The use of potentiometry to measure

The use of potentiometry to measure plasma antioxidant capacity to contribute to oxidative stress evaluation
is presented. In this assay, plasma (n = 60) diluted (0.3 to 1 ml) in phosphate buffer, pH 7.4, NaCl
9%, was submitted to potentiometry. A platinum wire was the working electrode and saturated calomel
the reference. The results are presented as the difference between sample and buffer potential (DE). DE
presented a good inverse correlation with added increasing concentrations of ascorbate (2.575 lmol/L;
R = 0.99), urate (9.0150 lmol/L; R = 0.99), and bilirubin (0.7813 lmol/L; R = 0.99). Increase in the
antioxidant capacity decreased DE. Depletion of the antioxidant capacity by tert-butylhydroperoxide
(6.550 lmol/L) presented a direct correlation (0.97) with DE. Furthermore, DE presented an inverse correlation
(R = 0.99) with increased antioxidant capacity of plasma (FRAP) induced by the addition of
ascorbate (2.575 lmol/L). The response of the potentiometric method proved be adequate for measuring
the plasma antioxidant depletion induced by acute exhaustive exercise in rats (control, n = 15; exercised,
n = 15). This exercise decreased the concentration of urate (p < 0.05), decreased FRAP (p < 0.5),
increased TBARS (p < 0.5), and decreased the potentiometer sensor response (p = 6.5  103). These
results demonstrate the adequacy of potentiometry for evaluating the antioxidant capacity of blood
plasma samples

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้การวัดกำลังการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระพลาสม่าจะนำไปสู่การประเมินความเครียดออกซิเดชัน potentiometryมีการนำเสนอ ในการทดสอบนี้ พลาสม่า (n = 60) เจือจาง (0.3 ต่อ 1 มิลลิลิตร) ในฟอสเฟตบัฟเฟอร์ pH 7.4, NaCl9% ถูกส่งไปยัง potentiometry ลวดแพลทินัมเป็นขั้วไฟฟ้าทำงานและ calomel อิ่มตัวการอ้างอิง ผลลัพธ์ได้แสดงเป็นตัวอย่างและบัฟเฟอร์มีศักยภาพ (DE) แตกต่างกัน เดอแสดงความสัมพันธ์ผกผันดีพร้อมเพิ่มความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นของ ascorbate (2.5 75 lmol/LR = 0.99), เกลือยูเรต (9.0 150 lmol/L R = 0.99), และบิลิรูบิน (0.78 13 lmol/L R = 0.99) เพิ่มขึ้นในการกำลังการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระลดลงเดอ การลดลงของกำลังการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระโดย tert-butylhydroperoxide(6.5 50 lmol L) แสดงความสัมพันธ์โดยตรง (0.97) กับเดอ นอกจากนี้ DE แสดงความสัมพันธ์ตัวผกผัน(R = 0.99) กับสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น ของพลาสม่า (FRAP) เกิดจากการเพิ่มascorbate (2.5 75 lmol/L) การตอบสนองของวิธีนชิที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นเพียงพอสำหรับการวัดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระพลาสมาเกิดจากออกกำลังกายที่ครบถ้วนสมบูรณ์เฉียบพลันในหนู (ควบคุม n = 15 สิทธิn = 15) ออกกำลังกายนี้ความเข้มข้นของเกลือยูเรต (p < 0.05) ลดลง ลดลง FRAP (p < 0.5),เพิ่ม TBARS (p < 0.5), และการตอบสนองของเซนเซอร์มิเตอร์ลดลง (p = 6.5 10 3) เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าความเพียงพอของ potentiometry สำหรับการประเมินกำลังการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระของเลือดตัวอย่างพลาสม่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การใช้ potentiometry การวัดสารต้านอนุมูลอิสระพลาสม่าจะนำไปสู่การประเมินความเครียด oxidative
จะนำเสนอ ในการทดสอบนี้พลาสม่า (n = 60) เจือจาง (0.3-1 มล.) ในบัฟเฟอร์ฟอสเฟตพีเอช 7.4, โซเดียมคลอไรด์
9% ถูกส่งไปยัง potentiometry ลวดแพลทินัมเป็นขั้วไฟฟ้าทำงานและไขว้เขวอิ่มตัว
อ้างอิง ผลที่จะได้นำเสนอเป็นความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างและบัฟเฟอร์ที่มีศักยภาพ (DE) DE
นำเสนอความสัมพันธ์ผกผันที่ดีกับการเพิ่มความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นของ ascorbate (2.5 75 lmol / l;?
