This first link, between participat

This first link, between participation and policy outcomes,is a core tenet of much of the scholarly literature and popular thinking about politics. Even political participation at its most passive-the act of voting for elected representatives-has a clear expected link to policy outcomes: we expect that the different candidates and parties for which citizens vote will advocate, pass, and implement different policies. Where voters' preferences differ systematically across groups, and who votes, affects the type of policies that the government implements, including those policies that fundamentally shape the nature of society. For example,scholars expect that sudden increases in participation,such as those brought about by democratization,will have large effects on government policies,including those governing the redistribution of income (e.g., Meltzer and Richard, 1981; Bueno de Mesquita et al. 2003). Changes in participation may not only lead to different policy outcomes, but also, as scholars have argued,more involved democratic participation is likely to lead to superior social outcomes because of participation's role in aggregating information and preferences (e.g., Pateman, 1970; Barber,1984).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แรกการเชื่อมโยงนี้ ระหว่างการมีส่วนร่วมและนโยบายผล เป็นทฤษฎีหลักของวรรณกรรมและการเมืองนิยมคิดมาก กระทำสุดติดตัวลงคะแนนสำหรับการร่วมทางการเมืองแม้แต่เลือกตัวแทน-มีการเชื่อมโยงที่คาดชัดเจนต่อนโยบาย: เราคาดหวังว่า ผู้อื่นและบุคคลสำหรับประชาชนที่ออกเสียงจะสนับสนุน ผ่าน และใช้นโยบายที่แตกต่างกัน ที่กำหนดลักษณะของผู้ลงคะแนนแตกต่างกันอย่างเป็นระบบในกลุ่ม และผู้โหวต มีผลต่อชนิดของนโยบายที่รัฐบาลใช้ รวมถึงนโยบายเหล่านั้นที่พื้นฐานธรรมชาติของสังคม เช่น นักวิชาการคาดว่า เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันร่วม เช่นที่มาจากประชาธิปไตย จะมีผลต่อนโยบายของรัฐบาล รวมถึงควบคุมการกระจายของรายได้ (เช่น Meltzer และริชาร์ด 1981 ใหญ่ Bueno เด Mesquita et al. 2003) การเปลี่ยนแปลงในการเข้าร่วมอาจเพียงทำให้ผลนโยบายแตกต่างกัน แต่ยัง นักวิชาการได้โต้เถียง อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมประชาธิปไตยเป็นแนวโน้มที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางสังคมที่เหนือกว่าเนื่องจากการเข้าร่วมของบทบาทในการรวบรวมข้อมูลและการตั้งค่า (เช่น Pateman, 1970 ร้านตัดผม 1984)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลิงค์นี้เป็นครั้งแรกระหว่างการมีส่วนร่วมและนโยบายผลเป็นหลักทฤษฎีของมากของวรรณกรรมวิชาการและเป็นที่นิยมความคิดเกี่ยวกับการเมือง แม้ส่วนร่วมทางการเมืองในแบบพาสซีฟมากที่สุดการกระทำของการออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งผู้แทน-มีการเชื่อมโยงที่คาดว่าจะชัดเจนไปสู่​​ผลลัพธ์ที่นโยบาย: เราคาดหวังว่าผู้สมัครที่แตกต่างกันและบุคคลที่ประชาชนลงคะแนนเสียงจะสนับสนุนผ่านและดำเนินการตามนโยบายที่แตกต่างกัน ในกรณีที่การตั้งค่าของผู้มีสิทธิเลือกตั้งแตกต่างกันอย่างเป็นระบบในทุกกลุ่มและผู้ที่โหวต, ส่งผลกระทบต่อประเภทของนโยบายที่รัฐบาลดำเนินการรวมถึงนโยบายที่พื้นฐานรูปร่างลักษณะของสังคม ยกตัวอย่างเช่นนักวิชาการคาดหวังว่าการเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในการมีส่วนร่วมเช่นผู้ที่มาเกี่ยวกับความเป็นประชาธิปไตยจะมีผลกระทบอย่างมากต่อนโยบายของรัฐบาลรวมทั้งผู้ปกครองการกระจายของรายได้ (เช่นเมลท์และริชาร์ด, 1981. Bueno de Mesquita et al, 2003 ) การเปลี่ยนแปลงในการมีส่วนร่วมอาจไม่เพียง แต่นำไปสู่​​ผลลัพธ์นโยบายที่แตกต่างกัน แต่ยังเป็นนักวิชาการแย้งส่วนร่วมมากขึ้นการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่​​ผลลัพธ์ทางสังคมที่ดีกว่าเพราะบทบาทการมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลและการตั้งค่า (เช่น Pateman 1970; ตัดผม 1984)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ลิงค์นี้ก่อน ระหว่างการมีส่วนร่วม และนโยบาย ผล เป็นแกนหลักของมากของวรรณกรรมทางวิชาการ และได้รับความนิยมคิดเรื่องการเมือง แม้แต่การมีส่วนร่วมทางการเมืองของเรื่อยๆที่สุดการกระทำลงคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรได้ชัดเจน คาดเชื่อมโยงกับผลนโยบาย : เราคาดหวังว่าผู้สมัครที่แตกต่างกันและพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนโหวตผ่าน และใช้นโยบายที่แตกต่างกัน ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ' การตั้งค่าแตกต่างอย่างเป็นระบบผ่านกลุ่ม และผู้โหวต มีผลต่อชนิดของนโยบายที่ใช้รัฐบาล รวมทั้งนโยบายที่ลึกซึ้ง รูปร่างลักษณะของสังคม ตัวอย่างเช่น นักวิชาการคาดว่า ฉับพลันเพิ่มขึ้นในการมีส่วนร่วม เช่น โดยนำเกี่ยวกับการพัฒนาประชาธิปไตย จะมีผลขนาดใหญ่ในนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งควบคุมการกระจายรายได้ ( เช่น เมลท์เซอร์ริชาร์ด , 1981 ; โน่ เดอ mesquita et al . 2003 ) การเปลี่ยนแปลงในการมีส่วนร่วมอาจไม่เพียง แต่ก่อให้เกิดผล นโยบายที่แตกต่างกัน แต่ยังเป็นนักวิชาการได้ถกเถียงกันมากกว่าการมีส่วนร่วมประชาธิปไตยมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางสังคมที่เหนือกว่า เพราะบทบาทการมีส่วนร่วมในเครือของข้อมูลและการตั้งค่า ( เช่นเพิตเมิน 1970 ; ช่างตัดผม , 1984 )