิกจะได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ หากซ่อมงานเพิ่มขึ้น แล้วกิจกรรมบำรุงรักษาจึงทบจะ ลดปัญหาเพื่อใช้งานกับทรัพยากร จำกัด ได้รับการรับรองการปรับเทคนิคต่าง ๆลดความถี่และการทดสอบประสิทธิภาพ และความปลอดภัย เพื่อกำหนดบำรุงรักษาความต้องการมากขึ้นแน่นอน ( fennigkoh และ Smith , 1989 ; fennigkoh lagerman และ ,1997 ; gullikson เดวิดและแบลร์ , 1997 ) เทคนิคเหล่านี้ได้รวมข้อมูลความต้องการการบำรุงรักษาของรายการหรือโปรโตคอลสำหรับเหตุผลส่งเสริมความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทดสอบช่วง เทคนิคเหล่านี้อาศัยทั้งในบางวัดอุปกรณ์ " วิกฤต "การวิเคราะห์ความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือในข้อมูลทางเสียง โดยปกติแล้ว ข้อมูลไม่เพียงพอคือใช้ได้สำหรับการวิเคราะห์ทางสถิติที่ถูกต้องและเทคนิคเหล่านี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับ riskmanagementเทคนิค การบริหารจัดการความเสี่ยงโดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา " Matrix " ด้วยความน่าจะเป็นของความล้มเหลวไปหนึ่งแกน และผลพวงของความล้มเหลว ( จากไมเนอร์ใหญ่ไปอีก อุปกรณ์ที่สามารถวางใน Matrix ตามที่พวกเขานั่งอยู่แต่ละแกนและจัดอันดับให้ทรัพยากรที่เป็นเป้าหมายที่ สูงสุดรายการความเสี่ยง ( เช่น นั้นที่ทั้งความเป็นไปได้และผลของความล้มเหลวมากที่สุด ) เหตุผลเบื้องหลังเทคนิคใด ๆอุปการะควรบันทึกไว้ ( ดูบทที่ 56 )