is a measure of the size of an econ

is a measure of the size of an economy. It is defined as "an aggregate measure of production equal to the sum of the gross values added of all resident, institutional units engaged in production (plus any taxes, and minus any subsidies, on products not included in the value of their outputs)" by the OECD.[2]

GDP estimates are commonly used to measure the economic performance of a whole country or region, but can also measure the relative contribution of an industry sector. This is possible because GDP is a measure of 'value added' rather than sales; it adds each firm's value added (the value of its output minus the value of goods that are used up in producing it). For example, a firm buys steel and adds value to it by producing a car; double counting would occur if GDP added together the value of the steel and the value of the car.[3] Because it is based on value added, GDP also increases when an enterprise reduces its use of materials or other resources ('intermediate consumption') to produce the same output.

The more familiar use of GDP estimates is to calculate the growth of the economy from year to year (and recently from quarter to quarter). The pattern of GDP growth is held to indicate the success or failure of economic policy and to determine whether an economy is 'in recession'.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นการวัดขนาดของเศรษฐกิจ มันถูกกำหนดเป็น "วัดผลิตเท่ากับผลรวมของค่ารวมที่รวมเพิ่มของหน่วยทั้งหมดมีถิ่นที่อยู่ สถาบันในการผลิต (บวกภาษีใด ๆ และ ลบเงิน อุดหนุนใด ๆ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่รวมอยู่ในค่าของการแสดงผล)" โดยโอ [2]ประเมิน GDP โดยทั่วไปใช้ในการวัดประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศหรือภูมิภาค แต่ยังสามารถวัดสัดส่วนสัมพัทธ์ของภาคอุตสาหกรรมการ เป็นไปได้เนื่องจาก GDP วัด 'มูลค่าเพิ่ม' มากกว่า ขาย จะเพิ่มแต่ละบริษัทเพิ่มมูลค่า (ค่าของผลลัพธ์ลบด้วยมูลค่าของสินค้าที่จะใช้ในการผลิต) ตัวอย่าง บริษัทซื้อเหล็ก และเพิ่มมูลค่าการผลิตรถ นับสองครั้งจะเกิดขึ้นถ้า GDP เพิ่มค่าเหล็กและค่ารถ [3] เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับมูลค่าเพิ่ม GDP ยังเพิ่มขึ้นเมื่อองค์กรลดการใช้วัสดุหรือทรัพยากรอื่น ๆ ('กลางปริมาณ') จะสร้างผลลัพธ์เดียวกันใช้คุ้นเคยการประเมิน GDP จะคำนวณการเติบโตของเศรษฐกิจไปในแต่ละปี (และล่าสุดไตรมาสเพื่อมาส) มีจัดรูปแบบของเศรษฐกิจ เพื่อบ่งชี้ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของนโยบายเศรษฐกิจ และ การตรวจสอบว่า เศรษฐกิจอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นตัวชี้วัดขนาดของเศรษฐกิจที่ มันถูกกำหนดให้เป็น "มาตรการรวมของการผลิตเท่ากับผลรวมของค่าขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นของถิ่นที่อยู่ทุกหน่วยสถาบันร่วมในการผลิต (บวกภาษีใด ๆ และลบอุดหนุนใด ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไม่รวมอยู่ในมูลค่าของผลของพวกเขา)" โดย OECD. [2] การประมาณการจีดีพีเป็นที่นิยมใช้ในการวัดประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศหรือภูมิภาค แต่ยังสามารถวัดการมีส่วนร่วมของญาติของภาคอุตสาหกรรม นี้เป็นไปได้เพราะจีดีพีเป็นตัวชี้วัดของมูลค่าเพิ่มมากกว่าการขาย; จะเพิ่มมูลค่าของ บริษัท แต่ละเพิ่ม (มูลค่าของการส่งออกของลบมูลค่าของสินค้าที่มีการใช้ในการผลิตได้) ยกตัวอย่างเช่น บริษัท ซื้อเหล็กและเพิ่มมูลค่าให้กับมันโดยการผลิตรถยนต์ นับสองครั้งที่จะเกิดขึ้นถ้าจีดีพีรวมเข้าด้วยกันมูลค่าของเหล็กและมูลค่าของรถที่. [3] เพราะมันขึ้นอยู่กับการเพิ่มมูลค่าจีดีพียังเพิ่มขึ้นเมื่อองค์กรที่จะช่วยลดการใช้วัตถุดิบหรือทรัพยากรอื่น ๆ (การบริโภคระดับกลาง ' ) ในการผลิตผลผลิตเดียวกัน. การใช้งานที่คุ้นเคยมากขึ้นของการประมาณการจีดีพีคือการคำนวณการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจากปี (และเมื่อเร็ว ๆ นี้จากไตรมาสกับไตรมาส) รูปแบบของการเจริญเติบโตของ GDP ที่จัดขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นความสำเร็จหรือความล้มเหลวของนโยบายเศรษฐกิจและเพื่อตรวจสอบว่าเศรษฐกิจคือในภาวะเศรษฐกิจถดถอย '

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คือ การวัดขนาดของเศรษฐกิจ มันหมายถึง " เป็นวัดโดยรวมของการผลิตเท่ากับผลรวมของค่าทั้งหมดของที่อยู่อาศัยหน่วยสถาบันร่วมในการผลิต ( บวกภาษีใด ๆและลบใด ๆ การอุดหนุนสินค้าที่ไม่รวมอยู่ในค่าของผลของพวกเขา ) " โดย OECD [ 2 ]

GDP ประมาณการมักใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศ หรือภูมิภาค แต่ยังสามารถวัดค่าความสัมพันธ์ระหว่างการ อุตสาหกรรม นี้เป็นไปได้เพราะ GDP เป็นตัวชี้วัดของ ' มูลค่าเพิ่ม ' มากกว่าการขาย ; มันจะเพิ่มมูลค่าของ บริษัท แต่ละเพิ่ม ( มูลค่าของผลผลิต ลบค่าของสินค้าที่ใช้ในการผลิต ) ตัวอย่างเช่นบริษัท ซื้อเหล็ก และเพิ่มมูลค่าให้กับมัน โดยการผลิตรถยนต์ นับคู่จะเกิดขึ้นหากจีดีพีรวมค่าของเหล็กและค่าของรถยนต์ [ 3 ] เพราะมันขึ้นอยู่กับมูลค่าจีดีพี เพิ่มขึ้น เมื่อ องค์กร ลดการใช้วัสดุหรือทรัพยากรอื่น ๆ ( ใช้ ' 'intermediate ) เพื่อผลิตผลลัพธ์เดียวกัน