Pigs are an ideal model for vaccine

Pigs are an ideal model for vaccine research. They are relatively
cheap and because of their size can be housed in large groups in
standard animal isolation rooms. They do not require special
handling facilities, and can be routinely bled and immunized using
well-established standard procedures. Vaccines can be administered
either intramuscularly, subcutaneously, intradermally, orally
or intranasally. In addition, more advanced methods of administration
such as needle-free injectors, gene-guns and microneedles
have been successfully used in pigs. As described earlier, pigs offer
easy access to the various immune compartments including
systemic and mucosal lymphoid tissues. Compared to mice, large
numbers of immune cells can be isolated from each of these
compartments and used for various immune assays. Depending on
the age and breed, this can vary significantly. In addition, secretions
such as saliva, nasal secretions, urine and feces can be easily
collected and assessed for the presence of secretory IgA, IgM and
IgG. Furthermore, pigs offer the advantage of the ability to test
vaccines in an outbred population, and thus allow a more accurate
assessment of the efficacy of potential human vaccines. Pigs have
an epitheliochorial placentation, which means that there is no
transplacental transfer of antibodies or larger molecules during
gestation. Thus, the neonate depends on passively transferred
immunity via colostrum and milk, which includes antibodies,
proteins and immune cells. Maternal immunization is a common
practice in the swine industry, and both colostrum and milk can be
collected from the lactating sow. The litter size in domestic pigs is
about 10–12 piglets per litter. Interestingly, during the first 7 days,
piglets can be exchanged between litters, and vaccines can therefore
be tested in the presence or absence of maternal antibodies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบจำลองที่เหมาะสำหรับการวิจัยวัคซีนสุกรได้ พวกเขาจะค่อนข้างสามารถเอนราคา และขนาดของพวกเขาในกลุ่มใหญ่ห้องแยกสัตว์มาตรฐาน ไม่ต้องพิเศษการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก และสามารถเป็นประจำคราวที่แล้ว immunized ใช้กระบวนการมาตรฐานดีขึ้น สามารถบริหารค่าวัคซีนทั้งเข้ากล้ามเนื้อ subcutaneously, intradermally เนื้อหาหรือ intranasally นอกจากนี้ เพิ่มเติมขั้นสูงวิธีการจัดการเช่นฟรีเข็ม injectors ยีนปืน และ microneedlesสำเร็จใช้ในสุกร ตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ สุกรมีถึงช่องภูมิคุ้มกันต่าง ๆ รวมทั้งระบบ และ mucosal lymphoid เนื้อเยื่อ เมื่อเทียบกับหนู ขนาดใหญ่จำนวนเซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถแยกต่างหากจากของเหล่านี้ช่อง และใช้สำหรับ assays ต่าง ๆ ภูมิคุ้มกัน ขึ้นอยู่กับอายุและสายพันธุ์ ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ หลั่งเช่นน้ำลาย โพรงจมูก หลั่ง ปัสสาวะ และอุจจาระได้ง่ายรวบรวม และประเมินสถานะของอิกะ secretory ระบาดของโรค และIgG นอกจากนี้ สุกรมีความได้เปรียบของความสามารถในการทดสอบค่าวัคซีนในประชากรการ outbred จึง อนุญาตให้ถูกต้องมากขึ้นการประเมินประสิทธิภาพของมนุษย์รู้ศักยภาพ สุกรมีการ placentation epitheliochorial ซึ่งหมายความ ว่า ไม่แอนตี้หรือโมเลกุลขนาดใหญ่ระหว่างโอน transplacentalครรภ์ ดังนั้น neonate พึ่ง passively โอนย้ายภูมิคุ้มกันผ่าน colostrum และนม ซึ่งรวมถึงแอนตี้โปรตีนและเซลล์ภูมิคุ้มกัน แม่รับวัคซีนเป็นการทั่วไปสามารถปฏิบัติใน อุตสาหกรรมสุกร และทั้ง colostrum และนมรวบรวมจากการศึกษาเสาขนาดแคร่ในสุกรภายในประเทศเป็นประมาณ 10 – 12 ทรูดต่อแคร่ ในช่วง 7 วันแรก เรื่องน่าสนใจทรูดสามารถแลกเปลี่ยนระหว่าง litters และสามารถรู้ดังนั้นมีทดสอบในสถานะการขาดงานของแอนตี้แม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สุกรมีรูปแบบที่เหมาะสำหรับการวิจัยวัคซีน พวกเขาจะค่อนข้าง
