แม้ว่าการซื้อของหรูหรา รถซูเปอร์คาร์ หรือคฤหาสน์ อาจได้รับการยกย่องจากผู้คนทั่วไปแต่มันก็มีข้อเสียในการมีเงินมากเหมือนกันนะ โดยในบทความนี้ เราได้ชี้ข้อเสียของการมีเงินมากเอาไว้ ดังนี้
1. คุณอาจต้องเสียสละบางอย่าง
ในระหว่างที่คุณทุ่มเทในด้านการหาเงิน คุณก็อาจละเลยในด้านความสัมพันธ์ โอกาสการเติบโตในอนาคต ประสบการณ์ หรือหมดไฟในความฝันบางอย่างที่คุณอาจเคยวาดฝันไว้ ดังนั้น หากความมั่งคงสามารถทดแทนสิ่งที่คุณไม่สามารถทำได้ ผลที่ได้นั้นอาจจะไม่คุ้มค่านัก
2. คนอื่นอาจมองคุณเป็นคนกระหื่นกระหาย บ้างานเกินไปหรือขี้อวด
การที่คุณทำงานและใช้เงินซื้อของฟุ่มเฟือยนั้น คนอื่นอาจมองคุณเป็นคนบ้าวัตถุนิยมหรือขี้อวด เคยมีคำกล่าวโบราณกล่าวว่า ความสำเร็จของคุณอาจแลกมาซึ่งน้ำตาของอีกคนหนึ่ง และอาจทำให้เกิดความไม่พอใจของคนบางกลุ่ม
3. ความร่ำรวยอาจทำให้คุณหลุดจากสังคมส่วนมาก
ความมั่งคั่งอาจทำให้คนบางกลุ่มมีความรู้สึกเกี่ยวกับคุณต่างจากเดิม โดยอาจรู้สึกว่าคุณดีกว่าและเริ่มจะเข้าถึงยาก ดังนั้น ความร่ำรวยบางครั้งอาจนำมาซึ่งความโดดเดี่ยว
4. เพื่อนและครอบครัวประพฤติกับคุณแตกต่างออกไป
โดยอาจมีการขอยืมเงินกู้ หรือตั้งความคาดหวังเกี่ยวกับของขวัญที่คุณจะให้ต่างจากเดิม หรือถ้าไปนั่งทานอาหารที่ภัตตาคาร หากคุณจะไม่เป็นคนจ่ายก็อาจจะถูกมองว่าขี้ตืด ดังนั้น อาจเป็นการยากที่จะตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นของคนในครอบครัวและเพื่อนหากคุณเริ่มร่ำรวยขึ้น
5. เงินอาจทำให้จุดมุ่งหมายของคุณเปลี่ยนไป
ต้องเริ่มถามตัวเองว่า คุณจะเป็นเจ้าของเงิน หรือเงินจะเป็นเจ้าของคุณ คุณจะทำงานเพื่อเงิน หรือให้เงินทำงานให้คุณ เมื่อถึงจุดหนึ่งความมั่งคั่งอาจเริ่มครอบงำชีวิตคุณ ทำให้คุณละเลยสถานภาพบางอย่าง อาทิ ความสัมพันธ์ และสุขภาพออกไป
6. เงินกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจ
เมื่อคุณร่ำรวย คุณอาจใช้เงินเพื่อซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย เช่นคฤหาสน์หรู หรือรถซูเปอร์คาร์เพื่อที่จะใช้เป็นจุดดึงดูดความสนใจคนอื่น แต่หากเมื่อไรที่คุณไม่ใช้เงินซื้อของพรีเมียมเหล่านั้นเช่นจัดปาร์ตี้เล็กๆ คุณอาจรู้สึกด้อยลงก็ได้
7. ลูกๆของคุณไม่เห็นค่าของเงิน
การเติบโตมาในสภาพที่พ่อแม่ร่ำรวยแล้วและเติบโตอย่างสบายจะทำให้เด็กอาจไม่เห็นค่าของเงิน และเป้าหมายในชีวิตมากนัก เด็กอาจรู้ว่าเขาควรที่จะทำงานอย่างหนักเพื่อประสบความสำเร็จ แต่ด้วยเงินที่มากอยู่แล้วจึงไม่พัฒนาทักษะของเขา
8. คุณจะแวดล้อมด้วยคนที่หวังผลประโยชน์จากคุณ
เมื่อคุณร่ำรวย มันจะเริ่มยากที่คุณจะแยกแยะว่าคนไหนดีกับคุณจริงๆหรือหวังผลประโยชน์ของคุณ โดยเฉพาะหากยังไม่ได้แต่งงาน การเลือกคู่ครองในลักษณะนี้อาจยากมากขึ้น
9. ของที่คุณเคยอยากได้เริ่มหมดคุณค่าไป
แต่ก่อนที่คุณยังไม่มีเงิน คุณอาจต้องทำงานหนักและทุ่มเทเพื่อให้ได้เงินและตอบสนองความต้องการของคุณหากประสบความสำเร็จ แต่เมื่อรวยแล้ว และสามารถซื้อทุกสิ่งได้ ดังนั้น ของทุกอย่างอาจดูไร้ค่าไปเป้าหมายที่จะทำงานหนักก็อาจจะเริ่มจางลง
10. คุณเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับคนที่รวยกว่า
ต่อให้คุณร่ำรวยอย่างไร ก็จะมีคนที่รวยกว่าคุณอยู่ดี ดังนั้น หากคุณเริ่มมั่งคั่งแล้วอาจทำให้คุณกังวลและเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นก่อให้เกิดความเครียดตามมา
11. เป้าหมายในชีวิตเริ่มหลุดลอยหายไป
คนส่วนมากใช้เงินเป็นแรงขับดันในการทำงานอย่างหนัก แต่หากคุณมีเงินแล้ว แรงขับดันในส่วนนี้อาจหายไปทำให้คุณเคว้งว่าจะต้องทำอะไรต่อไปดี
12. ท้ายที่สุดแล้วเงินก็ไม่สามารถเปลี่ยนสภาพจิตใจของคุณได้อยู่ดี
เงินอาจซื้อความสบายได้ แต่ความสบายอาจไม่ทำให้คุณมีความสุข คนมีความสุขต่อให้รวยก็มีความสุข แต่หากเป็นคนอมทุกข์ต่อให้รวยก็ยังคงทุกข์อยู่