Bhutan's political system has recen

Bhutan's political system has recently changed from an absolute monarchy to a constitutional monarchy. King Jigme Singye Wangchuck transferred most of his administrative powers to the Council of Cabinet Ministers and allowing for impeachment of the King by a two-thirds majority of the National Assembly.[37]

In 1999, the government lifted a ban on television and the Internet, making Bhutan one of the last countries to introduce television. In his speech, the King said that television was a critical step to the modernisation of Bhutan as well as a major contributor to the country's Gross National Happiness (Bhutan is the only country to measure happiness),[38] but warned that the "misuse" of television could erode traditional Bhutanese values.[39]

A new constitution was presented in early 2005. In December 2005, King Jigme Singye Wangchuck announced that he would abdicate the throne in his son's favour in 2008. On 14 December 2006, he announced that he would be abdicating immediately. This was followed by the first national parliamentary elections in December 2007 and March 2008.

On 6 November 2008, 28-year-old Jigme Khesar Namgyel Wangchuck, eldest son of King Jigme Singye Wangchuck, was crowned King.[40

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบการเมืองของภูฏานมีเพิ่งเปลี่ยนจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบรัฐธรรมนูญ กษัตริย์จิกมี่ดอร์ Singye ห้องคิงแล้วของอำนาจของเขาจัดการให้คณะรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรีและการ impeachment ของกษัตริย์โดยส่วนใหญ่สองในสามของสมัชชาแห่งชาติ [37]ในปี 1999 รัฐบาลยกบ้านโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต ทำภูฐานหนึ่งประเทศล่าสุดแนะนำโทรทัศน์ ในคำพูดของเขา พระบอกว่า โทรทัศน์ขั้นตอนที่สำคัญเพื่อ modernisation ภูฏานเป็นผู้บริจาคสำคัญของประเทศรวมชาติสุข (ภูฏานเป็นประเทศเดียวในการวัดความสุข), [38] แต่เตือนว่า "ผิด" ของโทรทัศน์สามารถกัดกร่อน Bhutanese ค่าดั้งเดิม [39]รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ถูกนำเสนอในช่วงต้นปี 2005 ในเดือน 2005 ธันวาคม กษัตริย์จิกมี่ดอร์ Singye ห้องคิงประกาศว่า เขาจะ abdicate บัลลังก์ในโปรดปรานของบุตรในปี 2008 ในวันที่ 14 2549 ธันวาคม เขาประกาศว่า เขาจะเป็น abdicating ทันที นี้ถูกตาม ด้วยเลือกตั้งรัฐสภาแห่งชาติครั้งแรกในเดือนธันวาคมปี 2007 และ 2008 มีนาคมวันที่ 6 2551 พฤศจิกายน 28 ปีห้อง Khesar กับ Namgyel กษัตริย์จิกมี่ดอร์ บุตรชายคนโตของกษัตริย์ห้อง Singye กษัตริย์จิกมี่ดอร์ มงกุฎกษัตริย์ [40

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระบบการเมืองของภูฏานเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการเปลี่ยนแปลงจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นระบอบรัฐธรรมนูญ กษัตริย์ ในปี ในคำพูดของเขาพระมหากษัตริย์กล่าวว่าโทรทัศน์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ของภูฏานเช่นเดียวกับผู้บริจาครายใหญ่ของประเทศที่มีความสุขมวลรวมประชาชาติ รัฐธรรมนูญใหม่ที่ถูกนำเสนอในช่วงต้นปี นี้ตามมาด้วยการเลือกตั้งรัฐสภาแห่งชาติเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม เมื่อวันที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ของภูฏานระบบการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นตามรัฐธรรมนูญพระมหากษัตริย์ กษัตริย์จิกมี ซิงเย วังชุก ย้ายมากที่สุดของเขาในการบริหารอำนาจสภารัฐมนตรีและให้ถอดถอนกษัตริย์โดยส่วนใหญ่สองในสามของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [ 37 ]

ในปี 1999 รัฐบาลยกเลิกคำสั่งห้ามในโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตทำให้ภูฏานเป็นหนึ่งในประเทศสุดท้ายที่จะแนะนำโทรทัศน์ ในคำพูดของเขากษัตริย์กล่าวว่าโทรทัศน์เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะความทันสมัยของภูฏาน เป็นผู้สนับสนุนหลัก เพื่อความสุขของประเทศมวลรวมประชาชาติ ( ภูฏานเป็นประเทศเดียวที่จะวัดความสุข ) [ 38 ] แต่เตือนว่า " ผิด " ของโทรทัศน์อาจบั่นทอนคุณค่า [ 39 ]
ภูฏานแบบดั้งเดิม
รัฐธรรมนูญใหม่ที่ถูกนำเสนอในต้นปี 2005 ในเดือนธันวาคม 2005 , กษัตริย์จิกมี ซิงเย วังชุก ประกาศว่า เขาจะยกบัลลังก์ของลูกชายที่ชอบใน 2008 ในวันที่ 14 ธันวาคม 2006 , เขาประกาศว่าเขาจะ abdicating ทันที นี้ตามด้วยก่อนการเลือกตั้งรัฐสภาแห่งชาติในปี 2550 และเดือนมีนาคม 2008 ธันวาคม .

ที่ 6 พฤศจิกายน 2551อายุ 28 ปี สารพลังงานต่ำ ลูกชายคนโตของกษัตริย์จิกมี ซิงเย วังชุก , ปราบดาภิเษกกษัตริย์ [ 40