The association of France with fash

The association of France with fashion and style (French: la mode) is widely credited as beginning during the reign of Louis XIV [3] when the luxury goods industries in France came increasingly under royal control and the French royal court became, arguably, the arbiter of taste and style in Europe. The rise in prominence of French fashion was linked to the creation of the fashion press in the early 1670s (due in large part to Jean Donneau de Visé) which transformed the fashion industry by marketing designs to a broad public outside the French court[4] and by popularizing notions such as the fashion "season" and changing styles.[5] Louis XIV notably introduced one of the most noticeable feature of the men's costume of the time : the immense wigs of curled hair.[6] A commonly held belief is that Louis XIV started to wear wigs due to balding, and to imitate this his courtiers put on false hair.[6] The wearing of wigs lasted for over a century; they went through many changes, but they were never quite so exaggerated as during this period.[6]

The extravagant styles of the French Royal court wracked enormous debts to keep up its pace, at the peasant’s expense. Such fashion sprees notably ruined Marie Antoinette’s reputation, and were one of the many factors paving the way for the French Revolution.[6]

The Sans-culottes (lit. “Without knee-breeches”) rejected the powdered wigs and the knee-breeches assimilated to the nobility and favored informal styles (full-length trousers, and natural hairs...), which finally triumphed over the brocades, lace, periwig, and powder of the earlier eighteenth century.

After the fall of the Jacobins and their Sans-culottes supporters, the supporters of the Thermidorian Reaction were known as the Incroyables and Merveilleuses. They scandalized Paris with their extravagant clothes. The Merveilleuses wore dresses and tunics modeled after the ancient Greeks and Romans, cut of light or even transparent linen and gauze. Sometimes so revealing they were termed "woven air", many gowns displayed cleavage and were too tight to allow pockets. To carry even a handkerchief, the ladies had to use small bags known as reticules.[7] They were fond of wigs, often choosing blonde because the Paris Commune had banned blond wigs, but they also wore them in black, blue, and green. Enormous hats, short curls like those on Roman busts, and Greek-style sandals were the rage. The sandals were tied above the ankle with crossed ribbons or strings of pearls. Exotic and expensive scents fabricated by perfume houses like Parfums Lubin were worn as both for style and as indicators of social station. Thérésa Tallien, known as "Our Lady of Thermidor", wore expensive rings on the toes of her bare feet and gold circlets on her legs.


Thérésa Tallien, a leading Merveilleuse
The Incroyables wore eccentric outfits: large earrings, green jackets, wide trousers, huge neckties, thick glasses, and hats topped by "dog ears", their hair falling on their ears. Their musk-based fragrances earned them too the derogatory nickname muscadins among the lower classes, already applied to a wide group of anti-jacobins (see above). They wore bicorne hats and carried bludgeons, which they referred to as their "executive power." Hair was often shoulder-length, sometimes pulled up in the back with a comb to imitate the hairstyles of the condemned. Some sported large monocles, and they frequently affected a lisp and sometimes a stooped hunchbacked posture.

In addition to Madame Tallien, famous Merveilleuses included Anne Françoise Elizabeth Lange, Jeanne Françoise Julie Adélaïde Récamier, and two very popular Créoles: Fortunée Hamelin and Hortense de Beauharnais. Hortense, a daughter of the Empress Josephine, married Louis Bonaparte and became the mother of Napoleon III. Fortunée was not born rich, but she became famous for her salons and her string of prominent lovers. Parisian society compared Germaine de Staël and Mme Raguet to Minerva and Juno and named their garments for Roman deities: gowns were styled Flora or Diana, and tunics were styled à la Ceres or Minerva.[8]

