Malthus failed to foresee the Indus

Malthus failed to foresee the Industrial Revolution, and the ways mass production allowed more people to live longer. Ehrlich's calculations missed the coming of the "green revolution," which ac­ celerated food production ahead of the population curve.
The Anthropocene Age, which began with the Industrial Revolution, marks the first geologic epoch in which the activities of one species-we humans-inexorably degrade the handful of global systems that support life on earth.
The Anthropocene represents systems in collision. Human systems for construction, energy, transportation, industry, and commerce daily attack the operation of natural systems like the nitrogen and carbon cycles, the rich dynamics of ecosystems, the availability of usable water, and the like. What's more, within the last fifty years this onslaught has undergone what scientists call the "great acceleration," with atmospheric carbon dioxide concentrations, among other indicators of coming systems crises, increasing at an ever-greater rate.
The human planetary footprint, Ehrlich saw, is a product of three forces: what each of us consumes, how many of us there are, and the methods we deploy to get the stuff we consume. Using those three measures, the United Kingdom's Royal Society tried to estimate the earth's carrying capacity for humanity-the maxi­ mum number of people the earth can support without a collapse in the systems that support life. Their conclusion: it depends.
The biggest unknown in the forecast was improvements in technology. China, for instance, worryingly expanded its capacity for generating electricity from coal-and more recently increased
its u.s,e of solar and wind energy at a rapid rate. Net result: the ratio of C0emitted relative to economic output in China has plummeted by around 70 percent over the last thirty years (although these numbers hide the continuing steep growth in coal-burning power plants in "the world's factory").In short, technological rev­ olutions may save us from ourselves, letting us use resources in ways that protect the planet's vital life-support systems-if we can find methods that don't just create new problems or conceal old ones.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาลธัสไม่สามารถเล็งเห็นการปฏิวัติอุตสาหกรรม และผลิตจำนวนมากวิธีการอนุญาตให้คนอาศัยอยู่อีกต่อไป คำนวณของ Ehrlich พลาดที่มาของการ "กรีปฏิวัติ การผลิตอาหาร celerated ac ก่อนโค้งประชากรธรณีวิทยายุคแรกซึ่งเครื่องแอนโทรโปซีนอายุ ซึ่งเริ่มต้น ด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรม กิจกรรมชนิดหนึ่ง-เรามนุษย์ inexorably ย่อยสลายกำมือของระบบโลกที่สนับสนุนชีวิตบนโลกแอนโทรโปซีนแสดงถึงระบบชน มนุษย์ระบบ การก่อสร้าง พลังงาน ขนส่ง อุตสาหกรรม พาณิชย์โจมตีการทำงานของระบบธรรมชาติเช่นไนโตรเจน และคาร์บอนรอบ เปลี่ยนแปลงที่หลากหลายของระบบนิเวศ พร้อมใช้น้ำ และเช่นทุกวัน แก่ ภายในปี 50 นี้โจมตีมีเปลี่ยนอะไรนักวิทยาศาสตร์เรียกการ "ดีเร่ง กับบรรยากาศคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มข้น ระหว่างตัวบ่งชี้อื่น ๆ ของวิกฤตระบบมา