? r = 0.99) เกลือยูเรต (9.0 150 lmol / l;? r = 0.99) และบิลิรูบิน (0.78 13 lmol / L ; r = 0.99)? การเพิ่มขึ้นของ
สารต้านอนุมูลอิสระลดลง DE พร่องของสารต้านอนุมูลอิสระโดย tert-ไฮโดรเปอร์ออกไซด์
(6.5? 50 lmol / ลิตร) นำเสนอความสัมพันธ์โดยตรง (0.97) กับเด นอกจาก DE นำเสนอความสัมพันธ์ผกผัน
(R = 0.99) มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้นของพลาสม่า (FRAP) ที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของ
ascorbate (2.5? 75 lmol / ลิตร) การตอบสนองของวิธี potentiometric พิสูจน์แล้วว่าจะเพียงพอสำหรับการวัด
การสูญเสียพลาสม่าสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากการออกกำลังกายหมดจดเฉียบพลันในหนู (ควบคุม n = 15; ใช้สิทธิ
n = 15) การออกกำลังกายนี้ลดลงความเข้มข้นของเกลือยูเรต (p <0.05) ลดลง FRAP (p <0.5)
TBARS เพิ่มขึ้น (p <0.5) และลดการตอบสนองเซ็นเซอร์มิเตอร์ (p = 6.5? 10? 3) เหล่านี้
ผลการแสดงให้เห็นถึงความเพียงพอของ potentiometry สำหรับการประเมินความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของเลือด
ตัวอย่างพลาสมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใช้วัดความสามารถของสารต้านอนุมูลอิสระ potentiometry ไปสู่การประเมินภาวะเครียดออกซิเดชันคือแสดง ในการทดสอบนี้ พลาสม่า ( n = 60 ) เจือจาง ( 0.3 1 มล. ) ในฟอสเฟตบัฟเฟอร์ pH 7.4 , เกลือ ,9 เปอร์เซ็นต์ ถูกส่งไปยัง potentiometry . ลวดแพลทินัมเป็นขั้วไฟฟ้าทำงานและอิ่มตัวคาโลเมลอ้างอิง ผลลัพธ์จะแสดงความแตกต่างระหว่างตัวอย่างและบัฟเฟอร์ที่มีศักยภาพ ( de ) เดอนำเสนอดี ตรงกันข้ามความสัมพันธ์กับเพิ่มเพิ่มความเข้มข้นของ ascorbate ( 2.725 lmol / ล.R = 0.99 ) , เกลือยูเรต ( 9.0150 lmol / L ; r = 0.99 ) และบิลิรูบิน ( 0.7813 lmol / L ; r = 0.99 ) เพิ่มในสารต้านอนุมูลอิสระลดการปฏิเสธของความจุ โดย tert butylhydroperoxide สารต้านอนุมูลอิสระ( 6.550 lmol / L ) แสดงความสัมพันธ์โดยตรง ( 0.97 ) . นอกจากนี้ เดอาเสนอความสัมพันธ์ผกผัน( r = 0.99 ) กับสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นความสามารถของพลาสมา ( VDO ) ชักนำโดยนอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลง ( 2.725 lmol / L ) การตอบสนองของวิธีการวัดวิธีพิสูจน์เพียงพอพลาสมากระตุ้นด้วยการออกกำลังกายต้านการหมดแรงเฉียบพลันในหนูขาว ( การควบคุม , N = 15 ; สิทธิn = 15 ) การออกกำลังกายนี้ลดความเข้มข้นของเกลือยูเรต ( P < 0.05 ) , VDO ลดลง ( P > 0.05 )ปกติเพิ่มขึ้น ( P > 0.05 ) และเมื่อ Potentiometer เซ็นเซอร์การตอบสนอง ( P = 6.5 103 ) เหล่านี้ผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นถึงความเพียงพอของ potentiometry สำหรับประเมินความสามารถของสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดตัวอย่างพลาสมา