ประเพณีบุญข้าวประดับดิน (บุญเดือนเก

ประเพณีบุญข้าวประดับดิน (บุญเดือนเก้า)

ช่วงเวลา เดือนกันยายน (วันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙)

ความสำคัญ

ประเพณีบุญข้าวประดับดิน เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับสัตว์นรกหรือเปรต

พิธีกรรม ประกอบด้วย
๑. วันแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๙ ชาวบ้านจะเตรียมข้าวต้ม ขนม อาหารคาวหวาน หมาก พลู และบุหรี่ไว้
๒. วันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ชาวบ้านจะไปวัดตั้งแต่เวลาตี ๔ นำสิ่งของที่เตรียมไว้จัดใส่กระทงหรือเย็บเป็นห่อเหมือนข้าวสาก แล้ววางแจกตามบริเวณวัด โดยวางไว้กับพื้นดิน หรือบางคนก็ฝังดิน
๓. ชาวบ้านกลับบ้านเพื่อเตรียมอาหารทำบุญที่วัดอีกทีหนึ่ง เมื่อพระสงฆ์ฉันเช้าเสร็จก็จะเทศน์ฉลองบุญข้าวประดับดิน

สาระ

โบราณท่านเขียนไว้ในหนังสือฉลอง ความว่า "ครั้งที่มหาโมคคัลลาน์แทรกแผ่นดินลงไปเยือนนรก ซึ่งเขากำลังเสวยกรรมอยู่ในแดนต่างๆ พอท่านไปถึงก็บันดาลให้ไฟนรกดับ สัตว์นรกก็ไม่ได้เสวยกรรม พอท่านจะกลับมายังโลกมนุษย์พวกสัตว์นรกได้สั่งท่านให้มาบอกญาติพี่น้องทางโลกได้ทราบ และทำทานอุทิศส่วนกุศลไปให้บ้าง เมื่อพระโมคคัลลาน์กลับมาถึงชมพูทวีปก็ประกาศข่าวนี้ให้ประชาชนทราบ ซึ่งวันนั้นตรงกับวันดับเดือนเก้า (วันแรม ๑๕ ค่ำ)จึงถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันทำบุญข้าวประดับดิน"
สาเหตุที่ต้องทำพิธีตั้งแต่เช้ามืดเพราะเชื่อว่าพญายมราชปล่อยผีเปรตให้มีเวลาอยู่บนโลกมนุษย์เพียง ๒ ชั่วโมง จากตี ๔ ถึง ๖ โมงเช้า และที่ต้องวางเครื่องไทยทานไว้กับพื้นดินนั้นเพื่อให้เปรตรับเอาง่ายๆ โดยไม่ต้องมีพิธีรีตอง เดี่ยวจะกลับไม่ทันเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเพณีบุญข้าวประดับดิน (บุญเดือนเก้า)

ช่วงเวลาเดือนกันยายน (วันแรม ๑๔ ค่ำเดือน ๙)

ความสำคัญ

ประเพณีบุญข้าวประดับดินเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วและเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับสัตว์นรกหรือเปรต

พิธีกรรมประกอบด้วย
๑ วันแรม ๑๓ ค่ำเดือน ๙ ชาวบ้านจะเตรียมข้าวต้มขนมอาหารคาวหวานหมากพลูและบุหรี่ไว้
๒ วันแรม ๑๔ ค่ำเดือน ๙ ชาวบ้านจะไปวัดตั้งแต่เวลาตี ๔ นำสิ่งของที่เตรียมไว้จัดใส่กระทงหรือเย็บเป็นห่อเหมือนข้าวสากแล้ววางแจกตามบริเวณวัดโดยวางไว้กับพื้นดินหรือบางคนก็ฝังดิน
๓ ชาวบ้านกลับบ้านเพื่อเตรียมอาหารทำบุญที่วัดอีกทีหนึ่งเมื่อพระสงฆ์ฉันเช้าเสร็จก็จะเทศน์ฉลองบุญข้าวประดับดิน

