AbstractOne of the problems in impr

Abstract
One of the problems in improving process of the schools is “cynicism”. Cynicism is an attitude in which individual benefits are the foreground and is described as scepticism, negativism and being pessimistic about facts. In schools, what is expected from the school principals is to realize the change and mutation depending on the improvements. Leadership is a process that manages people affecting towards organizational aims. Leadership has two dimensions: to organize a structure and tolerance in organization (culture and climate). In this study, it is tried to determine correlations between teacher's organizational cynicism and leadership skills of school principals. The analysis of the data was made by using SPSS 15.0 and in order to determine whether some demographic features (e.g., sex, marital status, educational status) show a meaningful difference on the lower dimensions of organizational cynicism and leadership behaviour, tests were used; and a meaningful difference was not observed. Furthermore, Pearson correlation and regression analysis were used to measure the level of relation and being predictable between the organizational cynicism and lower dimensions of leadership behaviour. In accordance with the result of the research's findings, it was found a negatively directed and medium-level relation between cynicism and leadership behaviour.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อปัญหาในการปรับปรุงกระบวนการของโรงเรียนอย่างใดอย่างหนึ่งคือ "ทำ" ทำเป็นเป็นทัศนคติที่แต่ละประโยชน์อยู่เบื้องหน้า และเป็นอธิบาย scepticism, negativism และถูกในเชิงลบเกี่ยวกับข้อเท็จจริง ในโรงเรียน ที่ต้องการออกแบบโรงเรียนได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงและการกลายพันธุ์ขึ้นอยู่กับการปรับปรุง ภาวะผู้นำเป็นกระบวนการที่จัดการกับคนที่กระทบต่อเป้าหมายขององค์กร ภาวะผู้นำมีสองมิติ: การจัดระเบียบโครงสร้างและยอมรับในองค์กร (วัฒนธรรมและสภาพภูมิอากาศ) ในการศึกษานี้ มันจะพยายามกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานของครูและการฝึกของโรงเรียนหลัก ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรม 15.0 และเพื่อกำหนดว่า คุณลักษณะบางอย่างประชากร (เช่น เพศ สถานภาพการสมรส สถานะการศึกษา) แสดงความแตกต่างมีความหมายในมิติต่ำกว่าทำงานและพฤติกรรมความเป็นผู้นำ การทดสอบได้ ใช้ และไม่ได้สังเกตความแตกต่างความหมาย นอกจากนี้ วิเคราะห์ถดถอยและสหสัมพันธ์ของเพียร์สันได้ใช้วัดระดับของความสัมพันธ์และการได้ระหว่างทำงานและมิติด้านล่างของพฤติกรรมความเป็นผู้นำ ตามผลการวิจัยพบ พบส่งผลเสียโดยตรง และ ระดับปานกลางความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมผู้นำและทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
หนึ่งปัญหาในการปรับปรุงกระบวนการของโรงเรียนคือ "มนุษย์" มนุษย์เป็นทัศนคติในการที่ผลประโยชน์ของแต่ละบุคคลเป็นเบื้องหน้าและอธิบายว่าเป็นความสงสัย negativism และเป็นในแง่ร้ายเกี่ยวกับข้อเท็จจริง ในโรงเรียนสิ่งที่คาดหวังจากผู้บริหารโรงเรียนคือการตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงและการกลายพันธุ์ขึ้นอยู่กับการปรับปรุง ความเป็นผู้นำเป็นกระบวนการที่จัดการคนที่มีผลกระทบต่อจุดมุ่งหมายขององค์กร ความเป็นผู้นำมีสองมิติ: การจัดระเบียบโครงสร้างและความอดทนในองค์กร (วัฒนธรรมและภูมิอากาศ) ในการศึกษานี้ก็จะพยายามที่จะตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ขององค์กรของครูและทักษะความเป็นผู้นำของผู้บริหารโรงเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้โปรแกรม SPSS 15.0 และเพื่อที่จะตรวจสอบว่ามีคุณสมบัติที่ประชากรศาสตร์ (เช่นเพศสถานภาพสมรสสถานภาพการศึกษา) แสดงความแตกต่างที่มีความหมายในมิติที่ต่ำกว่าของมนุษย์ขององค์กรและพฤติกรรมความเป็นผู้นำการทดสอบถูกนำมาใช้; และความแตกต่างที่มีความหมายก็ไม่ได้สังเกต นอกจากนี้ความสัมพันธ์เพียร์สันและการวิเคราะห์การถดถอยถูกนำมาใช้ในการวัดระดับของความสัมพันธ์และเป็นที่คาดการณ์ระหว่างมนุษย์ขององค์กรและขนาดที่ต่ำกว่าของพฤติกรรมความเป็นผู้นำ สอดคล้องกับผลจากผลการวิจัยของมันก็พบกำกับในเชิงลบและความสัมพันธ์ระดับกลางระหว่างมนุษย์และพฤติกรรมความเป็นผู้นำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
หนึ่งปัญหาในการปรับปรุงกระบวนการของโรงเรียนคือ " ความเห็นถากถางดูถูก " ความเห็นถากถางดูถูกเป็นทัศนคติที่เป็นประโยชน์บุคคลเบื้องหน้าและอธิบายว่า ความสงสัยและการมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับการคัดค้าน , ข้อเท็จจริง ในโรงเรียน สิ่งที่คาดหวังจากผู้บริหารคือการตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับการปรับปรุงภาวะผู้นำเป็นกระบวนการที่จัดการคนมีผลต่อองค์กรมีจุดมุ่งหมาย ความเป็นผู้นำด้านการจัดระเบียบโครงสร้างและความอดทนในองค์กร ( วัฒนธรรมและสภาพภูมิอากาศ ) ในการศึกษาครั้งนี้ คือ พยายามศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างครูกับความเห็นถากถางดูถูกและทักษะความเป็นผู้นำของผู้บริหารโรงเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลทำโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS 150 และเพื่อตรวจสอบว่า ประชากรบางคุณสมบัติ ( เช่น เพศ สถานภาพสมรส สถานภาพการศึกษาแสดงความแตกต่างที่มีความหมายในมิติขององค์กร และลดความเห็นถากถางดูถูกพฤติกรรมภาวะผู้นำ แบบที่ใช้ และความแตกต่างที่มีความหมายก็ไม่ได้สังเกต นอกจากนี้หาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันและการวิเคราะห์ที่ใช้ในการวัดระดับของความสัมพันธ์ และเป็นแบบฉบับ ระหว่างองค์กร และด้านล่างของความเห็นถากถางดูถูกพฤติกรรมภาวะผู้นำ ตามผลของการวิจัย พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างระดับกลางในกำกับและความเห็นถากถางดูถูกและพฤติกรรมภาวะผู้นำ