The leading Incroyable, Paul François Jean Nicolas, vicomte de Barras, was one of the five Directors who ran the Republic of France and gave the period its name. He hosted luxurious feasts attended by royalists, repentant Jacobins, ladies, and courtesans. Since divorce was now legal, sexuality was looser than in the past. However, de Barras' reputation for immorality may have been a factor in his later overthrow, a coup that brought the French Consulate to power and paved the way for Napoleon Bonaparte.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมาคมฝรั่งเศสกับแฟชั่นและสไตล์ (ฝรั่งเศส: la โหมด) เครดิตอย่างกว้างขวางเป็นการเริ่มต้นในรัชสมัยของ Louis XIV [3] เมื่ออุตสาหกรรมสินค้าหรูในฝรั่งเศสมาเรื่อย ๆ ภายใต้การควบคุมของรอยัลรอยัลคอร์ทฝรั่งเศส ว่า เป็นการตัดสินรสนิยมและสไตล์ในยุโรป เพิ่มขึ้นในความโดดเด่นของแฟชั่นฝรั่งเศสถูกเชื่อมโยงกับการสร้างข่าวแฟชั่นใน 1670s ต้น (ครบส่วนใหญ่ Jean Donneau de Visé) ซึ่งแปลงอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยการตลาดให้ประชาชนวงกว้าง นอกศาลฝรั่งเศส [4] และการออกแบบโดย popularizing ความเข้าใจเช่นแฟชั่น "ฤดูกาล" และเปลี่ยนรูปแบบ[5] Louis XIV ยวดแนะนำคุณลักษณะเห็นได้ชัดที่สุดของเครื่องแต่งกายของบุรุษที่หนึ่ง: วิกอันยิ่งใหญ่ของผมที่ม้วนงอ[6] ความเชื่อที่จัดขึ้นโดยทั่วไปคือว่า Louis XIV เริ่มสวมวิกครบหัวล้าน และการเลียนแบบนี้ courtiers ของเขาใส่ผมปลอม[6] สวมวิกกินเวลากว่าศตวรรษ พวกเขาได้เปลี่ยนแปลง แต่พวกเขาก็ไม่เคย exaggerated ค่อนข้างมากเป็นในช่วงเวลานี้[6]ลักษณะแบบของฝรั่งเศสรอยัลคอร์ท wracked หนี้มหาศาลเพื่อติดตามความก้าว ที่ค่าใช้จ่ายของชาวนา Sprees แฟชั่นเช่นยวดเจ๊งแต่เป็นชื่อเสียง และมีหนึ่งในหลายปัจจัยที่ปูทางสำหรับการปฏิวัติฝรั่งเศส[6]Sans-culottes (สว่าง "ไม่ มีเข่ากางเกง") ปฏิเสธการผงวิกและกางเกงเข่าขนบธรรมเนียมประเพณีให้ขุนนาง และชื่นชอบเป็นลักษณะ (ปราศจากกางเกง และเส้นขนธรรมชาติ...), ซึ่งสุดท้าย triumphed brocades ลูกไม้ periwig และผงของศตวรรษ eighteenth ก่อนหน้าหลังจากฤดูใบไม้ร่วง Jacobins และหัวใจของพวกเขา Sans-culottes หัวใจของปฏิกิริยา Thermidorian ถูกเรียกว่า Incroyables และ Merveilleuses พวกเขา scandalized ปารีสกับเสื้อผ้าของโรงแรม Merveilleuses สวมชุด และ tunics จำลองหลังโบราณกรีกและโรม ตัดแสง หรือโปร่งใสแม้แต่ผ้าปู และผ้าพันแผล ดังนั้นบางครั้งเปิดเผยพวกเขาถูกเรียกว่า "เครื่องจักสาน" ในชุดแสดงแนวแตกเรียบ และไม่แน่นเกินไปให้เงินในกระเป๋า การดำเนินการแม้กระทั่งผ้าเช็ดหน้า สาว ๆ ได้ใช้ถุงขนาดเล็กที่เรียกว่า reticules[7] พวกเขาได้ชอบวิก มักเลือกบลอนด์ เพราะโรงแรมคอมมูนปารีสได้ห้ามวิกสีบลอนด์ แต่พวกเขายังสวมพวกเขาในสีดำ สีน้ำเงิน และสีเขียว หมวกขนาดใหญ่ หยิกสั้นบน busts โรมัน และรองเท้าแตะสไตล์กรีกมีความโกรธ รองเท้าแตะถูกมัดเหนือข้อเท้าทุกรุ่นเหล่หรือสายไข่มุก หลังสร้าง โดยบ้านน้ำหอมเช่น Parfums Lubin กลิ่นแปลกใหม่ และมีราคาแพงสวมใส่ทั้งสไตล์ และ เป็นตัวบ่งชี้ของสังคม Thérésa Tallien เรียกว่า "เลดี้ของ Thermidor" สวมแหวนแพงบนเท้าของเท้าเปล่าและ circlets ทองบนขาของเธอของเธอThérésa Tallien, Merveilleuse ชั้นนำIncroyables สวมชุดหลุดโลก: ต่างหูขนาดใหญ่ เสื้อสีเขียว กางเกงกว้าง neckties ใหญ่ แว่นตาหนา และหมวกราด ด้วย "หูสุนัข" ผมของพวกเขาอยู่ในหูของพวกเขา น้ำหอมตามกลิ่นชะมดของพวกเขาได้พวกเขาเกินไป muscadins ชื่อเล่นลดลงในหมู่ชนชั้นล่าง ใช้แล้วทั้งการต่อต้าน-jacobins (ดูข้างต้น) พวกเขาสวมหมวก bicorne และดำเนิน bludgeons ซึ่งพวกเขาเรียกว่า "ผู้บริหารอำนาจ" ผมมักจะมีไหล่ความยาว บางครั้งดึงขึ้นหลังกับหวีเลียนแบบทรงผมของคนที่เกือบ บาง sported monocles ใหญ่ และพวกเขามักได้รับผลกระทบเป็นภาษาลิสป์และบางครั้งมีท่า hunchbacked stoopedนอกจากมาดาม Tallien, Merveilleuses มีชื่อเสียงรวมแอนน์ Françoise เอลิซาเบธแลนจ์ ฌอง Françoise จูลี่ Adélaïde Récamier และ Créoles นิยมมาก 2: Fortunée Hamelin และ Hortense de Beauharnais Hortense ลูกสาวของ Josephine จักรพรรดินี แต่งงานโบนาปาร์ต Louis และกลายเป็น แม่ของนโปเลียน III Fortunée ไม่เกิดรวย แต่เธอก็มีชื่อเสียงสำหรับร้านของเธอและเธอสายรักที่โดดเด่น สังคมรู้สึกเปรียบเทียบ Germaine de Staël และ Mme Raguet กับมิเนอร์ว่าจูโน และชื่อเสื้อผ้าของพวกเขาสำหรับโรมันเทวดา: ชุดมีสไตล์ฟลอร่าหรือไดอาน่า และ tunics ถูกสไตล์àลาเซเรสหรือมิเนอร์ว่า[8]Vicomte Incroyable, Paul François Jean Nicolas นำเดอ Barras เป็นหนึ่งในกรรมการ 5 คนวิ่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และให้ชื่อของรอบระยะเวลา เขาเป็นเจ้าภาพร่วม โดย royalists เรียก Jacobins สุภาพสตรี courtesans feasts หรูหรา ตั้งแต่หย่าตอนนี้ถูกกฎหมาย เพศได้ looser กว่าในอดีต อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของเด Barras ศีลธรรมอาจได้ตัวในเขาหลังล้มล้าง การรัฐประหารที่นำสถานกงสุลฝรั่งเศสอำนาจ และปูทางสำหรับนโปเลียนโบนาปาร์ต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมาคมฝรั่งเศสกับแฟชั่นและสไตล์ (ฝรั่งเศส: ลาโหมด) เป็นเครดิตอย่างกว้างขวางว่าเป็นจุดเริ่มต้นในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ [3] เมื่อหรูหราอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคในประเทศฝรั่งเศสมามากขึ้นภายใต้การควบคุมและพระราชราชสำนักฝรั่งเศสกลายเป็นเนื้อหา ผู้ตัดสินของรสชาติและสไตล์ในยุโรป การเพิ่มขึ้นของความโดดเด่นของแฟชั่นฝรั่งเศสถูกเชื่อมโยงไปสู่การสร้างกดแฟชั่นในยุค 