AbstractThe aim of this study was t

Abstract
The aim of this study was to investigate the dietary and lifestyle factors related to bowel pattern of female high school and college students in Gyeonggi Province. The total of 202 self-administered questionnaires (high school students 77;college students 125) were analyzed. All respondents were devided into four groups based on their self-reported pattern of defecation:18 subjects (9.0%) comprised the normal group, 73 (36.1%) the constipation group, 73 (36.1%) the constipation/diarrhea group, and 38 (18.8%) the diarrhea group. Regularity of exercise was significantly higher in the college students than high school students, and times spending on a chair were longer in the high school students than college students. Most students (72.7%) reported that they had stress. Fourty point six percent of the subjects reported that they had 3 meals per day, which tended to be higher in the normal and diarrhea group than constipation and constipation/diarrhea group. Most students (69.7) skipped breakfast which was lower in the normal group than the other groups. The most preferred dietary fiber food was korean cabbage kimchi. Fifty-eight point four percent of the subjects reported that they had irregular bowel movement. Bowel movement was more irregular in the high school students than college students, and in the constipation group than the other groups. Of the subjects, 77.7% had defecation frequency between three per week and three per day. Those who spent within 10 minutes for defecation were 79.6%, and those had difficulty in evacuating were 76.0%. High school students and those with constipation and constipation/diarrhea had a significantly lower defecation frequency, longer time spent at the toilet, and greater difficulty in evacuating than college students and normal and diarrhea group. The percentage of those who had feelings of residue in the intestine after defecation was 92.5%, and it was greater in the constipation or diarrhea group than in the normal group. Most students (93.5%) reported that they had abdominal pain or discomfort. These results suggest that decreasing times spending on a chair, decreasing stress, keeping 3 meal per day at regular hours, and increasing dietary fiber intake are associated with desirable bowel pattern.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อThe aim of this study was to investigate the dietary and lifestyle factors related to bowel pattern of female high school and college students in Gyeonggi Province. The total of 202 self-administered questionnaires (high school students 77;college students 125) were analyzed. All respondents were devided into four groups based on their self-reported pattern of defecation:18 subjects (9.0%) comprised the normal group, 73 (36.1%) the constipation group, 73 (36.1%) the constipation/diarrhea group, and 38 (18.8%) the diarrhea group. Regularity of exercise was significantly higher in the college students than high school students, and times spending on a chair were longer in the high school students than college students. Most students (72.7%) reported that they had stress. Fourty point six percent of the subjects reported that they had 3 meals per day, which tended to be higher in the normal and diarrhea group than constipation and constipation/diarrhea group. Most students (69.7) skipped breakfast which was lower in the normal group than the other groups. The most preferred dietary fiber food was korean cabbage kimchi. Fifty-eight point four percent of the subjects reported that they had irregular bowel movement. Bowel movement was more irregular in the high school students than college students, and in the constipation group than the other groups. Of the subjects, 77.7% had defecation frequency between three per week and three per day. Those who spent within 10 minutes for defecation were 79.6%, and those had difficulty in evacuating were 76.0%. High school students and those with constipation and constipation/diarrhea had a significantly lower defecation frequency, longer time spent at the toilet, and greater difficulty in evacuating than college students and normal and diarrhea group. The percentage of those who had feelings of residue in the intestine after defecation was 92.5%, and it was greater in the constipation or diarrhea group than in the normal group. Most students (93.5%) reported that they had abdominal pain or discomfort. These results suggest that decreasing times spending on a chair, decreasing stress, keeping 3 meal per day at regular hours, and increasing dietary fiber intake are associated with desirable bowel pattern.