เพิ่มขึ้นในอัตราเคยมากกว่าดาวเคราะห์รอยมนุษย์ Ehrlich เห็น เป็นผลิตภัณฑ์ของกองกำลังสาม: อะไรเราแต่ละคน ใช้ จำนวนของเรามีอยู่ และวิธีที่เราใช้จะได้รับสิ่งเราบริโภค ใช้มาตรการสาม ของสหราชอาณาจักรราชสมาคมแห่งลอนดอนพยายามประเมินความจุของโลกมนุษย์แม็กซี่ mum จำนวนคนโลกสามารถสนับสนุน โดยไม่มีการยุบตัวในระบบที่สนับสนุนชีวิต บทสรุปของพวกเขา: มันขึ้นอยู่กับการไม่ทราบที่ใหญ่ที่สุดในการคาดการณ์ถูกปรับปรุงในเทคโนโลยี จีน เช่น worryingly ขยายกำลังการผลิตของสำหรับการสร้างไฟฟ้าจากถ่านหิน- และเพิ่มมากขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ของ u.s,e ของแสงอาทิตย์ และลมพลังงานในอัตรารวดเร็ว สุทธิผล: อัตราส่วนของ C0emitted เมื่อเทียบกับผลผลิตทางเศรษฐกิจในประเทศจีนได้ลดลงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์สามสิบปี (แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้ซ่อนการเติบโตสูงชันต่อเนื่องในการเผาไหม้ถ่านหินโรงไฟฟ้าใน "โรงงานโลก")ในระยะสั้น olutions เรฟเทคโนโลยีอาจช่วยเราจากตนเอง ให้เราใช้ทรัพยากรที่ปกป้องดาวเคราะห์สำคัญชีวิต–สนับสนุนระบบ-ถ้าเราสามารถหาวิธีการที่ไม่เพียงสร้างปัญหาใหม่ หรือปิดตัวเก่า ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มัลธัสล้มเหลวที่จะเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม และวิธีในการผลิตมวลให้ผู้คนมากขึ้นที่จะอยู่อีกต่อไป ที่สุดของการคำนวนพลาดการมาของ " การปฏิวัติเขียว " ซึ่ง AC อง celerated การผลิตอาหารข้างหน้าของประชากรโค้ง
โจว เจี๋ยหลุน อายุที่เริ่มด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรมนับเป็นครั้งแรกในยุคแร่ซึ่งกิจกรรมของสิ่งมีชีวิต มนุษย์เราไม่ปรานีทำให้หยิบของระบบโลกที่สนับสนุนชีวิตบนโลก โจว เจี๋ยหลุน หมายถึง ระบบ
ในการปะทะกัน ระบบมนุษย์ก่อสร้าง พลังงาน การขนส่ง อุตสาหกรรม และการค้าทุกวัน โจมตีการดำเนินงานของระบบธรรมชาติ เช่น ไนโตรเจน และคาร์บอน รอบพลวัตของระบบนิเวศที่อุดมไปด้วย , ความพร้อมของน้ำที่ใช้งานได้ และชอบ มีอะไรเพิ่มเติมภายในห้าสิบปีก่อนการโจมตีนี้ได้รับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า " อัตราเร่งที่ดี " กับบรรยากาศความเข้มข้นคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างตัวชี้วัดอื่น ๆ ของระบบมาเพื่อเพิ่มในอัตราที่มากกว่าเดิม .
รอยเท้าดาวเคราะห์มนุษย์ที่สุดเห็นเป็นผลิตภัณฑ์ของทั้งสามบังคับ : สิ่งที่เราแต่ละคน ใช้วิธีการที่พวกเราหลายคนมี และวิธีที่เราใช้เพื่อให้ได้สิ่งที่เรากิน ใช้ 3 มาตรการสมาคมสหราชอาณาจักรพยายามประเมินขีดความสามารถของโลกเพื่อมนุษยชาติ Maxi องแม่ผู้แผ่นดินสามารถสนับสนุนโดยไม่ต้องล่มสลายในระบบที่สนับสนุนชีวิต บทสรุปของพวกเขา : มันขึ้นอยู่กับ .
ที่ไม่รู้จักที่ใหญ่ที่สุดในการพยากรณ์ คือ การปรับปรุงเทคโนโลยี จีน , เช่น , worryingly ขยายขีดความสามารถเพื่อผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินและมากขึ้นเมื่อเร็ว ๆนี้เพิ่มขึ้น
ของอเมริกัน , E ของพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในอัตราที่รวดเร็ว สุทธิผล :อัตราส่วนของ c0emitted เมื่อเทียบกับผลผลิตทางเศรษฐกิจในจีนได้ลดลงประมาณร้อยละ 70 ในช่วงสามสิบปี ( แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้ซ่อนต่อการเจริญเติบโตใน coal-burning ชันพืชพลังงานใน " โรงงาน " ของโลก ) ในสั้น , เทคโนโลยี Rev อง olutions อาจบันทึกเราจากตัวเราให้เราได้ใช้ทรัพยากรไปในทางปกป้องดาวเคราะห์ที่สำคัญระบบสนับสนุนชีวิต ถ้าเราสามารถหาวิธีที่ไม่เพียงสร้างปัญหาใหม่หรือปกปิด
คนเก่า