1670 ต้น (เนื่องจากส่วนใหญ่จะ Donneau Jean de Visé) ซึ่งเปลี่ยนอุตสาหกรรมแฟชั่นโดยการออกแบบการตลาดให้กับประชาชนในวงกว้างนอกศาลฝรั่งเศสได้ [4] . และที่นิยมชมชอบความคิดเช่นแฟชั่น "ฤดู" และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ [5] หลุยส์แนะนำสะดุดตาหนึ่งในคุณสมบัติที่เห็นได้ชัดที่สุดของเครื่องแต่งกายของผู้ชายเวลา:. วิกผมอันยิ่งใหญ่ของผมขด [6] ที่จัดขึ้นโดยทั่วไปเชื่อ คือการที่หลุยส์เริ่มต้นที่จะสวมใส่วิกผมเนื่องจากหัวล้านและที่จะเลียนแบบนี้ข้าราชบริพารของเขาวางอยู่บนผมเท็จ [6] สวมวิกผมกินเวลานานกว่าหนึ่งศตวรรษ. พวกเขาเดินผ่านการเปลี่ยนแปลงมาก แต่พวกเขาไม่เคยค่อนข้างเป็นที่พูดเกินจริงในช่วงเวลานี้. [6] รูปแบบฟุ่มเฟือยของศาลรอยัลฝรั่งเศสทรมานหนี้มหาศาลเพื่อให้ก้าวขึ้นของค่าใช้จ่ายของชาวนา แร่ธาตุเช่นแฟชั่นสะดุดตาทำลายชื่อเสียงของอองตัวเนตรีและเป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ปูทางสำหรับการปฏิวัติฝรั่งเศส. [6] Sans-Culottes (จุดนี้ "โดยไม่ต้องกางเกงเข่า") ปฏิเสธวิกผมผงและกางเกงเข่า หลอมรวมเพื่อสังคมชั้นสูงและได้รับการสนับสนุนรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ (กางเกงขายาวเต็มความยาวและขนธรรมชาติ ... ) ซึ่งในที่สุดชัยชนะเหนือ brocades ลูกไม้ periwig และผงก่อนหน้าศตวรรษที่สิบแปด. หลังจากการล่มสลายของ Jacobins และ Sans ของพวกเขา -culottes สนับสนุนผู้สนับสนุนของ Thermidorian ปฏิกิริยาเป็นที่รู้จักกัน Incroyables และ Merveilleuses พวกเขาอื้อฉาวปารีสกับเสื้อผ้าฟุ่มเฟือยของพวกเขา Merveilleuses สวมชุดและเสื้อถ่ายแบบชาวกรีกและโรมันโบราณตัดของแสงหรือแม้กระทั่งผ้าลินินและผ้าโปร่งโปร่งใส บางครั้งเพื่อเผยให้เห็นพวกเขาถูกเรียกว่า "ทออากาศ", ชุดจำนวนมากที่แสดงความแตกแยกและมีความแน่นเกินไปเพื่อให้กระเป๋า เพื่อดำเนินการแม้ผ้าเช็ดหน้าผู้หญิงมีการใช้ถุงเล็ก ๆ ที่รู้จักกันเป็น reticules. [7] พวกเขารักวิกผมมักจะเลือกสีบลอนด์เพราะปารีสคอมมูนห้ามวิกผมสีบลอนด์ แต่พวกเขายังสวมพวกเขาในสีดำ, สีฟ้าและสีเขียว . หมวกมหาศาลหยิกสั้น ๆ เช่นผู้ที่อยู่ในประติมากรรมโรมันและรองเท้าแตะสไตล์กรีกมีความโกรธ รองเท้าแตะถูกมัดเหนือข้อเท้าด้วยริบบิ้นข้ามหรือสตริงของไข่มุก กลิ่นที่แปลกใหม่และมีราคาแพงประดิษฐ์โดยบ้านน้ำหอมเช่น Parfums Lubin ถูกสวมใส่เป็นทั้งสไตล์และเป็นตัวชี้วัดของสถานีสังคม เทเรซ่า Tallien เรียกว่า "พระแม่แห่ง Thermidor" สวมแหวนที่มีราคาแพงบนเท้าของเท้าเปล่าของเธอและ circlets ทองบนขาของเธอ. เทเรซ่า Tallien, ชั้นนำ Merveilleuse Incroyables สวมชุดประหลาด: ต่างหูขนาดใหญ่แจ็คเก็ตสีเขียวกางเกงกว้าง ไทใหญ่, แว่นตาหนาและหมวกยอด "หูสุนัข" ผมของพวกเขาลดลงในหูของพวกเขา กลิ่นหอมที่ใช้ของพวกเขาพวกเขาได้รับมากเกินไป Muscadins