Relational Identity theory (Shapiro

Relational Identity theory (Shapiro, 2002; Shapiro, 2010b), a model to illuminate key motivational and emotional variables that stimulate constructive or destructive conflict management. I drew upon the theory's practical variantion, the Core Concerns Framework (Fisher and Shapiro,2005),which Roger Fisher and I created after both an extensive review of the relevant scholarly literature and an analysis of the emotional dimensions of our practical experiences as negotiators, mediators, and advisors in real-life negotiations and conflict situations.
To inform development of the framework. We drew on our experiences consulting for world leaders, business
executives and managers, lawyers, doctors, military officers, mental health professionals and patients, academics, and disputing ethnopolitical factions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เชิงทฤษฎีตัวตน (Shapiro, 2002 Shapiro, 2010b), แบบให้แสงสว่างหลักหัด และอารมณ์แปรที่กระตุ้นการจัดการความขัดแย้งที่สร้างสรรค์ หรือทำลาย ฉันวาดตามทฤษฎีการปฏิบัติ variantion หลักความกังวลกรอบ (Fisher และ Shapiro, 2005), ซึ่ง Roger Fisher และสร้างหลังทั้งการทบทวนอย่างละเอียดของ scholarly วรรณคดีที่เกี่ยวข้องและการวิเคราะห์มิติทางอารมณ์ของประสบการณ์ปฏิบัติผู้ อักเสบ และปรึกษาในชีวิตจริงเจรจาและสถานการณ์ความขัดแย้งแจ้งพัฒนาของกรอบ เราดึงประสบการณ์ของเราให้คำปรึกษาสำหรับผู้นำโลก ธุรกิจผู้บริหาร และผู้จัดการ ทนายความ แพทย์ ทหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต และผู้ป่วย นักวิชาการ และโต้แย้งเรื่องฝ่าย ethnopolitical

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สัมพันธ์ทฤษฎีเอกลักษณ์ (ชาปิโรส์ 2002; ชาปิโร, 2010b) ซึ่งเป็นรูปแบบเพื่อเพิ่มความสว่างตัวแปรสร้างแรงบันดาลใจและอารมณ์ที่สำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการจัดการความขัดแย้งที่สร้างสรรค์หรือทำลาย ฉันเข้ามาของทฤษฎีการปฏิบัติ variantion ที่แกนกรอบความกังวล (ฟิชเชอร์และชาปิโรส์, 2005) ซึ่งโรเจอร์ฟิชเชอร์และฉันสร้างขึ้นหลังจากที่ทั้งสองได้ทบทวนวรรณกรรมวิชาการที่เกี่ยวข้องและการวิเคราะห์มิติทางอารมณ์ของประสบการณ์จริงของเราเป็นต่อรอง, ผู้ไกล่เกลี่ยและที่ปรึกษาในการเจรจาในชีวิตจริงและสถานการณ์ความขัดแย้ง.
แจ้งการพัฒนาของกรอบ เราดึงประสบการณ์ของเราให้คำปรึกษาสำหรับผู้นำโลกธุรกิจผู้บริหารและผู้จัดการ, ทนายความ, แพทย์ทหารผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตและผู้ป่วยที่นักวิชาการและการอภิปรายกลุ่ม ethnopolitical

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีเอกลักษณ์เชิงสัมพันธ์ ( Shapiro , 2002 ; Shapiro 2010b ) , รูปแบบการส่องสว่างตัวแปรแรงจูงใจและอารมณ์ที่สำคัญที่กระตุ้นการสร้างสรรค์ หรือทำลาย การจัดการความขัดแย้ง ฉันวาดเมื่อค่าสัมประสิทธิ์ความปฏิบัติของทฤษฎี หลักการ เกี่ยวข้องกับกรอบ ( ฟิชเชอร์และ Shapiro , 2005 )ซึ่ง โรเจอร์ ฟิชเชอร์และฉันสร้างขึ้นหลังจากทั้งกว้างขวางทบทวนเกี่ยวข้องวิชาการวรรณกรรมและการวิเคราะห์มิติอารมณ์ของประสบการณ์ในทางปฏิบัติของเราเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ย , และที่ปรึกษาในการเจรจาจริงและสถานการณ์ความขัดแย้ง .
แจ้งการพัฒนากรอบ เราวาดบนประสบการณ์ของเราเพื่อให้ผู้นำโลก ผู้บริหารธุรกิจ
และผู้จัดการทนายความ , แพทย์ , เจ้าหน้าที่ทหาร มืออาชีพด้านสุขภาพจิตและผู้ป่วย นักวิชาการ และฝ่ายโต้แย้ง ethnopolitical .