The rate of fall of the hemoglobin

The rate of fall of the hemoglobin level is also important functionally. Those with chronic anemia may demonstrate little decline in ca- pacity even at very low hemoglobin levels, whereas those with acute red cell deficits may decompensate despite more reasonable hemoglobin levels. Anemic states are less well tolerated in the elderly and those with chronic obstructive pulmonary disease or cardio- vascular diseases. Given the variety of clinical factors possibly affecting functional capacity, a fixed criterion of serum hemoglobin level for participation in reha- bilitation therapies is unwarranted. Rather, the best guidance for adjustment of therapeutic activity is ob- tained by checking patient symptomatology, including dyspnea, lightheadedness, and chest pain; pulse and blood pressure; and, occasionally, pulse oximetry. These checks should be made prior to and during activity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัตราการลดลงของระดับฮีโมโกลบินก็มีความสำคัญเช่นกัน ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางเรื้อรังอาจแสดงความสามารถลดลงเล็กน้อยแม้ในระดับฮีโมโกลบินต่ำมาก ในขณะที่ผู้ที่มีภาวะขาดเซลล์เม็ดเลือดแดงเฉียบพลันอาจสลายตัวได้แม้จะมีระดับฮีโมโกลบินที่สมเหตุสมผลมากกว่าก็ตาม ภาวะโลหิตจางสามารถทนต่อผู้ป่วยสูงอายุและผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหรือโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ไม่ดีนัก เนื่องจากปัจจัยทางคลินิกที่หลากหลายที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการทำงาน เกณฑ์คงที่ของระดับฮีโมโกลบินในซีรั่มสำหรับการมีส่วนร่วมในการบำบัดฟื้นฟูจึงไม่ได้รับการรับรอง แต่คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับการปรับเปลี่ยนกิจกรรมการรักษาทำได้โดยการตรวจสอบอาการของผู้ป่วย รวมถึงอาการหายใจลำบาก อาการวิงเวียนศีรษะ และอาการเจ็บหน้าอก ชีพจรและความดันโลหิต และบางครั้งอาจตรวจวัดออกซิเจนในเลือดด้วย การตรวจสอบเหล่านี้ควรทำก่อนและระหว่างกิจกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัตราการลดลงของระดับฮีโมโกลบินก็มีความสําคัญในการทํางานเช่นกัน ผู้ที่ทุกข์ทรมานจากโรคโลหิตจางเรื้อรังแม้ในระดับฮีโมโกลบินต่ำความสามารถอาจลดลงเล็กน้อยและผู้ที่ทุกข์ทรมานจากข้อบกพร่องของเม็ดเลือดแดงเฉียบพลันแม้ว่าระดับฮีโมโกลบินจะเหมาะสมกว่าอาจสูญเสียการชดเชย ภาวะโลหิตจางสามารถทนได้ไม่ดีในผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหรือโรคหัวใจและหลอดเลือด เกณฑ์การตรึงระดับฮีโมโกลบินในซีรัมที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดฟื้นฟูนั้นไม่มีมูลความจริงโดยคำนึงถึงปัจจัยทางคลินิกต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการทำงาน ในทางตรงกันข้าม แนวทางที่ดีที่สุดในการปรับกิจกรรมการรักษาคือการตรวจสอบอาการของผู้ป่วย ได้แก่ หายใจลําบาก เวียนศีรษะและเจ็บหน้าอก ชีพจรและความดันโลหิต และบางครั้งก็มีเครื่องวัดออกซิเจนชีพจร การตรวจสอบเหล่านี้ควรทำทั้งก่อนและระหว่างการจัดงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัตราการลดลงของระดับฮีโมโกลบินเป็นสิ่งสําคัญในการทํางาน ผู้ป่วยโรคโลหิตจางเรื้อรังแทบจะไม่ลดลงแม้ในระดับฮีโมโกลบินต่ํามากในขณะที่ผู้ป่วยที่มีภาวะขาดเม็ดเลือดแดงเฉียบพลันอาจชดเชยความผิดปกติแม้จะมีระดับฮีโมโกลบินที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหรือโรคหัวใจและหลอดเลือดมีความทนทานต่อภาวะโลหิตจางน้อยลง เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยทางคลินิกต่างๆที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการทํางานไม่สมควรที่จะกําหนดมาตรฐานคงที่สําหรับระดับฮีโมโกลบินในซีรัมที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูสมรรถภาพ ในทางตรงกันข้ามคําแนะนําที่ดีที่สุดในการปรับกิจกรรมการรักษาสามารถทําได้โดยการตรวจสอบอาการของผู้ป่วยรวมถึงการหายใจลําบากเวียนศีรษะและอาการปวดหน้าอก ชีพจรและความดันโลหิต บางครั้งก็มีเครื่องวัดออกซิเจนชีพจร การตรวจสอบเหล่านี้ควรทําก่อนและระหว่างกิจกรรม