ชื่อเล่นเสื่อมเสียในหมู่คนชั้นต่ำ, ใช้แล้วให้กับกลุ่มกว้างของการต่อต้าน Jacobins (ดูด้านบน) พวกเขาสวมหมวก bicorne และที่ทำการดำเนินซึ่งพวกเขาเรียกว่าเป็น "อำนาจบริหาร". ผมมักจะไหล่ความยาวบางครั้งดึงขึ้นในกลับมาพร้อมกับหวีที่จะเลียนแบบทรงผมของประณาม บางคนสวมแว่นขนาดใหญ่และพวกเขามักได้รับผลกระทบเสียงกระเพื่อมและบางครั้งท่าที่หลังค่อมก้ม. นอกจากมาดาม Tallien, Merveilleuses ที่มีชื่อเสียงรวมถึงแอนน์Françoiseลิซาเบ ธ มีเหตุมีผล Jeanne Françoiseจูลี่AdélaïdeRécamierและสองครีโอลเป็นที่นิยมมาก: Fortunée Hamelin และเท็นเดอ Beauharnais . เท็นลูกสาวของคุณหญิงโจเซฟินแต่งงานกับหลุยส์โบนาปาร์และกลายเป็นแม่ของนโปเลียนที่สาม Fortunéeไม่ได้เกิดมารวย แต่เธอก็กลายเป็นที่มีชื่อเสียงสำหรับสนนราคาของเธอและเธอสตริงของคนรักที่โดดเด่น สังคมชาวกรุงปารีสเมื่อเทียบ Germaine เดอStaëlและ Mme Raguet เพื่อศิลปะและจูโนและตั้งชื่อเสื้อผ้าของพวกเขาสำหรับเทพเจ้าโรมัน: ชุดถูกสไตล์ฟลอร่าหรือไดอาน่าและเสื้อถูกสไตล์àลาเซเรสหรือศิลปะ [8]. ชั้นนำอย่างไม่น่าเชื่อพอลฌองฟรองซัวนิโคลัส vicomte บาร์ราเป็นหนึ่งในห้าของกรรมการที่วิ่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสและให้ระยะเวลาที่ชื่อของมัน เขาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงที่หรูหราเข้าร่วมประชุมโดยซาร์, Jacobins กลับใจผู้หญิงและ courtesans ตั้งแต่การหย่าร้างถูกกฎหมายตอนนี้ความสัมพันธ์ทางเพศเป็นโยกกว่าในอดีตที่ผ่านมา แต่ชื่อเสียงของบาร์รา 'สำหรับการผิดศีลธรรมอาจจะเป็นปัจจัยในการล้มล้างของเขาในภายหลังรัฐประหารที่นำกงสุลฝรั่งเศสอำนาจและปูทางสำหรับนโปเลียนมหาราช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมาคมฝรั่งเศสกับแฟชั่นและสไตล์ ( ฝรั่งเศส : la mode ) เป็นอย่างกว้างขวางเครดิต เป็นจุดเริ่มต้นในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 [ 3 ] เมื่อสินค้าหรูหรา ผลิตในฝรั่งเศสมายิ่งขึ้นภายใต้การควบคุมพระราชสำนักฝรั่งเศสกลายเป็นอย่าง ผู้ชี้ขาดรสนิยมและสไตล์ยุโรปเพิ่มขึ้นในความโดดเด่นของแฟชั่นฝรั่งเศสถูกเชื่อมโยงกับการสร้างแฟชั่นกดใน 1650 ก่อน ( เนื่องจากในส่วนที่มีขนาดใหญ่ ฌองเดอวิส donneau é ) ซึ่งแปลงอุตสาหกรรมแฟชั่นโดยการออกแบบการตลาดแก่สาธารณะนอกศาล [ 4 ] และฝรั่งเศสนิยมความคิด เช่น แฟชั่น " ฤดูกาล " และการเปลี่ยนแปลง ลักษณะ[ 5 ] Louis XIV ยวดแนะนำหนึ่งในคุณสมบัติที่เห็นได้ชัดที่สุดของผู้ชายเป็นชุดของเวลา : วิกอันยิ่งใหญ่ของม้วนผม [ 6 ] มักถือความเชื่อคือ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ก็เริ่มใส่วิก เพราะผมบาง และเลียนแบบนี้ของเขา ข้าราชบริพาร ใส่วิกผม [ 6 ] ใส่ วิกผม เป็นเวลากว่าศตวรรษ พวกเขาได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายแต่พวกเขาไม่เคยค่อนข้างเว่อร์ไปแล้ว เช่น ในช่วงระยะเวลานี้ [ 6 ]