ถูกและเนื่องจากขนาดของพวกเขาสามารถอยู่ในกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ใน
ห้องแยกสัตว์มาตรฐาน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพิเศษ
สิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดการและสามารถนำเลือดเป็นประจำและใช้วัคซีน
ที่ดีขึ้นขั้นตอนมาตรฐาน วัคซีนสามารถบริหาร
กล้ามเนื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง, ใต้ผิวหนัง, ฉีด intradermal, ปากเปล่า
หรือ intranasally นอกจากนี้วิธีการที่สูงขึ้นของการบริหาร
เช่นหัวฉีดเข็มที่ปราศจากยีนปืนและ microneedles
ได้รับการใช้ประสบความสำเร็จในสุกร ตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้หมูให้
ง่ายต่อการเข้าถึงช่องภูมิคุ้มกันต่าง ๆ รวมทั้ง
เนื้อเยื่อน้ำเหลืองระบบและเยื่อเมือก เมื่อเทียบกับหนูที่มีขนาดใหญ่
จำนวนเซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถแยกออกจากแต่ละเหล่านี้
ช่องและใช้สำหรับการตรวจภูมิคุ้มกันต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
อายุและสายพันธุ์นี้สามารถแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมีสารคัดหลั่ง
เช่นน้ำลายน้ำมูกปัสสาวะและอุจจาระได้ง่าย
เก็บรวบรวมและประเมินการปรากฏตัวของหลั่ง IgA, IgM และ
IgG นอกจากหมูมีประโยชน์จากความสามารถในการทดสอบ
วัคซีนในประชากร outbred และจึงอนุญาตให้ถูกต้องมากขึ้น
การประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีศักยภาพของมนุษย์ สุกรมี
placentation epitheliochorial ซึ่งหมายความว่าไม่มี
การถ่ายโอน transplacental ของแอนติบอดีหรือโมเลกุลขนาดใหญ่ในระหว่าง
การตั้งครรภ์ ดังนั้นทารกขึ้นอยู่กับการโอนอดทน
ภูมิคุ้มกันผ่านทางนมน้ำเหลืองและนมซึ่งรวมถึงแอนติบอดี
โปรตีนและเซลล์ภูมิคุ้มกัน การสร้างภูมิคุ้มกันของมารดาที่พบบ่อยคือ
การปฏิบัติในอุตสาหกรรมสุกรและทั้งสองนมน้ำเหลืองและนมสามารถ
เก็บได้จากสุกรให้นมบุตร ขนาดครอกในสุกรในประเทศมี
ประมาณ 10-12 ลูกสุกรต่อครอก ที่น่าสนใจในช่วง 7 วันแรก
ลูกสุกรสามารถแลกเปลี่ยนระหว่างลูกครอกและวัคซีนจึงสามารถ
ได้รับการทดสอบในการมีหรือไม่มีของแอนติบอดีของมารดา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หมูเป็นแบบจำลองที่เหมาะสำหรับการวิจัยวัคซีน พวกเขาจะค่อนข้าง
ราคาถูก และเนื่องจากขนาดของพวกเขาสามารถอยู่ในกลุ่มใหญ่ใน
ห้องแยกสัตว์มาตรฐาน พวกเขาไม่ต้องพิเศษ
การจัดการเครื่อง และสามารถตรวจ และไม่ใช้เบลด
รู้จักขั้นตอนมาตรฐาน วัคซีนสามารถบริหารจัดการทั้งทาง subcutaneously
, ,
intradermally ปากเปล่าหรือ intranasally . นอกจากนี้ วิธีการขั้นสูงเพิ่มเติมการบริหาร
เช่นเข็มหัวฉีดฟรี ปืนจีน เข็มฉีดยาขนาดเล็กด้วย
ได้ใช้ประสบความสำเร็จในสุกร ตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ หมูเสนอ
เข้าถึงช่องต่าง ๆรวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันและเนื้อเยื่อน้ำเหลือง (
. เมื่อเทียบกับหนู ใหญ่
จำนวนเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถแยกได้จากแต่ละเหล่านี้
ช่องและที่ใช้สำหรับตรวจภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับ
อายุและสายพันธุ์นี้จะแตกต่างกันอย่างมาก นอกจากนี้การหลั่งเช่นน้ำลายหลั่งจมูก
, ,
ปัสสาวะและอุจจาระได้ง่ายเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการปรากฏตัวของ secretory IgA IgM และ IgG ,
. นอกจากนี้ หมูมีความได้เปรียบของความสามารถในการทดสอบวัคซีนใน outbred
ประชากร และดังนั้นจึง อนุญาตให้ถูกต้องมากขึ้น
การประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนของมนุษย์ที่มีศักยภาพ หมู
เป็นพลาเซนเทชัน epitheliochorial ซึ่งหมายความว่าไม่มี
โอน transplacental แอนติบอดีหรือโมเลกุลขนาดใหญ่ระหว่าง
ทารก ดังนั้น ทารกขึ้นอยู่กับเฉยๆโอน
ภูมิคุ้มกันผ่านน้ำนมและนมซึ่งมีแอนติบอดี
โปรตีนและเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน . มารดาภูมิคุ้มกันเป็นสามัญ
การปฏิบัติในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร และทั้งน้ำนมและนมสามารถ
เก็บจากระยะหว่าน ขนาดครอกในสุกรภายในประเทศ
ประมาณ 10 – 12 ลูกสุกรต่อครอก . ทั้งนี้ ในช่วง 7 วันแรก
ลูกหมูสามารถแลกเปลี่ยนระหว่าง 1 และวัคซีนจึงสามารถ
ถูกทดสอบในการแสดงตนหรือการขาดของแอนติบอดี