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยการบริโภคอาหารและวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบของลำไส้ของโรงเรียนมัธยมและนักศึกษาหญิงในจังหวัดคยองกี รวม 202 ตอบแบบสอบถามด้วยตนเอง (นักเรียนมัธยม 77; นักศึกษา 125) ถูกนำมาวิเคราะห์ ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มตามรูปแบบที่ตนเองรายงานของพวกเขาจากการถ่ายอุจจาระ: 18 คน (9.0%) ประกอบด้วยกลุ่มปกติ 73 (36.1%) กลุ่มอาการท้องผูก, 73 (36.1%) กลุ่มอาการท้องผูก / ท้องเสียและ 38 (18.8%) กลุ่มอาการท้องเสีย ความสม่ำเสมอของการออกกำลังกายอย่างมีนัยสำคัญในนักศึกษากว่านักเรียนโรงเรียนมัธยมและเวลาการใช้จ่ายบนเก้าอี้อีกต่อไปในนักเรียนมัธยมกว่านักเรียนวิทยาลัย นักเรียนส่วนใหญ่ (72.7%) รายงานว่าพวกเขามีความเครียด โฟร์ตี้ไนจุดหกเปอร์เซ็นต์ของอาสาสมัครที่มีการรายงานว่าพวกเขามีอาหาร 3 มื้อต่อวันซึ่งมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในปกติและท้องเสียกว่ากลุ่มอาการท้องผูกและอาการท้องผูก / ท้องเสียกลุ่ม นักเรียนส่วนใหญ่ (69.7) ข้ามอาหารเช้าซึ่งเป็นที่ต่ำกว่าในกลุ่มปกติกว่ากลุ่มอื่น ๆ อาหารเส้นใยที่ต้องการมากที่สุดคืออาหารเกาหลีกิมจิกะหล่ำปลี ห้าสิบแปดจุดสี่เปอร์เซ็นต์ของอาสาสมัครที่มีการรายงานว่าพวกเขามีการเคลื่อนไหวของลำไส้ผิดปกติ การเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นที่ผิดปกติมากขึ้นในเด็กนักเรียนมัธยมกว่านักเรียนวิทยาลัยและในกลุ่มอาการท้องผูกกว่ากลุ่มอื่น ๆ ของอาสาสมัครที่ 77.7% มีความถี่ระหว่างถ่ายอุจจาระต่อสัปดาห์สามและสามต่อวัน บรรดาผู้ที่ใช้เวลาภายใน 10 นาทีสำหรับการถ่ายอุจจาระเป็น 79.6% และผู้ที่มีปัญหาในการอพยพเป็น 76.0% นักเรียนมัธยมและผู้ที่มีอาการท้องผูกและอาการท้องผูก / ท้องเสียมีความถี่ที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญถ่ายอุจจาระเวลานานที่ใช้ในห้องน้ำและความยากลำบากมากขึ้นในการอพยพกว่านักศึกษาและปกติและท้องเสียกลุ่ม ร้อยละของผู้ที่มีความรู้สึกตกค้างในลำไส้หลังจากถ่ายอุจจาระเป็น 92.5% และมันก็เป็นมากขึ้นในอาการท้องผูกหรือท้องเสียกลุ่มกว่าในกลุ่มปกติ นักเรียนส่วนใหญ่ (93.5%) รายงานว่าพวกเขามีอาการปวดท้องหรือไม่สบาย ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้จ่ายลดลงครั้งบนเก้าอี้ลดความเครียด, การเก็บรักษา 3 มื้อต่อวันในเวลาปกติและการเพิ่มปริมาณใยอาหารที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบของลำไส้ที่พึงประสงค์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อจุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริโภคอาหารและวิถีชีวิตแบบลำไส้ของนักเรียนหญิงโรงเรียนมัธยมและวิทยาลัย ในจังหวัดคยองกิ จำนวน 202 แบบสอบถาม ( นักเรียน 77 ; นักศึกษา 125 ) มาวิเคราะห์ ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มตามรูปแบบของการ self-reported 18 คน ( 9.0% ) ประกอบด้วยกลุ่มปกติ , 73 ( 80% ) กลุ่มท้องผูก , 73 ( 80% ) กลุ่มท้องผูก / ท้องร่วง และ 38 ( ร้อยละ 18.8 ) กลุ่มโรคท้องร่วง ความสม่ำเสมอของการออกกำลังกายสูงกว่าในนักศึกษากว่า นักเรียนม.ปลาย และเวลาการใช้จ่ายบนเก้าอี้ได้อีกต่อไปในนักเรียนมัธยมปลายนักเรียนวิทยาลัย นักเรียนส่วนใหญ่ ( รวม ) รายงานว่าพวกเขามีความเครียด 40 จุดหกเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างว่า มี 3 มื้อต่อวัน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในกลุ่มปกติ และอาการท้องร่วงและท้องผูก / ท้องร่วงท้องผูกมากกว่ากลุ่ม นักเรียนส่วนใหญ่ ( และ ) ข้ามอาหารเช้าซึ่งลดลงในกลุ่มปกติมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ที่ต้องการมากที่สุดคือ กิมจิผักกาดขาวอาหารเส้นใยอาหารเกาหลี ห้าสิบแปดจุดสี่เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างว่า มีที่ผิดปกติปวดท้องขี้ การเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นปกติมากขึ้นในนักเรียนมัธยมปลายนักเรียนวิทยาลัยและในกลุ่มท้องผูกมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ของวิชา 77.7% มีความถี่การถ่ายอุจจาระระหว่างสามต่อสัปดาห์และ 3 ต่อวัน ผู้ที่ใช้เวลาภายใน 10 นาที มีการอธิบายถึง และมีความยากลำบากในการอพยพคือ 76.0 % นักเรียนและผู้ที่มีอาการท้องผูกท้องผูก / ท้องร่วงและมีความถี่การลดลงต่อไป เวลาที่ใช้ในส้วม และความยากลำบากมากขึ้นในอพยพกว่านักศึกษากลุ่มปกติ และอาการท้องร่วง ร้อยละของผู้ที่มีความรู้สึกของสารตกค้างในลำไส้หลังจากถ่ายอุจจาระเป็น 92.5% และมันเป็นมากขึ้นในกลุ่มกว่าท้องผูกหรือท้องเสียในกลุ่มปกติ นักเรียนส่วนใหญ่ ( 93.5% ) รายงานว่าพวกเขามีการปวดท้องหรือไม่สบาย . ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การลดเวลาการใช้จ่ายบนเก้าอี้ ลดความเครียด รักษา 3 มื้อต่อวัน ในเวลาปกติ และเพิ่มการบริโภคใยอาหารเกี่ยวข้องกับแบบแผนลำไส้ที่พึงปรารถนา