ลักษณะฟุ่มเฟือยของราชสำนักฝรั่งเศส wracked หนี้สินมหาศาลเพื่อให้ทันก้าวของมัน ที่เป็นชาวนา ค่าใช้จ่าย โดยแฟชั่นดังกล่าวทำลายชื่อเสียง sprees มารี อังตัวเนตต์ และเป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ปูทางสำหรับการปฏิวัติฝรั่งเศส [ 6 ]

พร้อมกับชุดกางเกงขาสั้น ( ไฟ" ไม่มีกางเกง " เข่า ) ปฏิเสธวิกผงและกางเกงขาสั้นยาวแค่หัวเข่าเหมือนชนชั้นสูง และชื่นชอบรูปแบบไม่เป็นทางการ ( กางเกง แบบเต็มตัว และผม . . . . . . . ธรรมชาติ ) ซึ่งในที่สุดชัยชนะเหนือ brocades , ลูกไม้ , วิกผม , และผงของเมื่อต้นศตวรรษที่สิบแปด .

หลังจากการล่มสลายของจาโกแบงและ Sans ชุดกางเกงขาสั้นผู้สนับสนุน ,ผู้สนับสนุนของ thermidorian ปฏิกิริยาถูกเรียกว่า incroyables และ merveilleuses . พวกเขาอื้อฉาวปารีสกับเสื้อผ้าของพวกเขาฟุ่มเฟือย การ merveilleuses สวมชุดและเสื้อ modeled หลังจากกรีกและโรมันโบราณ ตัดแสง หรือแม้แต่โปร่งใสผ้าลินินและผ้ากอซ บางครั้งเราจะเห็นพวกเขาถูกเรียกว่า " อากาศ " ทอหลายชุดแสดงแนวแตกเรียบและก็แน่นเพื่อให้กระเป๋า มีแม้กระทั่งผ้าเช็ดหน้า ผู้หญิงต้องใช้กระเป๋าเล็กที่เรียกว่าแข็ง reticules [ 7 ] พวกเขารักวิกผมมักจะเลือกสีบลอนด์เพราะคอมมูนปารีสได้ห้ามผมบลอนด์วิกผม แต่พวกเขายังสวมพวกเขาในสีดำ , สีฟ้าและสีเขียว หมวกใหญ่ ม้วนผมสั้นเหมือนพวกประติมากรรมโรมัน และรองเท้าแตะสไตล์กรีก คือ ความโกรธรองเท้าแตะถูกผูกด้วยริบบิ้นไขว้เหนือข้อเท้าหรือสตริงของไข่มุก กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่แปลกใหม่และประดิษฐ์โดยบ้านเหมือน PARFUMS ป๋วยถูกสวมใส่เป็นทั้งรูปแบบและตัวสถานีสังคม th é r éซา tallien เรียกว่า " เลดี้ของเราของเทอร์มิดอร์ " สวมแหวนราคาแพงบนนิ้วเท้าของเท้าเปล่าของเธอ และทองวงกลมวงเล็กๆ บนขาของเธอ


