Traditionally, corruption in the Ph

Traditionally, corruption in the Philippine Bureau of Customs was so rampant. Today, Filipinos can say that the time has come to appreciate the reforms in public administration. Philippine president, Benigno Aquino III, has made a lot of cleansing in combating corruption in the government including the Bureau of Customs.
Parayno (2013), in his study about combating corruption in the Philippine customs services, mentioned huge customs revenue losses due to corruption. The extent of smuggling in the Philippines is widely believed to go between 12.2% and 53% of recorded imports.
The semiconductor and electronics companies in the Philippines among other significant businesses in the country are required to comply with the regulations of the Bureau of Customs. The regulatory requirements of customs must be considered before importing goods, particularly the regulated ones. The Bureau of Customs is considered as flow in the Philippines. Comes with its mandate is its likelihood of falling into corruption. If this bureau does not have red tapes, there will be direct benefits to the Philippine economy such as more revenues from import goods, proper allocation of customs resources leading to better cost usage, and ease of doing business thus attracting more investors in the country and therefore creating more jobs for Filipinos.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเพณีการทุจริตในสำนักงานศุลกากรของฟิลิปปินส์กำลังอาละวาดดังนั้น วันนี้ชาวฟิลิปปินส์สามารถพูดได้ว่าเวลาที่มีมาชื่นชมการปฏิรูปในการบริหารราชการ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ Benigno Aquino III ได้ทำมากของการทำความสะอาดในการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐรวมทั้งสำนักงานศุลกากร.
Parayno (2013) ในการศึกษาของเขาเกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริตในฟิลิปปินส์บริการศุลกากรกล่าวถึงการสูญเสียรายได้ศุลกากรใหญ่เนื่องจากการทุจริต . ขอบเขตของการลักลอบนำเข้าในประเทศฟิลิปปินส์เป็นที่เชื่อกันไประหว่าง 12.2% และ 53% ของการนำเข้าบันทึก.
บริษัท เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศฟิลิปปินส์ในธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญอื่น ๆ ในประเทศจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสำนักศุลกากร ข้อกำหนดของศุลกากรจะต้องพิจารณาก่อนที่จะนำเข้าสินค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีการควบคุม สำนักศุลกากรเป็นที่ยอมรับว่าเป็นกระแสในประเทศฟิลิปปินส์ มาพร้อมกับคำสั่งของมันคือความน่าจะเป็นของการตกอยู่ในการทุจริต หากสำนักนี้ไม่ได้มีเทปสีแดงจะมีประโยชน์โดยตรงต่อเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์เช่นรายได้มากขึ้นจากสินค้านำเข้า, การจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสมของศุลกากรที่นำไปสู่การใช้งานที่ดีกว่าค่าใช้จ่ายและความสะดวกในการทำธุรกิจจึงดึงดูดนักลงทุนมากขึ้นในประเทศและ ดังนั้นการสร้างงานมากขึ้นสำหรับชาวฟิลิปปินส์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเพณี , การทุจริตในสำนักงานของศุลกากรก็อาละวาด วันนี้ ชาวฟิลิปปินส์ที่สามารถพูดได้ว่าเวลาที่มีมาเพื่อชื่นชมในการปฏิรูปการบริหาร ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เบนิกโน อากีโนที่ 3 , มีมากของการล้างหน้าในต่อต้านการคอร์รัปชั่นในรัฐบาล รวมทั้งสำนักศุลกากร .
parayno ( 2013 )ในการศึกษาเกี่ยวกับการต่อต้านการคอร์รัปชั่นในฟิลิปปินส์บริการศุลกากร ศุลกากรกล่าวถึงขนาดใหญ่รายได้ขาดทุนเนื่องจากการทุจริต ขอบเขตของการลักลอบนำเข้าในฟิลิปปินส์เป็นที่เชื่อกันเพื่อไประหว่าง 12.2 % และร้อยละ 53 ของบันทึก
นำเข้าเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทใน ประเทศฟิลิปปินส์ ในหมู่อื่น ๆที่มีธุรกิจในประเทศจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสำนักงานศุลกากร โดยข้อกำหนดของศุลกากรที่ต้องพิจารณาก่อนการนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะการควบคุมคน สำนักศุลกากร ถือเป็นการไหลในฟิลิปปินส์มาด้วยอาณัติของความน่าจะเป็นของการล้มลงในการทุจริต ถ้าสำนักนี้ไม่มีเทปสีแดง จะมีประโยชน์โดยตรงต่อเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ เช่น รายได้จากการนำเข้าสินค้า การจัดสรรที่เหมาะสมของทรัพยากรที่นำไปสู่การศุลกากรขึ้นค่าใช้จ่ายและความสะดวกในการทำธุรกิจจึงดึงดูดมาก นักลงทุนในประเทศ ดังนั้น การสร้างงานมากขึ้นสำหรับฟิลิปปินส์