สาระ

โบราณท่านเขียนไว้ในหนังสือฉลองความว่า "ครั้งที่มหาโมคคัลลาน์แทรกแผ่นดินลงไปเยือนนรกซึ่งเขากำลังเสวยกรรมอยู่ในแดนต่าง ๆ พอท่านไปถึงก็บันดาลให้ไฟนรกดับสัตว์นรกก็ไม่ได้เสวยกรรม จึงถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันทำบุญข้าวประดับดินและทำทานอุทิศส่วนกุศลไปให้บ้างเมื่อพระโมคคัลลาน์กลับมาถึงชมพูทวีปก็ประกาศข่าวนี้ให้ประชาชนทราบซึ่งวันนั้นตรงกับวันดับเดือนเก้า (วันแรม ๑๕ ค่ำ) "
สาเหตุที่ต้องทำพิธีตั้งแต่เช้ามืดเพราะเชื่อว่าพญายมราชปล่อยผีเปรตให้มีเวลาอยู่บนโลกมนุษย์เพียง ๒ ชั่วโมงจากตี ๔ ถึง ๖ โมงเช้าและที่ต้องวางเครื่องไทยทานไว้กับพื้นดินนั้นเพื่อให้เปรตรับเอาง่าย ๆ เดี่ยวจะกลับไม่ทันเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเพณีบุญข้าวประดับดิน ( บุญเดือนเก้า )

ช่วงเวลาเดือนกันยายน ( วันแรม๑๔ค่ำเดือนซ้งโคย )

ความสำคัญ

ประเพณีบุญข้าวประดับดินเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วและเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับสัตว์นรกหรือเปรต

พิธีกรรมประกอบด้วย
๑ .วันแรม๑๓ค่ำเดือนซ้งโคยชาวบ้านจะเตรียมข้าวต้มขนมอาหารคาวหวานหมากพลูและบุหรี่ไว้
๒ .วันแรม๑๔ค่ำเดือนซ้งโคยชาวบ้านจะไปวัดตั้งแต่เวลาตีโตเกียวนำสิ่งของที่เตรียมไว้จัดใส่กระทงหรือเย็บเป็นห่อเหมือนข้าวสากแล้ววางแจกตามบริเวณวัดโดยวางไว้กับพื้นดินหรือบางคนก็ฝังดิน
ล่ะ .ชาวบ้านกลับบ้านเพื่อเตรียมอาหารทำบุญที่วัดอีกทีหนึ่งเมื่อพระสงฆ์ฉันเช้าเสร็จก็จะเทศน์ฉลองบุญข้าวประดับดิน



สาระโบราณท่านเขียนไว้ในหนังสือฉลองความว่า " ครั้งที่มหาโมคคัลลาน์แทรกแผ่นดินลงไปเยือนนรกซึ่งเขากำลังเสวยกรรมอยู่ในแดนต่างๆพอท่านไปถึงก็บันดาลให้ไฟนรกดับสัตว์นรกก็ไม่ได้เสวยกรรมและทำทานอุทิศส่วนกุศลไปให้บ้างเมื่อพระโมคคัลลาน์กลับมาถึงชมพูทวีปก็ประกาศข่าวนี้ให้ประชาชนทราบซึ่งวันนั้นตรงกับวันดับเดือนเก้า ( วันแรม๑๕ค่ำ ) "
จึงถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันทำบุญข้าวประดับดินสาเหตุที่ต้องทำพิธีตั้งแต่เช้ามืดเพราะเชื่อว่าพญายมราชปล่อยผีเปรตให้มีเวลาอยู่บนโลกมนุษย์เพียง๒ชั่วโมงจากตีถึงโมงเช้าและที่ต้องวางเครื่องไทยทานไว้กับพื้นดินนั้นเพื่อให้เปรตรับเอาง่ายๆจากโตเกียวเดี่ยวจะกลับไม่ทันเวลา