th é r éซา tallien ผู้นำ merveilleuse
การ incroyables สวมชุดประหลาดขนาดใหญ่ต่างหูสีเขียว , เสื้อ , กางเกงกว้างมาก , ไท , แว่นตาหนา และหมวก ราดด้วย " หู " สุนัข , ผมของพวกเขาลงบนหูของพวกเขา กลิ่นของน้ำหอมที่ได้รับจากพวกเขาด้วยชื่อเล่น muscadins ที่เสื่อมเสียของชนชั้นที่ใช้แล้ว เพื่อป้องกันกลุ่มกว้างของจาโกแบง ( ดูด้านบน ) เขาสวมหมวก bicorne ทุบตีและอุ้ม ,ซึ่งพวกเขาเรียกว่าอำนาจบริหารของพวกเขา " " ผมมักจะยาวประบ่า บางครั้งดึงขึ้นจากทางด้านหลัง ด้วยหวีเลียนแบบทรงผมของนักโทษประหาร บาง sported ซึ่งประกอบขนาดใหญ่ และพวกเขามักกระทบลิ้นและบางครั้งเดินค่อมท่าทาง

นอกจากมาดาม tallien merveilleuses , ที่มีชื่อเสียงรวมแอน ฟร็องซัว ซุลหิจญะฮฺ อลิซาเบธ แลงค์ฌานน์ ฟร็องซัว ซุลหิจญะฮฺ จูลี่ โฆษณาและไต de r é la camier และสองเป็นที่นิยมมากโหลดจาก CR : fortun ออร์และ Hamelin ฮอร์ตินส์ เดอ beauharnais . ฮอร์ตินส์ ลูกสาวของจักรพรรดินีโจเซฟีน แต่งงานกับหลุยส์ โบนาปาร์ต และเป็นแม่ของ Napoleon III fortun é e ไม่ได้เกิดมาร่ำรวย แต่เธอเริ่มมีชื่อเสียงของเธอ salons และสตริงของเธอของคนรักที่โดดเด่นสังคมของกรุงปารีสเมื่อเจอร์เมน de Sta ë l และ Mme raguet กับมิเนอร์ว่า จูโน่ และชื่อของพวกเขาและเสื้อผ้าสำหรับเทพโรมัน : gowns มีสไตล์พฤกษา หรือ ไดอาน่า และเสื้อมีสไตล์ล่าสุด ลา เซเรส หรือ Minerva [ 8 ]

ไม่น่าเชื่อนำ พอล ฟรองซัวส์ ฌอง เดอ barras Nicolas , ท่านไวเค้านท์ เป็นหนึ่งใน 5 กรรมการที่วิ่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และให้ระยะเวลา ของชื่อเขาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงหรูหราเข้าร่วมโดยซาร์กลับเนื้อกลับตัวจาโกแบง , โสเภณีชั้นสูงสุภาพสตรีและ ตั้งแต่หย่าตอนนี้ทางกฎหมาย เพศสัมพันธ์คือ looser กว่าในอดีต อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียง เดอ barras ' สำหรับการอาจเป็นปัจจัยในการล้มล้างในภายหลังของเขา เป็นรัฐประหารที่นำกงศุลฝรั่งเศส เพื่ออำนาจ และปูทางสำหรับนโปเลียน โบนาปาร์ต .